หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 393

ในเวลานี้หากอีกฝ่ายต้องการชีวิตเขา เขาก็แทบไร้กำลังจะต่อต้าน

แน่นอน เขาสามารถร้องขอความช่วยเหลือได้

ซือคงฉางเฟิงไม่ทำเช่นนี้

ร่างของเยี่ยนจิ่วเฉาใกล้เข้ามา

เยี่ยนจิ่วเฉายื่นมือออกมา

“คุณชาย” ในที่สุดเด็กรับใช้ก็ฟื้นคืนสติกลับมา แต่ก็น่าเสียดายที่มันสายเกินไป

ซือคงฉางเฟิงหลับตาลง

ตายก็ตาย คนสกุลซือคงจะไม่มีทางร้องขอความเมตตา

ทันใดนั้น ฝ่ามือของซือคงฉางเฟิงก็ตกลง รู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างมาอยู่ในมือของเขา กว่าจะลืมตาขึ้น เยี่ยนจิ่วเฉาก็สะบัดแขนเสื้อจากไปแล้ว หายไปในความมืดยามราตรีไร้ที่สิ้นสุด

เขามองไปที่สิ่งของในมือและต้องตะลึงงันในชั่วพริบตา

นี่ นี่มันอะไร?

ใช้ความพยายามอย่างหนักถึงเพียงนั้น ทั้งลอบเข้าสกุลซือคงทั้งจู่โจมเขา ก็…ก็เพื่อส่งไข่ไก่สีแดงให้เขาสองฟอง?!!

หลังจากส่งไข่แดงแล้ว เยี่ยนจิ่วเฉาก็อารมณ์ดี บินไปบินมาบนหลังคายามราตรี

ไข่แดงส่งแล้ว ต่อไปก็คือการชำระบัญชีกับคนสกุลหลาน

แน่นอน เขาไม่ได้จะไปช่วยแมลงตัวน้อยที่ติดอยู่ข้างกายสตรีของเขา หากแต่ไปเพื่อกู้ศักดิ์ศรีให้สตรีของตนเอง

แต่..

สกุลหลานอยู่ที่ใดกันละ?

เยี่ยนจิ่วเฉามองท้องฟ้าอย่างเลื่อนลอย

คุณชายผู้ถูกอ๋องแห่งเผ่าปีศาจครอบงำจนหลงลืมเส้นทาง…

ในจวนทางตะวันออกของเมือง กลุ่มคนกำลังหารือกันถึงกลยุทธ์ในการจัดการคนสกุลหลาน ทันใดนั้นชิงเหยียนก็หันกลับมาและพบว่าเยี่ยนจิ่วเฉาหายตัวไปแล้ว!

ตั้งแต่เยี่ยนจิ่วเฉาได้รับพลังราชาปีศาจ ก็ไปไหนมาไหนอย่างอิสระ และไม่ง่ายที่จะถูกคนสัมผัสถึงลมหายใจของเขาอีก

เสียงเรียกนี้ของชิงเหยียน ทำให้ห้องที่มีเสียงดังเอะอะเงียบลงในทันที

อวี๋หวั่นมองไปรอบๆ และชี้ไปที่เก้าอี้ด้านข้างด้วยความประหลาดใจ “เมื่อครู่ไม่ได้นั่งอยู่ตรงนี้หรือ?”

“ใช่ ข้าก็เห็น” อิ่งลิ่วเกาศีรษะ เห็นชัดๆ ว่านั่งอยู่ด้านหน้าเขา ทำไมเขาไม่รู้เลยว่าคุณชายหายไป?

พลังราชาปีศาจอะไรนี่ ทำร้ายคนให้ตายจริงๆ!

ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าคุณชายของพวกเขาออกไปตั้งแต่เมื่อไหร่!

“ข้าจะไปตามหาคุณชาย!” อิ่งสือซันลุกพรวด!

“ข้าจะไปด้วย” อิ่งลิ่วก็ลุกขึ้น

“ข้าจะไปกับพวกเจ้า” ชิงเหยียนไม่เกี่ยงงอนในเรื่องที่ควรกระทำ เมื่อนึกบางอย่างขึ้นได้ จึงเอ่ยต่อว่า “เยว่โกว เจ้าไปเรียกอาเว่ย อาหวั่น เจ้าและท่านยายหลานไปพักผ่อนกันก่อน เรื่องไปสกุลหลานค่อยหารือกันใหม่”

“ข้าก็จะไปหาเขาด้วย” อวี๋หวั่นจับมือนางหลาน “ลำบากท่านยายดูแลเด็กๆ แล้ว”

นางหลานมองคนสองสามคนอย่างไม่คาดคิด เอ่อ…การตอบสนองเช่นนี้ เกินจริงไปหรือไม่?

นางหลานอ้าปาก พูดออกมาอย่างลังเล “พวกเจ้าอย่าเพิ่งร้อนใจไป วรยุทธ์จิ่วเฉาดีเช่นนั้น คงไม่ถูกใครทำร้ายเอาง่ายๆ”

สีหน้าชิงเหยียนยากจะอธิบาย “พวกเราไม่ได้กังวลว่าเขาจะถูกใครทำร้าย แต่กังวลว่าเขาจะทำกับคนอื่นอย่างไร”

………

บนถนนมืดมิด ไร้เงาผู้คน เยี่ยนจิ่วเฉาก้าวเท้าเดินไปด้วยสีหน้าเย็นชา

แม้ว่าเขาจะจำทางไปสกุลหลานไม่ได้ แต่เขาก็สามารถถามได้นี่

เพียงแต่ยามนี้ดึกมากแล้ว และถนนสายนี้ยังเป็นถนนเส้นที่มีคนอยู่น้อยที่สุด เขาเดินอยู่นานกว่าจะพบคู่หนุ่มสาวที่อุ้มเด็กมา

เขาเดินเข้าไปหาอย่างองอาจดุดัน

คู่หนุ่มสาวได้พบกับบุรุษสวมหน้ากากอสูรมีเขี้ยวท่าทางดุร้ายน่ากลัวในฉับพลัน คิดว่าตนเองเห็นผี ตกใจกลัวกระทั่งเด็กน้อยก็ลืมสิ้น วิ่งหนีกระเจิดกระเจิง!

เด็กชายวัยสี่ขวบยืนตะลึงอยู่ตรงนั้น

เยี่ยนจิ่วเฉาเดินเข้าไปด้วยพลังที่แผ่ซ่าน ยกมุมปากผุดรอยยิ้มเยือกเย็นให้เด็กน้อยและกล่าวถามอย่างยโสโอหัง “เจ้าหนู สกุลหลานอยู่ที่ใด?”

เด็กน้อยที่ไม่เข้าใจแม้แต่น้อยว่าเขากำลังพูดถึงอะไร “…”

เยี่ยนจิ่วเฉาข่มขู่ด้วยรอยยิ้มเยาะ “ไม่บอก ข้าจะทำให้เจ้าเสียใจ”

เด็กน้อยมองเยี่ยนจิ่วเฉาด้วยดวงตาเบิกกว้าง ทันใดนั้นเขาก็นั่งยองๆ และร้องไห้ออกมา!

เยี่ยนจิ่วเฉาผู้ล้มเหลวในการข่มขู่ “…”

เมื่อถามที่อยู่ของสกุลหลานไม่ได้ความ เยี่ยนจิ่วเฉาก็ไม่ได้ย่อท้อ เขาเดินต่อไป ผ่านตรอกที่มืดมิดมองไม่เห็นแม้นิ้วมือทั้งห้า มาถึงถนนอีกสาย ถนนสายนี้ดูมีชีวิตชีวากว่ามาก เขาเดินเรื่อยเปื่อยเข้าไปในร้านอาหารแห่งหนึ่ง…ที่ต้องกล่าวคือ นั่นเป็นหอนางโลม

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]