ไม่ใช่หญิงตั้งครรภ์ทุกคนจะคลอดในระยะที่กำหนดพอดี บ้างก็ช้ากว่า บ้างก็เร็วกว่า เป็นเรื่องปกติ อย่างเช่นอวี๋หวั่น จนสายก็ยังไม่มีอาการผิดปกติใดๆ
เธอถึงกับสับสน กระทั่งวันนี้เป็นวันครบกำหนดคลอดของตนก็ยังลืมไปแล้ว
เธอเพียงแค่รู้สึกแปลกๆ วันนี้จวนคุณชายดูไม่ปกติเหมือนทุกวัน!
“เหตุใดท่านอยู่ที่นี่?” อวี๋หวั่นขยี้ตามองเยี่ยนจิ่วเฉาที่อยู่ข้างกาย แล้วถามว่า “ไม่ต้องไปว่าราชการหรือ?”
การประชุมในราชสำนักต้าโจวไม่ได้มีทุกวัน แต่เยี่ยนจิ่วเฉาชื่นชอบที่จะไปทุกวัน นานแล้วที่อวี๋หวั่นไม่ได้เห็นเขายามที่เธอตื่นขึ้นมา
เยี่ยนจิ่วเฉาแต่งตัวเรียบร้อย ท่าทางเหมือนคนที่ตื่นแต่เช้า ทว่ากลับนั่งอยู่ที่หัวเตียงโดยไม่คิดจะออกไป
นี่ก็แปลกเช่นกัน แต่ก่อนต่อให้ไปว่าราชการ เขาก็ไม่เคยนั่งอย่างสงบบนเตียงเช่นนี้ คล้ายกับอยู่เพื่อเฝ้าตนอย่างไรอย่างนั้น
อวี๋หวั่นกวาดตามองเขาขึ้นลง “เยี่ยนจิ่วเฉา ท่านทำเรื่องไม่ดีอะไร…ลับหลังข้ามาใช่หรือไม่?”
เยี่ยนจิ่วเฉาที่กลายเป็นแพะรับบาปไปโดยปริยาย “…”
หลังจากอวี๋หวั่นทานอาหารเช้า เธอก็ยังนึกเรื่องวันครบกำหนดคลอดไม่ออก แต่เธอพบว่าจู่ๆ คนในเรือนก็ทำตัวแปลกไป ไข่น้อยทั้งสามที่ปกติแม้ว่าจะไปอยู่กับเยี่ยนอ๋องก็ยังซุกซนจนทำให้อวี๋หวั่นใจตุ้มๆ ต่อมๆ วันนี้กลับไม่ส่งเสียงดัง! ทั้งสามคนนั่งบนม้านั่งหินในสนามเงียบๆ รักใคร่กลมเกลียว เป็นเด็กดียิ่งนัก!
องค์หญิงจิ่วที่มักจะเรียบร้อย นั่งอ่านหนังสือที่ทางเดิน นางทำตัวปกติที่สุด
ครู่หนึ่งเถี่ยตั้นน้อยก็วิ่งมาทางเธอ
เธอจับเถี่ยตั้นไว้ “วันนี้เจ้าไม่ต้องเรียนหรือ? เหตุใดถึงวิ่งมาที่เรือนของพี่?”
เถี่ยตั้นน้อยแบมือ พูดในใจว่าเขาเองก็อยากเรียน แต่ลุงเยี่ยนอ๋องกลับใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวยิ่งกว่าเขาเสียอีก จึงให้เขามาดูสักหน่อย กลัวว่าท่านพี่จะคลอดกะทันหัน!
แต่ท่านพี่กลับสบายดี จนลืมวันที่ต้องคลอดโก่วตั้นไปเสียสนิท!
เถี่ยตั้นน้อยมองดูพี่สาวด้วยแววตาลุ่มลึก รู้สึกเห็นใจหลานชายโก่วตั้นอย่างสุดซึ้ง
“เอาละ ข้าไปแล้ว!” เถี่ยตั้นน้อยสองมือไพล่หลังเดินจากไปราวกับนายท่านชรา
อวี๋หวั่น “…”
เด็กๆ สมัยนี้…วอนมือเช่นนี้แล้วหรือ?
ผิงเอ๋อร์เป็นสาวใช้ที่แสบที่สุด ไม่เช่นนั้นนางคงไม่อาจเดินทางข้ามประเทศ ผ่านความเป็นความตายกับอวี๋หวั่นมาได้ ทว่าแม้แต่นางเช้าวันนี้ก็ยังดูแปลกไปจากเดิม ทำอะไรอย่างระมัดระวัง
อวี๋หวั่นหยิบผลเหอเถามากิน เหอเถาชนิดนี้เธอบีบกินทีละผล แต่จู่ๆ ผิงเอ๋อร์กลับปรี่เข้ามาในชั่วพริบตา “ให้ข้าทำเถอะ ฮูหยินน้อย!”
แคร่ก!
อวี๋หวั่นบีบผลเหอเถาออกอย่างง่ายดาย “เจ้าเร็วเท่าข้าหรือไม่ละ?”
ผิงเอ๋อร์ “…”
อวี๋หวั่นไปที่ใด เยี่ยนจิ่วเฉาก็ตามไปที่นั่น ไข่น้อยทั้งสามกับเถี่ยตั้นที่เคยติดเธอเป็นหางน้อย วันนี้หางน้อยทั้งสี่กลับไม่เห็นแล้ว ผลัดให้เขามาเป็นหางใหญ่ให้เธอหรือ?
อวี๋หวั่นไปเข้าห้องน้ำ เขาก็เข้าไปกับเธอ
อวี๋หวั่นขมวดคิ้วจ้องมองเขาด้วยความประหลาดใจ “ข้าไปเข้าห้องน้ำ ท่านจะตามมาด้วยหรือ?”
เยี่ยนจิ่วเฉาตอบด้วยสีหน้าจริงจัง “อือ”
ไปเข้าห้องน้ำยิ่งต้องตามไปด้วย กลัวเจ้าไม่ระวังทำบุตรสาวคลอดตกส้วมไป
หลังจากทานอาหารกลางวัน อวี๋หวั่นก็ยังคงแข็งแรงมีชีวิตชีวา ไม่มีวี่แววว่าจะคลอดบุตร
“คงไม่ใช่ว่าวันนี้…ไม่คลอดแล้วกระมัง?” ภายในห้อง เถาเออร์กระซิบถามหลิวมามา
หลิวมามาเป็นหมอตำแยที่เก่งที่สุดในเมืองหลวง นางทำคลอดเด็กมาแล้วหลายพันคน บุตรเจ้าขุนมูลนายส่วนใหญ่เป็นนางที่ทำคลอด ครึ่งเดือนก่อนนางก็ถูกลุงวั่นเชิญมาอยู่ที่จวนแล้ว ให้กินอยู่เป็นอย่างดี
หลิวมามาแคะเม็ดก๊วยจี๋ มองดูอวี๋หวั่นที่นั่งแทะถังหูลู่อยู่ในเรือน มุ่ยปากเอ่ย “ก็บอกยาก”
“บอกยากหมายความว่าอย่างไร?” เถาเอ๋อร์ถามอย่างกังวล
หลิวมามาเอ่ย “ท้องก็ไม่เล็กแล้ว กำหนดคลอดก็ถึงแล้ว หากจะคลอดก็คลอดได้ ทว่าเด็กบางคน…ออกมาช้า พวกเจ้าไม่ต้องกังวลไป ครรภ์ของพระชายาแข็งแรงดี ช้าไปสักสองสามวันก็ไม่เป็นไร”
ผิงเอ๋อร์เป็นคนเดียวที่รู้เรื่องอาการป่วยของเยี่ยนจิ่วเฉา หลังจากกลับมาต้าโจว อวี๋หวั่นก็ไม่ได้ปิดบังนางอีก
เวลานี้ นางได้ยินสิ่งที่หลิวมามากล่าว ฝ่ามือของนางก็เริ่มมีเหงื่อออก พูดน่ะง่าย ช้าไปสองสามวันก็ไม่เป็นไร ใช่ เด็กไม่เป็นไร แต่คุณชายเป็นนี่! คุณชายกำลังรอวัตถุดิบยาอยู่!
นับวันดู เยี่ยนจิ่วเฉาก็มาถึงจุดวิกฤตที่พิษจะกำเริบแล้ว
ความจริงเมื่อสามวันก่อน เยี่ยนจิ่วเฉารู้สึกว่าชีพจรของตนผิดปกติไป บางครั้งก็เร็วมาก บางครั้งก็ช้ามาก และมีอาการใจสั่นร่วมด้วยเป็นครั้งคราว
อวี๋หวั่นคิดว่าเขาตื่นเช้า โดยที่ไม่รู้เลยว่าเขานอนไม่ได้ทั้งคืน
เขาไม่อาจนอนหลับได้อีกแล้ว
ชุยเฒ่าเตือนเขาตั้งแต่เนิ่นๆ ว่าหากพิษกำเริบอีกครั้ง จะไม่อาจใช้ยาระงับได้ ทำได้เพียงใช้ยาถอนพิษขั้นสุดท้ายเท่านั้น
ชุยเฒ่ายังเคยบอกกับเขาเป็นการส่วนตัวด้วยว่า หากกำเริบก่อนกำหนดจริง ก็ผ่าคลอดบุตรออกมา อายุครรภ์หลายเดือนแล้วจึงไม่อันตรายมากนัก เขาจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อให้มารดาและบุตรปลอดภัย
เยี่ยนจิ่วเฉาไม่ยินยอม
แม้จะมีความเป็นไปได้เพียงหนึ่งในหมื่น เขาก็ไม่ต้องการให้ภรรยาและบุตรของเขาไปเสี่ยงอันตราย
หลังจากอวี๋หวั่นกินถังหูลู่หมดแล้วเธอก็เริ่มง่วง จึงไปงีบหลับยามบ่าย
ภายในห้อง เยี่ยนจิ่วเฉาใช้วิชาอายุวัฒนะพยายามระงับพิษที่ใกล้จะแตกกระจายไปทั่วร่างกาย แต่กลับพบว่าไร้ประโยชน์ วิชาอายุวัฒนะสามารถควบคุมพิษไว้ได้นานเช่นนี้นับว่าเป็นปาฏิหาริย์แล้ว เพราะอย่างไรมันก็ไม่ใช่วิชาล้างพิษ ดังนั้นหากคิดจะถอนรากถอนโคนก็ยังคงต้องพึ่งยาถอนพิษ
“คุณชาย!” อิ่งสือซันเดินเข้ามา เมื่อเห็นหน้าผากของเยี่ยนจิ่วเฉาเต็มไปด้วยด้วยเม็ดเหงื่อขนาดใหญ่ เขาก็ตกใจ “คุณชาย อาการพิษกำเริบแล้วหรือขอรับ?”
ใบหน้าเยี่ยนจิ่วเฉาซีดเซียว
อิ่งสือซันหันหลังจะเดินออกไป “ข้าจะไปเรียกชุยเฒ่า!”
แม้ชุยเฒ่าจะไม่ได้อยู่ในจวนคุณชาย แต่ก็ไม่ได้อยู่ห่างไกลเกินไป อย่างไรเยี่ยนจิ่วเฉาก็อาจเกิดอาการพิษกำเริบได้ทุกเมื่อ
“ข้าไม่เป็นไร เจ้ากลับมาก่อน” เยี่ยนจิ่วเฉาพูดอย่างอ่อนแรง
อิ่งสือซันเหลือบมองอวี๋หวั่นที่หลับอยู่หลังม่าน แอบกำหมัด ฮูหยินนะฮูหยิน คุณชายติดพิษ ท่านก็ยังไม่คลอดสักที คุณชายใกล้จะรับไม่ไหวแล้ว…
ทันทีที่ความคิดวาบผ่าน ท้องของอวี๋หวั่นก็เคลื่อนไหว ต่อจากนั้นอวี๋หวั่นก็ตื่นขึ้นด้วยอาการเจ็บปวด
“เยี่ยนจิ่วเฉา!” อวี๋หวั่นลืมตาขึ้น
เยี่ยนจิ่วเฉารีบเดินไปหา ยกม่านขึ้นมองอวี๋หวั่นที่จู่ๆ ก็เหงื่อออกราวกับฝนตก “เจ้า…”
อวี๋หวั่นจับมือเขา “ข้า…ข้าเหมือนใกล้จะคลอดแล้ว…”
จวนคุณชายเริ่มวุ่นวายจ้าละหวั่น
แต่ถึงจะยุ่งวุ่นวาย ทว่าเยี่ยนอ๋องกับลุงวั่นต่างก็เฝ้ารอให้วันนี้มาถึง พวกเขาจึงจัดการเรื่องในจวนไว้เรียบร้อยแต่เนิ่นๆ แล้ว
หลิวมามาเข้าไปในห้องคลอด หมอที่มีชื่อเสียงกว่ายี่สิบคนจากเมืองเยี่ยนก็เฝ้าอยู่ด้านนอก น้ำร้อนในครัวถูกต้มไว้ตั้งแต่เมื่อคืนก่อน หม้อแล้วหม้อเล่า ไม่ขาดสาย
“แกงโสมละ?” ลุงวั่นถาม
“ต้มเสร็จแล้ว!” ผิงเอ๋อร์พูด “ข้ากำลังจะยกไปให้ฮูหยินน้อย!”
การคลอดบุตรต้องใช้กำลังมาก ดังนั้นหมอตำแยที่มีประสบการณ์จึงบอกให้คนในครอบครัวเตรียมแกงโสมกับแกงน้ำตาลทรายแดงไว้ บางครั้งก็อาจให้เตรียมอย่างอื่น ทว่ามารดาทั่วไปต่างก็กินอะไรไม่ลง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]