อิ่งลิ่วออกจากห้องอย่างไม่เต็มใจ “เหตุใดต้องเรียกข้า? มิใช่ว่ามีเจ้าก็เพียงพอจะปกป้องคุณชายแล้วรึ?”
อิ่งสือซันเอ่ยอย่างจำใจ “เอาเถิด เป็นเรื่องใหญ่อันใด? เจ้าจึงปล่อยมันไปไม่ได้?”
อิ่งลิ่วทำหน้ามุ่ย “หึ!”
อิ่งสือซันตบไหล่เขาพลางเอ่ยอย่างจริงใจ “ข้าคิดว่าเจ้าเป็นเช่นนี้ก็ดีเหมือนกัน”
“ข้าเป็นเช่นไร?” อิ่งลิ่วเอ่ยถามอย่างอารมณ์เสีย
อิ่งสือซันครุ่นคิดสักพัก และเอ่ยอย่างไม่กลัวตายว่า “ตัวเล็กน่ารักจุ๋มจิ๋ม”
อิ่งลิ่ว “…”
อิ่งสือซันไปด้วยใบหน้าหล่อเหลาสง่างาม กลับมาด้วยใบหน้าปูดบวมฟกช้ำ เยี่ยนจิ่วเฉาเหลือบมอง โดยไม่ถามว่าผู้ใดเป็นคนกระทำ และยังคงขึ้นรถม้าไป
วัดหนิงอันอยู่ในเมืองหลวง ทว่าอยู่ห่างไกลจากจวนคุณชาย อีกทั้งยังมีเส้นทางขรุขระหลายสายบนภูเขาที่ต้องเดินเท้า โชคดีที่อิ่งสือซันมีทักษะในการขับรถม้าเป็นอย่างดี จึงจอดรถม้าที่เชิงเขาได้ทันก่อนยามโหย่ว
เมื่อขึ้นเขาไปครึ่งทางก็จะพบกับวัดหนิงอัน
ทั้งสามคนปีนขึ้นไปตามขั้นบันได และเดินอีกเพียงชั่วเวลาจิบชาหนึ่งถ้วย[1] ในที่สุดก็มาถึงวัด
อิ่งสือซันล่วงหน้าไปที่วัด แล้วเดินดูรอบๆ ทว่าหาได้พบผู้ที่น่าสงสัยหรือคุณหนูเหยียนเลย
แปลกยิ่งนัก หากเหยียนหรูอวี้ต้องการขอความช่วยเหลือ อย่างน้อยก็ควรปรากฏตัวออกมาพบพวกเขา ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะล่วงรู้ได้อย่างไรว่าเกิดอันใดขึ้นกับนาง?
และหากมันเป็นกับดักที่วางไว้เพื่อเยี่ยนจิ่วเฉา ที่นี่ก็ควรปิดล้อมไว้อย่างแน่นหนา
“คุณชาย” อิ่งสือซันบอกเยี่ยนจิ่วเฉาเกี่ยวกับผลการตรวจสอบ
เยี่ยนจิ่วเฉาเลิกคิ้ว “เป็นไปได้หรือไม่ว่ามีใครบางคนกำลังล้อเล่นกับข้าอยู่?”
“คุณชายกับอิ่งลิ่วโปรดกลับไปก่อนเถิด ข้าจะรออยู่ที่นี่ เผื่อบางที…”
อิ่งสือซันเอ่ยไปได้เพียงครึ่งหนึ่ง เหยียนเซี่ยก็แอบขึ้นมาบนภูเขาพร้อมกับห่อผ้าขนาดใหญ่
“เหยียนเซี่ย!”
ณ จวนสกุลเหยียน เหยียนหรูอวี้พบว่าสิ่งที่นางซ่อนไว้ในโต๊ะทำงานของตนหายไป ปฏิกิริยาแรกของนางคือเหยียนเซี่ย!
นอกจากเหยียนเซี่ยแล้ว นางนึกไม่ออกว่ายังมีผู้ใดที่น่าเหลืออดถึงเพียงนี้ มาย้ายโถ…เถ้ากระดูก
เมื่อสาวรับใช้ได้ยินนางเรียกชื่อเหยียนเซี่ย ต่างก็หวาดกลัว จะทุบข้าวของระบายความโกรธแค้นไม่มีใครว่า แต่พี่ชายที่ไร้ยางอายเช่นนี้ ใครได้รู้ก็มีแต่คนประณาม
“พวกเจ้าไม่มีผู้ใดเห็นเหยียนเซี่ยเลยรึ?” เหยียนหรูอวี้ดวงตาแดงฉาน ราวกับจะกลืนกินพวกเขา
เหล่าข้าทาสเงียบกริบราวกับจักจั่นเหมันตฤดู
เหยียนหรูอวี้เดินออกจากลานบ้านของเหยียนเซี่ย ไปที่ลานบ้านของฮูหยินเหยียนและเหยียนฉงหมิง หลังจากนั้นก็ค้นหาทั่วจวน ทว่าก็ไม่พบแม้แต่เงาของเหยียนเซี่ย!
เหยียนเซี่ยไม่รู้ว่าเหยียนหรูอวี้ได้โกรธจนบ้าคลั่งไปแล้ว ข้อความที่เขาทิ้งไว้ เหยียนหรูอวี้ไม่มีทางไม่ทราบว่าเป็นคำพูดของเขา เขารู้จักเหยียนหรูอวี้เป็นอย่างดี นางต้องมาที่วัดหนิงอันอย่างแน่นอน
แต่สิ่งที่เหยียนเซี่ยไม่เข้าใจคือ เขารอในอารามอยู่นาน ไฉนจึงไม่เห็นเณรน้อยมารายงานเขา ว่ามีสตรีสูงศักดิ์สง่างามมาที่นี่เลย?
เขาให้เงินเณรน้อยไปถึงครึ่งตำลึง!
เหยียนเซี่ยที่ไปขโมยของมาเมื่อคืน ไม่ได้นอนเต็มอิ่ม เพียงครู่หนึ่งก็เกิดความรู้สึกง่วงนอน เอนตัวหลับที่หัวเตียง
อิ่งสือซันย่องเข้าไปในห้องอย่างเงียบๆ และกดจุดหลับไหลของเหยียนเซี่ย หยิบห่อผ้าที่เหยียนเซี่ยกอดไว้ในอ้อมแขนอย่างแน่นหนา กลับไปยังห้องอารามข้างๆ
เหยียนเซี่ยถูกจับตาตั้งแต่เข้ามาในวัด การสอดแนมของเหยียนเซี่ย ไม่อาจรอพ้นจากสายตาของคนทั้งสามไปได้ เหยียนเซี่ยต้องการอารามเป็นสิ่งแรก จากนั้นก็ติดสินบนเณรน้อย เพื่อยามสตรีสูงศักดิ์มาถึงจะได้นำข่าวมาบอก
สตรีผู้นั้นเป็นใคร ไม่ต้องบอกก็ทราบดี
ไม่คิดว่าเหยียนเซี่ยจะเป็นเช่นนี้ กระทั่งน้องสาวที่คลานตามกันมาก็ยังกล้าขู่!
ทว่าบุตรชายไร้ประโยชน์ที่ล้างผลาญบิดามารดาอย่างเหยียนเซี่ย ถึงกับต้องให้คุณชายของพวกเขาออกตัวจัดการหรือ? เหยียนหรูอวี้คิดอย่างไรกัน? ฆ่าไก่ด้วยมีดแล่วัวก็ยังเทียบไม่ได้! แล้วก็มิได้เหมือนเช่นแม่นางอวี๋ ที่บิดาแท้ๆ จะถูกจับไปบั่นหัว
อิ่งสือซันมุ่นคิ้วไม่พอใจ พลางนำห่อผ้าส่งให้คุณชาย
“เปิดออก” เยี่ยนจิ่วเฉาเอ่ย
อิ่งสือซันชะงัก “…ขอรับคุณชาย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]