หลังออกจากตำหนักจินหลวน อารมณ์ของเยี่ยนไหวจิ่งซับซ้อนสับสน
ด้านหนึ่ง เยี่ยนจิ่วเฉาทำในสิ่งที่เขาไม่สามารถทำได้ เขารู้สึกอิจฉา อีกด้านหนึ่งหม่าซื่อหลางกับฮองเฮาเป็นญาติเชื้อสายเดียวกัน เยี่ยนจิ่วเฉากับฮองเฮาก็เป็นฝั่งเดียวกัน นี่จะไม่เป็นการหักปีกตนเองหรอกหรือ? หากบอกว่ามีคนรายงานเรื่องนี้อย่างโจ่งแจ้ง เยี่ยนจิ่วเฉาก็อาจจำต้องตัดสินโทษเนื่องจากแรงกดดันจากเจ้าหน้าที่และประชาชน แต่นี่กลับเป็นเขาที่เปิดโปงคดีด้วยตนเอง
เขาไม่หวาดหวั่นยำเกรงสิ่งใดเช่นนี้เชียวหรือ?
แม้ว่าเขาจะไม่ได้เอ่ยยกโทษให้หม่าซื่อหลาง แต่ดีร้ายอย่างไรก็น่าจะรายงานฮองเฮาล่วงหน้า เพื่อเห็นแก่หน้านางสักหน่อยมิใช่หรือ?
นี่ไม่พูดอะไรสักคำก็ฆ่าคนไปแล้ว!
ไม่สิ ตัดเอวแล้ว!
รูปแบบที่เขาไม่อาจทำ เยี่ยนจิ่วเฉากลับทำลงไปทั้งหมด!
แม้จะริษยาแทบตายอย่างไร แต่เยี่ยนไหวจิ่งก็ต้องยอมรับ ว่าหลังจากหม่าซื่อหลางถูกตัดเอว ความโกรธแค้นที่คับแน่นในอกมานานหลายเดือนของเขาก็ได้ปะทุพรั่งพรูออกมาในที่สุด
…ช่างสาแก่ใจยิ่งนัก!
เมื่อเยี่ยนจิ่วเฉาเข้าไปในรถม้าก็พบว่าอวี๋หวั่นมารอเขาอยู่แล้ว อวี๋หวั่นมองเขาด้วยรอยยิ้ม ดวงตาเปล่งประกายราวกับดวงดาว
“มาแล้วหรือ? ข้ารออยู่นานแล้ว!” อวี๋หวั่นกล่าว
นี่คือเรื่องจริง เมื่อเธอออกจากตำหนักเฟิ่งชี เขาก็เพิ่งลงโทษจัดการกับหัวโจกของคดีเสร็จ แต่หลังจากหม่าซื่อหลางก็ยังมีผู้สมรู้ร่วมคิดอีกหลายคน เขาไล่จัดการทีละคน อวี๋หวั่นเฝ้ารออยู่ในรถม้า และไม่หวังว่าตนจะหลับไป ไม่รู้ว่าทนลำบากมากเพียงใด
เยี่ยนจิ่วเฉานั่งลงข้างเธอ ชะงักและถามว่า “ฮองเฮาเรียกเจ้ามาหรือ?”
อวี๋หวั่นทำปากมุ่ย “เหตุใดไม่คิดว่าข้าจะคิดถึงท่าน แล้วมารับท่านด้วยตนเองบ้างเล่า?”
เยี่ยนจิ่วเฉาเหลือบมองขนมที่ถูกกินไปครึ่งหนึ่งบนโต๊ะ กับของเล่นเล็กๆ สองสามชิ้นที่กระจัดกระจายอยู่บนพื้น “พวกต้าเป่าก็คิดถึงข้าด้วยหรือ?”
อวี๋หวั่น”…”
ลืมเก็บของของเด็กๆ ไปเลย!
ไข่น้อยทั้งสามกับเถี่ยตั้นน้อยกลับจวนไปก่อนแล้ว อวี๋หวั่นรอเขาอยู่ที่นี่เพียงลำพังเพื่อให้เขาประหลาดใจ แต่ผู้ใดให้เขาร้ายกาจเช่นนี้ เดาออกไปเสียทุกอย่าง
“คนของฮองเฮาทำผิดร้ายแรงเพียงใดกัน?” อวี๋หวั่นถาม เมื่อฮองเฮาได้ยินว่าใต้เท้าหม่าถูกตัดเอวก็เป็นลมไปด้วยความโกรธ เธอไม่มีอารมณ์จะอยู่ดูแลนางที่ตำหนักเฟิ่งชี จึงพาเถี่ยตั้นน้อยกับไข่น้อยทั้งสามออกมา
เยี่ยนจิ่วเฉาบอกอวี๋หวั่นเกี่ยวกับหม่าซื่อหลางโดยไม่คิดจะปกปิด เขาไม่ได้บอกเธอในตอนที่อยู่บนเรือ หนึ่งเพราะเธอหลับไปแล้ว สองเพราะนี่ก็ไม่ใช่เรื่องดีอะไร แต่หากเธอถาม เขาก็จะไม่โกหก
“สารเลวยิ่งนัก! ฆ่าไปเสียก็ดี!” อวี๋หวั่นกำหมัด
หากสตรีทั่วไปได้ฟังเรื่องนี้ ไม่มีทางที่จะมีปฏิกิริยาเช่นนี้ และแน่นอนหากสามีทั่วไปได้เห็นปฏิกิริยาเช่นนี้ของภรรยา ก็ย่อมไม่มีทางมีปฏิกิริยาเช่นที่เยี่ยนจิ่วเฉากำลังจะแสดงออก
เยี่ยนจิ่วเฉาลูบหัวของอวี๋หวั่นอย่างพึงพอใจ “ไม่ต้องเสียดายที่ไม่ได้เห็น ยังมีคนที่ต้องถูกแล่เนื้อเถือหนัง น่าดูกว่าตัดเอวเสียอีก คราหน้าข้าจะพาเจ้าไปดู”
อวี๋หวั่น “อื้ม!”
อิ่งลิ่วที่อยู่นอกรถ “…”
อิ่งสือซันที่อยู่นอกรถเช่นกัน “…”
…
เหตุการณ์ของหม่าซือหล่างสร้างความฮือฮาไม่น้อย ระหว่างทางกลับจวน ได้ยินคนคุยกัน บ้างก็ว่าหม่าซื่อหล่างสมควรตาย บ้างก็วิพากษ์วิจารณ์เยี่ยนจิ่วเฉาว่าเป็นจอมเผด็จการ อวี๋หวั่นรู้ดีว่าหัวใจของสามีตนไม่ได้เปราะบางเช่นนั้น แต่เมื่อได้ยินคำวิพากษ์วิจารณ์ เธอเองก็ยังอยากจะกระโดดลงไปเถียงคนดูสักตั้ง
เป็นอะไรไป?
ไอ้สัตว์ร้ายอย่างหม่าซื่อหลางรังแกชาวบ้านกับสตรีบริสุทธิ์ไปตั้งเท่าไร พอถูกตัดเอวก็รู้สึกสงสารขึ้นมา พวกคนที่ถูกเขาฆ่าหรือทำร้ายมาทั้งชีวิตไม่น่าสงสารหรอกหรือ?
น่าโมโหนัก!
อวี๋หวั่นบีบนวดสัตว์พิษตัวน้อยด้วยความโกรธจนมันมึนหัวตาลาย แต่เมื่อเธอหันไปก็เห็นเยี่ยนจิ่วเฉาที่ดูเหมือนกำลังเพลิดเพลิน
“ท่าน…มีความสุขเรื่องใดกัน?” อวี๋หวั่นถามด้วยความฉงน
“เมื่อครู่คนพวกนั้นเรียกข้าว่าอะไรนะ?” เยี่ยนจิ่วเฉาถาม
“เผด็จ…จอมเผด็จการ” อวี๋หวั่นเอ่ยอย่างแผ่วเบา เพราะกลัวจะทำให้เขาหงุดหงิด
ริมฝีปากของเยี่ยนจิ่วเฉายกขึ้นเล็กน้อย “แล้วก่อนหน้านี้พวกเขาเรียกข้าว่าอะไร?”
อวี๋หวั่นกระแอมในลำคอ “เจ้าบ้า?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]