พวกเขากลับมายังเขาเซิ่งเฟิง
แม้ว่าภูเขาเซิ่งเฟิงจะถูกทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี ทว่าวังที่ประมุขศักดิ์สิทธิ์อาศัยอยู่ เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ทรงพลานุภาพยิ่ง ไม่ได้รับความเสียหายเลยแม้แต่น้อย
ประมุขหลินมองดูประมุขศักดิ์สิทธิ์ของพวกตนกับบุรุษชุดดำเข้าไปในวัง ส่วนตัวเองก็หยุดรอนอกวังอย่างรู้ดี
คนที่คุ้นเคยกับประมุขศักดิ์สิทธิ์ รู้ดีว่าเขาไม่ชอบให้ผู้ใดเข้าไปในวังของเขา ต่อให้เป็นอาจารย์ปู่ก็ทำได้เพียงยืนคุยกับเขาอยู่ในลาน ไม่เช่นนั้น ประมุขหลินจะรู้สึกได้อย่างไร ว่าหลายปีมานี้ประมุขศักดิ์สิทธิ์อยู่อย่างโดดเดี่ยวเกินไป?
หากคุ้นเคยกับนิสัยของประมุขศักดิ์สิทธิ์ แต่ประมุขหลินยังกล้าเลือกหญิงรับใช้ให้ประมุขศักดิ์สิทธิ์ ก็ต้องบอกว่าประมุขหลินไม่ธรรมดาทีเดียว
เมื่อแน่ใจว่าประมุขศักดิ์สิทธิ์เดินออกไปไกลแล้ว ประมุขหลินจึงทอดถอนใจยาวเหยียด สะบัดแขนเสื้อ หันไปเอ่ยกับผู้พิทักษ์ด้านหลัง “สิ่งที่พวกเจ้าเห็นวันนี้ ข้าไม่สนใจว่าพวกเจ้าจะคิดเช่นไร แต่ห้ามพูดออกไปเด็ดขาด นี่คือคำสั่ง เข้าใจหรือไม่?”
ทุกคนยกมือคำนับรับคำสั่ง
ประมุขหลินทอดถอนใจอย่างช่วยไม่ได้
เอ่ยตามตรง การเลี้ยงปีศาจจิ้งจอกหนุ่มอะไรนั่น มิใช่เรื่องที่ยากยอมรับเกินไปในสายตาของประมุขหลิน แต่หากเจ้าสำนักของพวกตนเป็นฝ่ายที่อยู่ด้านล่าง ก็ยากที่จะเอ่ยปาก
เมื่อนึกถึงประมุขศักดิ์สิทธิ์ที่หยอกล้อกับทารกผู้นั้นมาตลอดทางด้วยใบหน้ายิ้มแย้มอ่อนหวาน ประมุขหลินก็ยิ่งเชื่อว่าการคาดเดาของตนนั้นถูกต้อง
ยังเป็นประโยคเดิม หากเขาไม่ได้เห็นกับตาตัวเอง คงไม่มีวันเชื่อว่าเป็นเรื่องจริง
เหตุผลคือ หนึ่ง ไม่มีผู้ใดเก่งกาจสามารถใช้กลอุบายกับประมุขศักดิ์สิทธิ์ได้ สอง พลังปราณของประมุขศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับเมื่อก่อนไม่มีผิด ไม่มีทางที่จะเป็นตัวปลอม
ดังนั้นประมุขหลินจึงค่อนข้างเชื่อว่าประมุขศักดิ์สิทธิ์ถูกปีศาจจิ้งจอกหนุ่มทำให้หลงใหลปลาบปลื้ม เพราะอย่างไรประมุขศักดิ์สิทธิ์ก็ยังคงปฏิบัติกับพวกเขาเช่นดอกไม้บนผาสูง มีเพียงยามที่พูดคุยกับปีศาจจิ้งจอกหนุ่มเท่านั้นที่ส่งสายตาเสน่หาให้
“กลับไปกันเถอะ จำที่ข้ากำชับให้ดี หากฝ่าฝืนจะถูกลงโทษ!”
ประมุขหลินออกคำสั่งจบ กำลังจะไปจากเขาเซิ่งเฟิงพร้อมทุกคน ทว่าไหนเลยจะรู้ว่าเดินไปได้ไม่กี่ก้าว เยี่ยนเสี่ยวซื่อก็กลับมา
นางเพิ่งเดินดูรอบวัง ก็พบว่าช่างวังเวงยิ่งนัก! นอกจากพวกเขาสามคน ก็ไม่มีผู้ใดอีก!
“ประมุขหลินโปรดอยู่ต่อ” เยี่ยนเสี่ยวซื่อเลียนแบบท่าทางของประมุขศักดิ์สิทธิ์ เรียกประมุขหลินด้วยสีหน้าราบเรียบ
ประมุขหลินรีบหันกลับมาและเอ่ยอย่างสุภาพ “ประมุขศักดิ์สิทธิ์ มีสิ่งใดรับสั่งหรือ?”
“คนในวังไปที่ใดกันหมด?” เยี่ยนเสี่ยวซื่อถาม
“หา?” ประมุขหลินประหลาดใจที่ถูกถามเช่นนี้ ในวังของเจ้ามีคนด้วยหรือ?
เยี่ยนเสี่ยวซื่อไม่ใช่คนโง่ เมื่อเห็นสีหน้าประมุขหลิน นางก็ตระหนักได้ทันทีว่าพูดบางอย่างผิดไป ในวังแห่งนี้เดิมทีไร้ผู้คนอยู่แล้ว เจ้าก้อนน้ำแข็งอยู่คนเดียวมาตลอดหลายปี
ไม่มีแม้กระทั่งข้ารับใช้ เขาคุ้นชินกับมันได้อย่างไร?
เยี่ยนเสี่ยวซื่อเติบโตขึ้นมาก็มีผู้คนรายล้อมตั้งแต่ยังเด็ก ยากจะเข้าใจว่าคนเราจะอยู่รอดในค่ำคืนยาวนานที่นับไม่ถ้วนได้อย่างไร อีกอย่าง การอยู่คนเดียวก็ช่างน่าเบื่อ
เยี่ยนเสี่ยวซื่อกระแอมในลำคอแล้วเอ่ยว่า “เจ้าไม่ได้คัดเลือกหญิงรับใช้ให้ข้าหรอกหรือ? เหตุใดถึงยังไม่ได้ส่งมา?”
เมื่อถูกโยนความผิด ประมุขหลินก็พลันตื่นตระหนก
สมกับเป็นประมุขศักดิ์สิทธิ์ เขายังไม่ได้เอ่ยสิ่งใดก็รู้ทัน ใต้หล้าจะมีเรื่องใดปิดบังประมุขศักดิ์สิทธิ์ผู้นี้ได้!
เดิมทีประมุขหลินคิดจะยกเลิกการคัดเลือกหญิงรับใช้ ทว่าเมื่อประมุขศักดิ์สิทธิ์เอ่ยปาก เขาก็ย่อมต้องส่งคนมา
คืนนั้น ธิดาผู้งดงามอ่อนช้อยจากสำนักต่างๆ จึงถูกส่งมายังวังในเขาเซิ่งเฟิง
พวกนางไม่รู้เรื่องปีศาจจิ้งจอกหนุ่มแม้แต่น้อย รู้เพียงม่านพลังบนเขาเซิ่งเฟิงถูกทำลาย หลังจากนั้นก็มีอัสนีบาต ประมุขหลินแจ้งกับภายนอกว่าประมุขศักดิ์สิทธิ์กลั่นยาคุณภาพสูง นำพาฟ้าดินแปรปรวนเกิดฟ้าผ่า
ส่วนปีศาจจิ้งจอกหนุ่ม ประมุขหลินอ้างว่าอีกฝ่ายเป็นสหายของประมุขศักดิ์สิทธิ์ เพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่ล่วงเกินเขา
“จริงสิ เหตุใดไม่เห็นแม่นางเยี่ยนเล่า?” ฉินหลิ่วจือถาม
มู่เฉียงเวยเยาะเย้ย “นางน่ะเรอะ แปดในสิบส่วนคงกลัวฟ้าผ่าฟ้าร้องหนีกระเจิงไปแล้วกระมัง!”
ทุกคนต่างพากันหัวเราะเยาะ
ขี้ขลาดเช่นนี้ กล้าถ่อมาแย่งตำแหน่งสาวใช้ประมุขศักดิ์สิทธิ์กับพวกนาง บัดนี้คงรู้แล้วว่าผู้ใดมีคุณสมบัติเหมาะสมที่สุดที่จะรับใช้ประมุขศักดิ์สิทธิ์
“พวกเจ้าว่าประมุขศักดิ์สิทธิ์จะเลือกผู้ใดเป็นข้ารับใช้คนสนิท?” ฉินหลิ่วจือถาม
ในบรรดาสี่คน รูปลักษณ์และความสามารถของนางธรรมดาที่สุด ดังนั้นเมื่อได้ยินคำถามเช่นนี้จากปากนางจึงดูเหมือนต้องการรู้จริงๆ ไม่เป็นที่น่ารังเกียจ
“ข้าคิดว่าเป็นคุณหนูฟู่” มู่เฉียงเวยเอ่ยด้วยรอยยิ้ม
ยังไม่ชัดเจนอีกหรือ? รูปโฉมกิริยาของฟู่หรูเสวี่ยยอดเยี่ยมที่สุด ความสามารถและขอบเขตพลังก็สูงที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นนางยังเกี่ยวดองกับประมุขหลิน!
เมื่อครู่เขาเซิ่งเฟิงตั้งม่านพลัง พวกนางถูกศิษย์นิกายศักดิ์สิทธิ์พากลับมารอที่สำนัก พวกนางนั่งอยู่ในห้องโถง มีเพียงฟู่หรูเสวี่ยที่ไปห้องชั้นบนของฮูหยินเจ้าสำนัก
ฟู่หรูเสวี่ยกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าคิดว่าทุกคนมีโอกาส บางทีเราทุกคนอาจเป็นข้ารับใช้ของประมุขศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นได้”
คำพูดของนางปลอมพอๆ กับรอยยิ้ม หากพวกนางฟังแล้วยังเชื่อก็คงจะโง่เกินไป
แม้รูปร่างหน้าตาและความแข็งแกร่งจะไม่ดีเท่านาง ทว่าจิตใจพวกนางก็ยังดีกว่า
พวกนางต้องได้รับความโปรดปรานจากประมุขศักดิ์สิทธิ์ ได้อยู่เป็นผู้รับใช้ข้างกายประมุขศักดิ์สิทธิ์ในวัง!
ผลสุดท้าย ทั้งสี่ได้รับเลือกให้อยู่
ทว่ากลับไม่มีผู้ใดมีความสุข เพราะแม้พวกนางจะได้อยู่รับใช้ประมุขศักดิ์สิทธิ์ ทว่า…การปรนนิบัติรับใช้ในความหมายของพวกนาง คือการหวีผมให้ประมุขศักดิ์สิทธิ์ จัดแจงอาภรณ์ อาบน้ำเปลื้องผ้า อ่านหนังสือให้ฟัง พูดคุยแก้เบื่อ……
มิใช่ทำงานตรากตรำเช่นนี้!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]