หลังจากเหยียนหรูอวี้เข้าไปในจวนคุณชายเยี่ยน นางก็ตรงไปที่ลานบ้านของเยี่ยนจิ่วเฉา นางไม่เคยมาจวนคุณชายเยี่ยนมาก่อน ไม่รู้ว่าที่แห่งนี้เคยไร้ซึ่งชีวิตชีวา จนกระทั่งเด็กน้อยทั้งสามมาที่นี่ ถอนขนหมูน้อยทุกวัน ห้องสำคัญถูกเปิดโปง ทุกที่มีกลิ่นอายของชีวิต
เหยียนหรูอวี้ชอบความสงบ เมื่อได้ยินเสียงครวญครางของลุงวั่นดังมาไกลๆ จึงทำให้นางรู้สึกไม่พอใจ
นางสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อสงบอารมณ์ เผยรอยยิ้มที่สง่างามและก้าวเข้าไปในจวนของคุณชาย
ที่นี่นางไม่จำเป็นต้องปิดบังรูปลักษณ์ นางสวมชุดสีขาว งดงามประดุจเทพธิดาในโลกมนุษย์ ไม่ว่าจะยิ้มหรือขมวดคิ้วล้วนบริสุทธิ์ไร้ที่ติ ทว่าทั้งหมดนี้ดูไร้ความหมายในสายตาของเหล่าผู้รับใช้จวนคุณชาย หลังจากค้อมตัวคำนับนางด้วยสายตาที่ไม่วอกแวก พวกเขาก็แยกย้ายไปทำงานของตัวเองต่อ
เหยียนหรูอวี้รู้สึกได้ถึงความเคารพของคนเหล่านี้ ทว่าความเคารพนั้นมิได้เป็นการสวามิภักดิ์จากภายใน หากแต่เพราะนางเป็นมารดาผู้ให้กำเนิดของคุณชายตัวน้อยทั้งสาม
ความรักที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของบุรุษที่มีต่อบุตร บางครั้งมิใช่การเอาอกเอาใจเขามากมาย ทว่าเป็นการให้ความเคารพมารดาของเขาอย่างเหมาะสม
แม้ว่าเยี่ยนจิ่วเฉาจะมิได้แสดงความรักเยี่ยงชายหนุ่มหญิงสาวต่อนาง ทว่าเขาก็ไม่เคยปล่อยให้ลูกๆ ต้องอับอายเพราะนาง
ในตอนแรกนางมาด้วยจุดประสงค์บางอย่าง ทว่ายามนี้ นางอยากจะแต่งงานกับชายผู้นี้จริงๆ เสียแล้ว
“เขาเป็นผู้ที่ควรค่าแก่การใช้ชีวิตด้วย” เหยียนหรูอวี้พึมพำ
แม่หลินได้ยินไม่ชัด “คุณหนูเอ่ยอันใดหรือเจ้าคะ?”
ใบหน้าของเหยียนหรูอวี้ปรากฏรอยยิ้มงดงามจับตา “คุณชายน่ะ เขามิได้เลวร้ายเหมือนในข่าวลือ เขาคู่ควรที่จะใช้ชีวิตร่วมกับสตรีสักคน”
แม่หลินมองคุณหนูของนางด้วยสายที่ไม่คาดคิด คงมิใช่ว่านางหวั่นไหวจริงๆ ใช่ไหม?
“แม่หลิน” ดวงตาของเหยียนหรูอวี้ทอประกายแห่งความฝันอันงดงาม “ข้าอยากแต่งงานกับเขา”
“เอ่อ…” แม่หลินกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ดูเหมือนว่าคุณหนูจะหลงรักคุณชายเยี่ยนเข้าจริงๆ ก็มิใช่เรื่องเลวร้ายแต่อย่างใด แต่ทว่าจวนคุณชายหาใช่จะแต่งเข้าได้ง่ายๆ!
เดิมทีที่มีเด็กทั้งสาม ก็คิดว่าความสำเร็จจะอยู่ในกำมือ ทว่ายามได้สัมผัสด้วยตนเองก็พบว่าคุณชายผู้นี้ช่างดื้อดึงและทิฐิสูง หากคุณหนูของนางไม่ได้มีความสัมพันธ์กับคุณชายน้อย ก็คงมิได้มีความสัมพันธ์ถึงขั้นนี้ ด้วยรูปลักษณ์ ความสามารถ นิสัยใจคอ และประวัติชีวิตของคุณหนู มีตรงไหนที่ไม่ใช่ผู้ที่คู่ควรกับตำแหน่งพระชายาเยี่ยนเล่า? ต่อให้เป็นบุตรีของอัครมหาเสนาบดีที่เทียบได้กับสวี่เสียนเฟย บุตรีของไท่เว่ย[1] หรือบุตรีของอวี้สื่อ[2] ที่อยู่ในรูปลักษณ์ของนายกรัฐมนตรี ก็ยังไม่มีผู้ใดที่โดดเด่นไปกว่าคุณหนู!
“ข้าจะไม่ยอมแพ้ให้กับหญิงบ้านนอกนั่น” เหยียนหรูอวี้เอ่ยด้วยความมั่นใจ
ทั้งสองเดินเข้าไปยังลานบ้านระหว่างที่สนทนากัน
เด็กชายทั้งสามวิ่งไปมาอยู่ในสวน ดอกไม้ใบหญ้าถูกทำลายยับเยิน ลุงวั่นไล่ตามหลังมาจนแทบหายใจไม่ทัน
เหยียนหรูอวี้ที่ตัดสินใจด้วยความมุ่งมั่นเพียงชั่ววินาทีก่อนหน้านี้ก็ต้องสะดุ้ง ยามเห็นเด็กน้อยที่แข็งแรงและมีชีวิตชีวาทั้งสามคน
ความคิดของนางล่องลอยไปไกล ไม่สามารถควบคุมได้
เหล่าเด็กน้อยนั้นยังไม่ทราบว่าเหยียนหรูอวี้มาแล้ว ทะลวงเข้าออกพุ่มไม้ สิ่งที่จับอยู่ในมือมิใช่ไม้นวดแป้ง แต่เป็นข้าวโพดบนซังข้าวโพดที่สลัดให้หลุดออกมาไม่ได้
เหตุใดพวกเขากระโดดโลดเต้นด้วยความดีใจถึงเพียงนี้?
เหตุใดเด็กบางคนไม่สามารถอยู่รอดได้?
เหยียนหรูอวี้บีบผ้าคลุมแน่น
ลุงวั่นไม่ไหวแล้ว จึงเดินขาเป๋กลับห้องไป
เด็กน้อยทั้งสามหยุดทะลวงพุ่มไม้ แต่เปลี่ยนไปนอนบนขอบบ่อปลา แล้วเอื้อมมือไปหาปลาในบ่อแทน
น้ำในบ่อตื้นมาก ทว่าในวันที่อากาศหนาวเย็นเช่นนี้ หากตกลงไปจริงๆ อย่างไรเสียก็อาจทำให้ป่วยหนักได้ หรือบางทีอาจจะป่วยหนักและไม่มีวันฟื้นอีก…
“คุณหนู คุณหนู!”
เสียงของแม่หลินขัดจังหวะความคิดของเหยียนหรูอวี้ นางฟื้นคืนสติ และเห็นว่าในมือของนางกำลังจับเด็กคนหนึ่งไว้ เด็กคนนั้นถูกนางยกขึ้น และอาจถูกโยนลงสระได้ทุกเมื่อ
เด็กน้อยมองนางด้วยความงงงวย
แม่หลินดึงตัวเด็กกลับมา
เหยียนหรูอวี้ฝ่าเท้าเย็น นางเซถอยหลังไปสองสามก้าว เมื่อครู่เกิดอันใดขึ้นกับนาง? นางกำลังคิดสิ่งใดอยู่? นางเสียสติไปแล้วหรือ?
ต้าเป่าและเอ้อร์เป่าวิ่งเข้าไป พวกเขาเงยหน้าขึ้นและกะพริบตาโตมองเหยียนหรูอวี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]