อวี๋หวั่นเดินเล่นอยู่ในสำนักสักพัก ทว่าสำนักนี้ใหญ่เหลือกิน ใหญ่ยิ่งกว่าจวนสกุลเห้อเหลียนทั้งสองฝั่งรวมกันเสียอีก อวี๋หวั่นเดินไปจนขาแทบหัก แต่ก็ไม่เห็นวี่แววของเจียงไห่
พวกเขาไม่อาจเดินเอ้อระเหยลอยชายตามหาเจียงไห่เช่นนี้ต่อไป ไม่อย่างนั้นพวกเขาก็คงต้องตามหาอีกนาน
กระนั้นก็ไม่สามารถถามไปตรงๆ ว่าเจ้าสำนักอยู่ที่ใด คงจะ อาจจะ เป็นไปได้ว่าจะไม่มีใครบอกคนนอกอย่างเธอ
อวี๋หวั่นลูบคาง เธอชักจะเริ่มสงสัยในชีวิตแล้ว
ทูตแห่งความมืดทั้งสองตามมาราวกับเงาตามตัวจนอวี๋หวั่นเริ่มรู้สึกรำคาญ
พวกเขาเดาไม่ออกว่าเป้าหมายของอวี๋หวั่นกับซิวหลัวคืออะไรเป็นเรื่องหนึ่ง แต่ติดตามมาขวางหูขวางตาเช่นนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
อวี๋หวั่นหยุดฝีเท้าลง
ซิวหลัวก็หยุดฝีเท้าลงเช่นกัน
ทูตแห่งความมืดทั้งสองก็หยุดฝีเท้าลงเช่นกัน
อวี๋หวั่นหันหน้าไปแล้วพูดกับพวกเขาอย่างช่วยไม่ได้ว่า “บุรุษผู้อาจหาญทั้งสอง พวกเจ้าตามติดพวกข้ามาทั้งคืนไม่เหนื่อยบ้างหรือ?”
ซิวหลัว: นั่นสิ ไม่เหนื่อยหรืออย่างไร!
ทูตแห่งความมืดทางซ้ายตอบว่า “ฮูหยินไม่เหนื่อย ข้าก็ไม่เหนื่อย”
อวี๋หวั่นเป่าเส้นผม “แต่ข้าเห็นพวกเจ้าแล้วเหนื่อยใจ”
ซิวหลัว: เหนื่อยใจ!
ทูตแห่งความมืดทางขวาบอกว่า “ฮูหยินเดินต่อไปเถิด ไม่ต้องสนใจพวกข้า”
“ข้าหิวแล้ว” อวี๋หวั่นบอก
ทั้งสองมุมปากกระตุก เอาอีกแล้ว แม่นางคนนี้ถ้าหากในหนึ่งวันไม่หิวสักเจ็ดแปดครั้งไม่ได้เลยใช่ไหม?
ทูตแห่งความมืดทางขวาพูดต่อ “เช่นนั้นฮูหยินก็กลับเรือน ในครัวมีคนทำอาหารให้”
อวี๋หวั่นตอบอย่างเกียจคร้านว่า “ข้าหิวจะแย่อยู่แล้ว เดินไม่ไหวแล้ว พวกเจ้าไปหาของกินมาให้หน่อยสิ กินอื่มแล้วข้าถึงจะมีแรงเดินกลับเรือน”
ทั้งสองมุมปากกระตุก ความสามารถในการพูดจาส่งเดชหน้าตายเช่นนี้ หากแม่นางผู้นี้เป็นที่สอง เกรงว่าคงจะไม่มีผู้ใดกล้าขึ้นเป็นที่หนึ่งแล้ว พวกเขาไม่สามารถทำอะไรกับเธอได้ เรื่องบางเรื่องพวกเขาอาจเลือกปฏิเสธ แต่เรื่องอาหารการกินเครื่องนุ่งห่ม พวกเขาจะปฏิเสธก็คงไม่เหมาะนัก
ระหว่างทั้งสองฝ่ายมีเส้นกำหนด หากไม่ล้ำเส้นกัน เธอก็คือฮูหยิน พวกเขาก็คือบ่าว
“ฮูหยินอยากกินอะไรหรือขอรับ” ในที่สุดทั้งสองก็ยอมประนีประนอมด้วย ทูตแห่งความมืดทางขวาตัดสินใจไปยกอาหารมาให้อวี๋หวั่น
แน่นอนว่าอวี๋หวั่นย่อมต้องเลือกอาหารที่ขั้นตอนการปรุงซับซ้อน “ก้วนทังเปาหนึ่งเข่ง เนื้อตุ๋นน้ำแดงหนึ่งชาม กระดูกสันหลังแพะหนึ่งหม้อ”
ทูตแห่งความมืดทางขวาบอกว่า “มากขนาดนี้เชียวหรือ เกรงว่าคงจะยกมาไม่หมด”
ทั้งเข่งทั้งหม้อ เห็นทีคงต้องสร้างห้องครัวให้แล้วกระมัง!!
อวี๋หวั่นเลิกคิ้ว “แม้แต่ก้อนหินที่หนักนับร้อยจินเจ้ายังยกไหว กับข้าวแค่ไม่กี่อย่างจะยกไม่ไหวเชียวหรือ อย่ามาหลอกกันเสียให้ยาก”
ซิวหลัวถลึงตาใส่พวกเขา ใช่แล้ว! อย่ามาหลอกกันเสียให้ยาก!
ทูตแห่งความมืดทางขวาจึงเดินไปยังห้องครัวอย่างจนปัญญา
ครั้นอยู่ในเผ่า เขาได้ยินเรื่องราวของฮูหยินผู้นี้มาไม่น้อย ว่านางเป็นคนที่ใครได้ยินชื่อก็ต้องหน้าถอดสี เดิมทีเขาก็เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ทว่าบัดนี้ได้เห็นเป็นประจักษ์แล้ว คนในเผ่าไม่ได้หลอกเขาจริงๆ นางเอาใจยากเหลือเกิน!
เมื่อเพื่อนไปแล้ว ทูตแห่งความมืดทางซ้ายก็เหลือตัวคนเดียว
อวี๋หวั่นเดินไปอีกสามสี่ก้าว สายตาก็เบนมาแล้วถามเขาว่า “ห้องน้ำอยู่ไหนหรือ?”
เจ้าเป็นสตรี มาถามบุรุษว่าห้องน้ำอยู่ที่ไหนเช่นนี้จะดีหรือ?
เขาชี้นิ้วออกไป “อยู่นั่น”
อวี๋หวั่นมองออกไป อยู่ไม่ไกล แต่ถึงอย่างนั้นสลัดหลุดไปสักคนก็ยังดี
“เจ้ารอข้าอยู่ที่นี่แหละ ประเดี๋ยวข้ากลับมา” อวี๋หวั่นบอก
เขาเดินตามไป “ข้าน้อยได้รับคำสั่งมาให้อารักขาฮูหยิน จะออกห่างจากฮูหยินไม่ได้”
อวี๋หวั่นหัวเราะเบาๆ “สำนักเฟยอวี๋ป่าเถื่อนจนคิดว่าข้าคงโดนจับกินกระมัง? ข้าว่าเจ้ากำลังจับตามองข้าเสียมากกว่า”
เขาตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “แล้วแต่ฮูหยินจะคิด”
“ได้ เช่นนั้นเจ้าก็ตามข้ามา”
พูดจบ อวี๋หวั่นก็เดินไปโดยไม่หันหลังกลับมามอง
“หึ!” ซิวหลัวมองค้อนทูตแห่งความมืด จากนั้นก็เดินไปอย่างผึ่งผาย
ทูตแห่งความมืดเดินตามทั้งสองไปถึงห้องน้ำ
ห้องน้ำที่นี่ใหญ่เหลือเกิน กว้างขวางราวกับเป็นเรือนหลังหนึ่ง หากไม่รู้ก็คงคิดว่าเป็นเรือนหรู
อวี๋หวั่นหยุดฝีเท้าหน้าประตู แล้วหันไปบอกว่า “ตอนนี้เจ้าคงจะไม่ตามข้าเข้ามาแล้วกระมัง? หลังจากนี้ถ้าหากข้าอาบน้ำ พวกเจ้าก็คงจะต้องมายืนเฝ้าด้วยสินะ? นายเจ้ารู้หรือไม่ว่าเจ้าทำเช่นนี้กับฮูหยินของเขา?”
ทูตแห่งความมืดหน้าแดงก่ำในทันใด
คำพูดเหลวไหลเช่นนี้ นางกล้าพูดออกมาด้วยรึ?
เขาไม่คิดจะตามเข้าไปตั้งแต่แรกแล้ว อย่างไรเสียที่นี่ก็แขวนป้ายเอาไว้ ศิษย์หญิงเท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปได้ เขาเป็นบุรุษอกสามศอก จะเข้าไปได้อย่างไร?
“ข้าจะรอฮูหยินอยู่ที่นี่” ทูตแห่งความมืดก้มหน้า สายตาของเขายังคงแน่วแน่
อวี๋หวั่นบอกกับซิวหลัวว่า “ซิวหลัว ดูเขาไว้ ข้ากังวลเหลือเกินว่าเขาจะเข้าไปแอบดูร่างกายอันงดงามของข้า!”
ทูตแห่งความมืดโมโหจนมุมปากกระตุกไม่หยุด ใครจะไปแอบดูเจ้า!!!
ซิวหลัวก้าวไปด้านหน้า เพื่อขวางหน้าเขาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]