หลังจากองค์หญิงจิ่วถูกพาไปที่จวนคุณชาย เยี่ยนจิ่วเฉาก็เริ่มการกวาดล้างอำนาจของฮองเฮา
ยามนั้นที่นางถูกพาออกมาจากตำหนักเย็น ไม่ใช่เพราะความรู้สึกที่มีต่อนาง หรือแม้แต่ความเคารพให้เกียรติยังไม่อาจนับได้ นางเป็นเพียงเบี้ยถ่วงดุลสวี่เสียนเฟย สวี่เสียนเฟยสูญเสียอำนาจไปแล้ว เบี้ยตัวนี้ก็ไร้ประโยชน์ จะทิ้งไปก็ไม่เสียดาย เพียงแต่เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ใช่คนที่เสร็จงานฆ่าโคถึก ตราบใดที่ฮองเฮาไม่ทำเกินงาม ไม่ว่านางจะได้ดีหรือตกอับในวังหลัง เยี่ยนจิ่วเฉาก็จะไม่เข้าไปยุ่ง
นางหาเรื่องใส่ตัวเอง ทั้งยังเห็นเยี่ยนจิ่วเฉาเป็นคนตาบอด เช่นนั้นก็ไม่อาจทนได้อีกแล้ว
เรื่องขององค์หญิงจิ่วยังไม่เอ่ยถึง นั่นสามารถมอบให้ฮ่องเต้จัดการได้ แต่ฮองเฮาคิดจะเล่นงานจวนเยี่ยนอ๋อง? จะให้ภรรยาและบุตรของเยี่ยนจิ่วเฉาถึงเวลาต้องกินลมจนท้องป่องหรือ?
ยามที่เยี่ยนจิ่วเฉาแต่งงานกับอวี๋หวั่น เขาตัดสินใจแล้วว่าหากวันหนึ่งเขาตายไป อย่างน้อยก็ให้อวี๋หวั่นได้สืบทอดมรดกของจวนเยี่ยนอ๋องอย่างถูกต้อง
กล้ามายุ่งกับมรดกที่เขาทิ้งไว้ให้อวี๋หวั่น? คงเบื่อชีวิตแล้วกระมัง?
วันนี้ที่ตำหนักฉางเซิงเกิดเรื่องใหญ่ หลังจากขันทีชิมยาร้อนที่นำมาถวายแก่ฮ่องเต้ก็ล้มลงกับพื้น
เมื่อตรวจสอบพบว่าขันทีถูกวางยา หลังจากนั้นหมอหลวงได้ตรวจสอบกากยาจีนที่ถวายแก่ฮ่องเต้และพบว่าในนั้นมีอูโถว
สิ่งที่ต้องรู้คืออูโถวมีพิษร้ายแรง คนธรรมดาสัมผัสเพียงเล็กน้อยอาจเกิดความเสียหายที่ไม่อาจย้อนกลับได้ นับประสาอะไรกับฮ่องเต้ที่นอนเป็นอัมพาตอยู่บนเตียง?
ชัดเจนว่ามีคนต้องการวางยาพิษฮ่องเต้ให้ถึงแก่ความตาย
เยี่ยนจิ่วเฉาให้ขันทีวังตรวจสอบเรื่องนี้อย่างละเอียด ขันทีวังเป็นคนสนิทของฮ่องเต้ เขาเสนอตัวทุกคนต่างยอมรับ
ในคืนนั้นขันทีวังก็จับนางข้าหลวงที่วางยาพิษลงในยาของฮ่องเต้ได้สำเร็จ นางร้องไห้บอกว่าได้รับคำสั่งจากฮองเฮา
“สามหาว! ข้าไปสั่งเจ้าเมื่อใด? ข้าไม่รู้จักเจ้าด้วยซ้ำ!” ฮองเฮาโกรธจัด
นางข้าหลวงน้อยเอ่ยอย่างน้อยเนื้อต่ำใจ “ฮองเฮาเพคะ! ท่านตรัสเช่นนี้ได้อย่างไร? เหตุใดท่านจะไม่รู้จักบ่าว? ท่านเป็นคนพาบ่าวเข้าวังเอง! แล้วก็เป็นท่านที่ให้บ่าวมาอยู่รับใช้ข้างกายฝ่าบาท! บ่าวทำทุกอย่าง เพราะได้รับคำสั่งจากท่านนะเพคะ!”
ฮองเฮาเอ่ยด้วยความเดือดดาล “เจ้าพูดจาเหลวไหล! ข้าหาได้ทำสิ่งใดไม่!”
การเล่นละครของนางข้าหลวงค่อนข้างน่าพอใจ นางคุกเข่าคลานกับพื้นสองสามก้าว ร่ำไห้ไม่สนใจสิ่งใด “ฮองเฮา! ท่านยอมรับเถิด! ตาข่ายสวรรค์แม้ห่างแต่ไม่รั่ว…ท่านหนีไม่พ้นหรอก….”
“กำเริบเสิบสานนัก!” ฮองเฮาคว้าถ้วยชาบนโต๊ะโยนลงพื้น!
ละครฉากนี้ดูจะยาวสักหน่อย เยี่ยนจิ่วเฉาหาเก้าอี้มานั่งพลางจิบชาอย่างสบายๆ
ขันทีวังคิดว่า ณ จุดจุดนี้ ท่านไม่ควรทำกิริยาเช่นนี้หรือเปล่า? เรากำลังสอบปากคำฮองเฮา ไม่ใช่แมวหรือสุนัข?
“เป็นเจ้าใช่หรือไม่…เยี่ยนจิ่วเฉา! เป็นเจ้า! เจ้าใส่ความข้า!” ฮองเฮาที่ดูเหมือนสตรีบ้าคลั่งกระโจนใส่เยี่ยนจิ่วเฉา แต่ถูกนางข้าหลวงที่อยู่ด้านข้างกอดไว้แน่น
เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ได้แม้แต่จะขยับเปลือกตา “ใส่ความเจ้าแล้วอย่างไร เจ้ามีหลักฐานหรือ?”
ดวงตาของฮองเฮาเป็นประกายวาบ “ขันทีวัง! เจ้าได้ยินแล้วใช่หรือไม่! เจ้าได้ยินว่าเขาตอบเช่นไรใช่หรือไม่!”
ขันทีวังชะงักและพูดอย่างใจเย็น “ไม่ได้ยินพ่ะย่ะค่ะ”
ฮองเฮา “…”
ถึงตอนนี้ฮองเฮาเข้าใจแล้วว่า อุบายสกปรกของตนน่าขันเพียงใดในสายตาเยี่ยนจิ่วเฉา เยี่ยนจิ่วเฉาเพียงแค่ได้รับความโปรดปรานจากฮ่องเต้จริงๆ หรือ? ไม่เลย แม้แต่ขันทีวังที่อยู่ข้างกายฮ่องเต้ก็ยังต้องศิโรราบ
ความสามารถของชายผู้นี้ เดิมทีไม่ได้ธรรมดาอย่างที่นางคิด
นางมองเขาผิดไป
หากกล่าวให้ถูกคือนางประเมินเขาต่ำไป
ไม่ใช่สตรีที่ทรงโปรดปรานหนักหนา มีสิ่งใดน่ากระทบกระเทือนจิตใจ? สวี่เสียนเฟยทำร้ายท่านเช่นนี้ ช่วยแสดงปฏิกิริยาเช่นนี้อีกได้หรือไม่?
“ฝ่าบาท! เป็นอะไรไปพ่ะย่ะค่ะ?” ขันทีวังรีบจับไหล่ฮ่องเต้ ให้เขาทำใจดีๆ ไว้
ฮ่องเต้กระหืดกระหอบ คล้ายกับอาการจะกำเริบอีกครั้ง แต่คำพูดต่อมาของเขาทำให้ขันทีวังถึงกับตะลึงงัน
“ฉงเอ๋อร์…ฉงเอ๋อร์เป็นห่วงข้า…ฮือๆๆ…”
ขันทีวังที่หมดคำพูดไปชั่วขณะ “…”
ฮ่องเต้ตื่นเต้นจนสลบไป เหตุเพราะเยี่ยนจิ่วเฉาล้มล้างฮองเฮาแทนเขา ต้องห่วงใยเขามากเพียงใดถึงทำเรื่องไม่ไว้หน้าผู้อาวุโสเช่นนี้ได้?
ขันทีวังไม่อยากรับใช้เขาแล้ว!
เขาเข้าใจแล้วว่าครอบครัวนี้ไม่มีคนปกติสักคน!
…
วันเหล่านั้นของเยี่ยนจิ่วเฉาผ่านไปสองสามวันก็สามารถกินยาได้แล้ว อวี๋หวั่นไปหาชุยเฒ่า ให้เขาจัดยาให้เยี่ยนจิ่วเฉา ผลคือ…เขาหายตัวไปอีกแล้ว!
อวี๋หวั่นกระทืบเท้าด้วยความโกรธ “คนแซ่ชุย! อย่าให้ข้าจับเจ้าได้นะ!”
ครึ่งเดือนผ่านไปราวพริบตา ใบไม้ใบสุดท้ายในเรือนเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลือง กำหนดคลอดของอวี๋หวั่นมาถึงแล้ว
……………………
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]