“ท่านแม่ มานานเช่นนี้แล้ว ท่านไม่เหนื่อย ผู้อาวุโสทั้งหลายก็คงเหนื่อยแล้ว อีกอย่าง…คุณชายรองก็อยู่ที่นี่ด้วย พวกเราไปเสวนากันด้านในจวนดีหรือไม่?” อวี๋หวั่นพูดกับหลานเจียวด้วยน้ำเสียงอบอุ่น
หากไม่รู้ ก็ยังคิดว่าบุตรสาวผู้นี้กตัญญูมากสินะ
สตรีศักดิ์สิทธิ์เป็นคนสันโดษเย็นชา ผู้อาวุโสไม่มีโอกาสได้สนทนาทักทายกับนางมากนัก ในบางครั้งที่พบหน้ากัน สตรีศักดิ์สิทธิ์ก็จะนั่งอยู่ตรงนั้นอย่างสูงส่ง แต่สตรีศักดิ์สิทธิ์ในยามนี้คล้ายกับว่าลงมาคลุกคลีกับมนุษย์มากขึ้นเล็กน้อย
ผู้อาวุโสของตระกูลต่างยินดีไม่น้อย ในที่สุดก็เติบโต แต่งงานแล้ว มีเหตุมีผลรู้ความมากขึ้น
หลานเจียวไม่คิดเช่นนั้น เด็กหญิงนี่เห็นได้ชัดว่าตีหน้าแสร้งทำตัวใสซื่อ นางจะกตัญญูต่อนางหรือ? ไม่ทำร้ายนางให้ตายก็ดีมากแล้ว!
“ท่านแม่ ท่านเป็นอะไร? ไม่สบายตรงไหนหรือไม่? อยากให้ลูกเชิญท่านหมอมาหรือไม่?” อวี๋หวั่นถามด้วยสีหน้าห่วงใย
“ไม่จำเป็นแล้ว!” ผีเท่านั้นที่รู้ว่าหมอของนางเด็กผู้นี้จะมาเอาชีวิตนางหรือไม่?
หลานเจียวลอบถลึงตาใส่อวี๋หวั่น เชิญอวี๋หวั่นกับ ‘คุณชายรองสกุลซือคง’ และคนอื่นๆ เข้าจวนสกุลหลานอย่างไม่เต็มใจ
อวี๋หวั่นจับแขนของหลานเจียวไว้ตลอดทาง
หลานเจียวกล่าวเย้ยหยัน “โตถึงเพียงนี้ เป็นสตรีแต่งงานแล้ว เหตุใดยังทำตัวเฉกเช่นเด็กน้อย? ให้คนหัวเราะเยาะ! แล้วก็ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่รู้เส้นทางในจวน ใช่หรือไม่ละ?”
แน่นอนว่าอวี๋หวั่นไม่รู้ทางในจวน สกุลหลานกว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ เธอเคยมาเพียงครั้งเดียว แต่หากนางคิดจะใช้เหตุผลนี้มาเปิดเผยข้อบกพร่องของเธอ ก็ดูถูกเธอมากเกินไปแล้ว
อวี๋หวั่นคลี่ยิ้มเล็กน้อย “ท่านแม่กล่าวสิ่งใด? ต่อให้ลูกโตแล้ว อย่างไรก็ยังเป็นเลือดเนื้อของท่าน วันหน้าไม่อาจมารับใช้ท่านพ่อท่านแม่ได้บ่อยๆ ย่อมหวังว่าจะได้ใกล้ชิดกับท่านให้มาก อ๊ะ จริงสิ พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ข้ายังไม่ได้พบท่านพ่อเลย”
ความจริงมาที่หมิงตูนานถึงเพียงนี้ เธอยังไม่เคยพบท่านตาใหญ่ในข่าวลือเลย ยามนั้นเขาทรยศท่านยายใหญ่ ให้กำเนิดสตรีศักดิ์สิทธิ์กับน้องสะใภ้ของตน อวี๋หวั่นอยากจะเห็นด้วยตาตนเองว่าเขาเป็นบุรุษเช่นไร
ขณะที่หลานเจียวลังเลว่าจะปฏิเสธอวี๋หวั่นอย่างไร ก็เห็นเงาร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากหลังต้นหม่อน นั่นก็คือนายท่านฉินบิดาผู้ให้กำเนิดหลานจี
นายท่านฉินอายุมากกว่าหลานเจียวมาก ทั้งยังไม่อาจรักษาความอ่อนเยาว์ได้ดีเท่าหลานเจียว จึงดูชราเล็กน้อย ทว่ากลับไม่ยากที่จะจินตนาการถึงความหล่อเหลาน่าดึงดูดในวัยหนุ่ม ไม่แปลกใจที่สามารถทำให้ท่านยายใหญ่หลงใหล และทำให้หลานเจียวหวั่นไหว
หากสิ่งที่อวี๋หวั่นเข้าใจจากยายรองไม่ผิด หลานเจียวผู้นี้มีอายุมากกว่ามารดาของตนไม่เกินสองสามปีกระมัง หากกล่าวเช่นนี้ ยามที่นางอายุไม่ถึงสิบขวบก็รู้จักอวดฉลาดต่อหน้าพี่เขยเสียแล้ว
แต่คบหากันอยู่ด้วยกันจริงๆ เมื่อใดกันแน่?
ยายรองบอกว่าไม่นาน แต่มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าเป็นการกล่าวเกินจริง อาจเป็นหนึ่งปี หรือสามปีห้าปี
อวี๋หวั่นไม่มีคำตอบ แต่คล้ายกับไม่ต้องการคำตอบอีกแล้ว
“ท่านพ่อ” อวี๋หวั่นแย้มยิ้มสดใสให้นายท่านฉิน
นายท่านฉินถึงกับผงะ หลังจากบุตรสาวจำความได้ ก็ไม่เคยยิ้มให้ตนอีก เขาเกรงว่าไม่ได้ตาฝาด…
หลานเจียวมองท่าทางตกตะลึงของสามี อดไม่ได้ที่จะแอบกังวล นางไม่ได้บอกคนอื่นเกี่ยวกับแผนการของนางกับสตรีศักดิ์สิทธิ์ กล่าวอีกนัยหนึ่งคือ สามีของนางก็ไม่รู้ด้วยว่าสตรีที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่สตรีศักดิ์สิทธิ์ตัวจริง
หลานเจียวกลัวว่าอวี๋หวั่นจะทำสิ่งไม่ดีต่อสามีของนาง รีบร้อนดึงมือของอวี๋หวั่นและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “กล่าวมากเช่นนี้ คงกระหายน้ำแล้ว ไม่สู้ไปนั่งเล่นในห้องของแม่ดีกว่าหรือ เราจะได้คุยกันตามประสาแม่ลูกพอดี”
คุยกันตามประสาแม่ลูก?
ได้สิ…
อวี๋หวั่นไปที่เรือนของหลานเจียวด้วยความยินดี กลุ่มเยี่ยนจิ่วเฉาและผู้อาวุโสไปที่โถงบุปผาของจวนสกุลหลาน
ทันทีที่เข้าไปในห้องของหลานเจียว อวี๋หวั่นก็ปล่อยมือที่จับแขนนาง พลางมองไปรอบๆ และกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ห้องนี้กว้างใหญ่เสียจริง ผู้นำตระกูลหลานคงอยู่อย่างสะดวกสบายเลยกระมัง?”
หลานเจียวกล่าวอย่างเย็นชา “เจ้ากำลังเล่นอันใดอยู่กันแน่! ที่นี่ไม่มีใครแล้ว! ไม่จำเป็นต้องเสแสร้ง!”
อวี๋หวั่นไม่ถูกนางจูงจมูก “เป็นอย่างไรละ? ในช่วงสองสามวันในเรือนเฉิงตง คำทักทายของยายรองครอบคลุมดีหรือไม่?”
เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ หลานเจียวก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ วรยุทธ์ของนางถูกทำลาย ทำได้เพียงปล่อยให้คนเลวอย่างหลานชิ่นเยาะเย้ยถากถาง ทั้งยังถูกไอ้สารเลวผู้นั้นทุบตีอยู่บ่อยๆ หากไม่ใช่เพราะนางเฉลียวฉลาด ใช้โอกาสที่คนผู้นั้นงีบหลับหลบหนีออกมา ยามนี้ก็คงยังถูกขังอยู่ในห้องเก็บฟืนอันมืดมิดไร้แสงตะวัน!
ช้าก่อน…สตรีผู้นี้กล่าวว่าอย่างไรนะ?
ผู้ใดทักทายนาง?
“ยายรอง?” คิ้วของหลานเจียวขมวดชิด ที่เรือนหลังนั้น คนที่สามารถเรียกได้ว่าเป็นยายมีเพียงแค่หลานชิ่น เด็กนี่เรียกหลานชิ่นว่ายายรอง…เช่นนี้ นางก็เป็นหลานของพี่สาวคนโต?
ไม่สิ พี่สาวคนโตทั้งชีวิตไร้บุตร ตั้งครรภ์สองครั้ง ทว่าครั้งหนึ่งกลับดูแลนายท่านฉินเหนื่อยล้าจนแท้งไป อีกครั้งหนึ่งโกรธเรื่องนางกับนายท่านฉินจนแท้ง
เช่นนั้นแล้วเด็กผู้นี้มาจากที่ใดละ?
“ไม่ต้องเดา เจ้าเดาไม่ออกหรอก” อวี๋หวั่นไม่ได้ตั้งใจจะบอกสตรีผู้นี้เรื่องที่อวิ๋นเฟยมีชีวิตอยู่ ทว่าหาใช่เพราะกังวลว่านางจะไปหนานจ้าวเพื่อตามสังหารอวิ๋นเฟย ศัตรูผู้พ่ายแพ้ในกำมือ ตนจำเป็นต้องแนะนำตัวต่อนางด้วยหรือ?
หลานเจียวระงับความสงสัย มองนางอย่างเย็นชา “เจ้า…เจ้าคิดจะทำสิ่งใดกันแน่?”
“ได้ยินมาว่ายามนั้น พี่สาวของเจ้าออกไปตามหาผู้นำตระกูลหลานคนก่อน ผลคือเจ้ากลับยั่วยวนสามีของนาง เจ้าและพี่เขยของเจ้ามีความสัมพันธ์กันอย่างลับๆ และให้กำเนิดสตรีศักดิ์สิทธิ์ จากนั้นเจ้าก็เสกสรรปั้นแต่งโยนความผิด ขับไล่สายเลือดโดยตรงของสกุลหลานออกไป”
ขณะที่อวี๋หวั่นกล่าวก็เดินไปหานางอย่างช้าๆ “เจ้าถามว่าข้าทำอะไร เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรละ?”
“เจ้า…”
“ย่อมเป็น…ทำสิ่งนี้” อวี๋หวั่นพูดจบก็ปลดเข็มขัดออก มืออีกข้างหนึ่งหยิบผ้าเช็ดหน้าชุบยาสลบมาปิดปากและจมูกของหลานเจียวด้วยความเร็วดั่งแสง
หลานเจียวพยายามดิ้นรน
ทว่านางสูญเสียวรยุทธ์ไปนานแล้ว ทั้งยังถูกนางหลานทำให้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์ไปสองสามวัน อ่อนระโหยโรยแรง มิใช่คู่ต่อสู้ของอวี๋หวั่นเลยแม้แต่น้อย
อวี๋หวั่นมัดมือของนางด้วยเข็มขัดอย่างรวดเร็ว ผลักนางกลับไปบนเก้าอี้และกล่าวอย่างไม่ใยดี “เจ้าก็ไม่คิดสักหน่อย บ้านยายรองมียอดฝีมือมากมายเช่นนั้น แล้วเจ้าก็ถูกทำลายวรยุทธ์ไปแล้ว หากไม่มีคนจงใจปล่อยน้ำ เจ้าจะหนีออกมาโดยไม่รู้เนื้อรู้ตัวได้หรือ? เจ้าคิดว่าตนเองฉลาดสามารถ? แล้วคนอื่นล้วนโง่เขลาอย่างนั้นหรือ?”
จิตใจของหลานเจียวตื่นตระหนกยิ่ง นางก็คิดอยู่ว่าเหตุใดตนถึงหนีออกมาได้อย่างง่ายดายเช่นนี้? ยามนั้นด้วยความตื่นเต้น จึงไม่ทันใส่ใจความแปลกประหลาดเหล่านี้? หลังจากนั้นก็เกิดเรื่องที่สามีภรรยาสตรีศักดิ์สิทธิ์ถูกคนขโมยตัวตนขึ้นตามมาทันที ไหนเลยนางจะมีความคิดอื่นได้?
มันคือกับดัก!
คือกับดักขนาดใหญ่มาตั้งแต่แรก!
“คิดตกแล้วหรือ?” อวี๋หวั่นมองสีหน้าที่ยากจะคาดเดาของนาง พลันยกมุมปาก “น่าเสียดาย มันสายไปแล้ว คราแรกเจ้าใช้อุบายจัดการสกุลพวกเราเช่นไร ครานี้ ก็คืนให้เจ้าเช่นนั้น”
“อื้อ…อื้ออ…” หลานเจียวดิ้นรนทั้งกลัวทั้งโกรธ แต่ก็ขัดขืนได้ไม่นาน เมื่อยาออกฤทธิ์ นางก็หมดสติไป
…..
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]