ในตอนนั้นเอง อัญมณีประดับปิ่นปักผมบนศีรษะของอวี๋หวั่นก็สว่างวาบจนแสบตา จากนั้นก็ได้ยินเสียงกรีดร้องดังเสียดโสตประสาท หนอนพิษของสกุลซางซึ่งกำลังจะกัดอวี๋หวั่นเมื่อครู่ กลับถูกพลังอะไรสักอย่าง และกระเด็นลงไปกระแทกพื้น
“เกิดอะไรขึ้น” อวี๋หวั่นอยู่ในอ้อมกอดของเยี่ยนจิ่วเฉา มองเห็นเหตุการณ์ด้านหลังไม่ชัดเจน เธอรู้เพียงว่ามีแสงสว่างวาบ แล้วตนก็พ้นจากความตายมาได้อีกครั้ง
เยี่ยนจิ่วเฉามองไปยังหนอนพิษพลังหยินของสกุลซาง จากนั้นก็มองไปยังปิ่นปักผมบนศีรษะของอวี๋หวั่น ผู้คนทั้งหมิงตูล้วนแต่เคารพบูชาศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ เชื่อว่าศิลานี้จะนำพาความเป็นสิริมงคลอันสูงสุดมาให้ เพราะฉะนั้นบนเครื่องประดับจำนวนไม่น้อยมักจะมีศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ประดับไว้
ก่อนหน้านีศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ส่องแสงสว่าง จึงทำให้หนอนพิษของสกุลซางกระเด็นออกไป
“มันกลัวแสง!” เยี่ยนจิ่วเฉาพูด
“สะ…แสงอะไร?” อวี๋หวั่นชะงักไป
“แสงที่สว่างมากๆ” แสงนวลและอ่อนโยนอย่างแสงของไข่มุกราตรีนั้น หนอนพิษของสกุลซางไม่ชอบก็จริง แต่ไม่ถึงกับทำให้มันรู้สึกระคายเคือง เยี่ยนจิ่วเฉานึกบางอย่างออก จึงถามอวี๋หวั่นว่า “เจ้ามีศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์อยู่กับตัวไหม?”
“มี เจ้านี่…กลัวศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์หรือ?” อวี๋หวั่นรีบหยิบกำไลข้อมือออกมาจากแขนเสื้อ กำไลวงนี้เป็นของที่ท่านยายรองให้มา บนกำไลมีศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ประดับอยู่หลายก้อน
เยี่ยนจิ่วเฉาหยิบศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา และเขวี้ยงใส่หนอนพิษสกุลซางเมื่อมันโจมตีพวกเขาอีกครั้ง
ศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ส่องแสงสว่างวาบ มันส่องสว่างเส้นทางที่มืดสนิท หนอนพิษของสกุลซางกลัวแสงสว่างเป็นทุนเดิม ก็กรีดร้องออกมาอย่างน่าเวทนา
ศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ส่องแสงจนทางเดินแลดูราวกับเวลากลางวัน สำหรับหนอนพิษของสกุลซางแล้ว นั่นไม่ต่างอะไรกับทะเลเพลิง อันตรายอย่างยิ่งยวด ทำให้มันไม่สามารถปล่อยออกมาได้แม้แต่พลัง
อวี๋หวั่นมองออกเช่นกันว่าหนอนพิษพลังหยินตัวนี้กำลังทรมาน “ที่แท้มันก็กลัวศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์”
มิน่าเล่าทั้งหมิงตูจึงเชิดชูและบูชาสตรีศักดิ์สิทธิ์ถึงเพียงนี้ แม้แต่หนอนพิษพลังหยินที่น่าสะพรึงกลัว ยังเอาชนะศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ของสตรีศักดิ์สิทธิ์ไม่ได้ด้วยซ้ำไป
หนอนพิษพลังหยินหันไปมาหลายทิศหลายทาง แต่ก็ไม่อาจหนีจากแสงสว่างของศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ซึ่งส่องไปยังทุกอณูในทางเดิน มันค่อยๆ ถอยหลังไป หางขนาดมหึมาของมันกวัดแกว่ง และหันเข้าไปยังส่วนลึกของเขตหวงห้าม
“จะหนีรึ?” อวี๋หวั่นหยิบศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ซึ่งหล่นอยู่บนพื้นขึ้นมา แล้วโยนใส่หนอนพิษพลังหยินของสกุลซางอย่างแรง
หางของมันโบกสะบัด และขยับหลบได้
อวี๋หวั่นหยินขึ้นมาอีกเม็ดหนึ่ง มันก็หลบได้อีก
อวี๋หวั่นกัดฟันกรอด “เจ้านี่นับว่าปราดเปรียวทีเดียว! ถ้าปล่อยมันรอดไปได้ น่ากลัวว่าถ้าจะหลอกล่อมันมาอีกครั้งคงจะไม่ง่ายแล้ว!”
ทันใดนั้นเอง สัตว์พิษตัวน้อยที่หลบอยู่ในอกเสื้อของอวี๋หวั่นก็ปราดออกมา แล้วพุ่งเข้าหาหนอนพิษพลังหยินของสกุลซางอย่างรวดเร็ว
มันรวบรวมพลังทั้งหมด แล้วพุ่งเข้าหาหนอนพิษของสกุลซางซึ่งกำลังพยายามจะหนี ชนเข้าจนมันพุ่งติดกำแพง
หนอนพิษของสกุลซางโทสะพลุ่งพล่าน
มันถูกศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ส่องแสงใส่จนต้องหนีหัวซุกหัวซุน ทั้งยังถูกหนอนพิษไม่รู้หัวนอนปลายเท้าจากที่ไหนก็ไม่รู้พุ่งชนจนมันรู้สึกอดสูเหลือเกิน
หนอนพิษของสกุลซางวาดกงเล็บแหลมใส่สัตว์พิษตัวน้อยที่พุ่งเข้ามา
สัตว์พิษตัวน้อยเบี่ยงตัวหลบในทันใด!
หนอนพิษพลังหยินของสกุลซางโจมตีอีกครั้ง!
สัตว์พิษตัวน้อยกระโดดหลบอีกครั้งหนึ่ง หนอนพิษพลังหยินของสกุลซางยิ่งใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ทันทีที่กรงเล็บของมันกำลังจะเฉือนเนื้อของสัตว์พิษตัวน้อย สัตว์พิษตัวน้อยกลับล้มลงไป กระแทกกับพื้นครั้งหนึ่ง หนอนพิษพลังหยินของสกุลซางเห็นเช่นนั้น จึงพุ่งเข้าไปเล่นงานอย่างไม่เกรงใจ
สัตว์พิษตัวน้อยตัวสั่นเทิ้ม มันยกศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าตัวของมันขึ้นมา
ศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ส่องสว่างวาบ หนอนพิษสกุลซางก็กรีดร้องออกมาแล้วกระเด็นไปกระแทกพื้น!
ครั้งนี้ หนอนพิษพลังหยินของสกุลซางโมโหจริง
และแล้ว เรื่องเหนือความคาดหมายก็เกิดขึ้น
มันง้างกรงเล็บออก และจิ้มตาตนเองให้บอดทั้งสองข้าง
อวี๋หวั่นตะลึงงันในทันใด
หนอนพิษตัวน้อยซึ่งกำลังยกศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์ขึ้นมา ถึงกับตื่นตะลึงไป
เยี่ยนจิ่วเฉาซึ่งเยือกเย็นมาตลอด ก็ไม่คาดคิดเช่นกันว่าจะได้เห็นการกระทำที่บ้าบิ่นเช่นนี้ของหนอนพิษพลังหยิน
อวี๋หวั่นคว้ามือของสามีตนเอาไว้ “นะ…น่า…น่ากลัวจริงๆ เลย…”
เพื่อที่จะเอาชีวิตรอด หรืออาจเรียกว่าทำลายอีกฝ่ายให้สิ้นซากก็คงได้ มันจำเป็นต้องทำให้ตนเองตาบอด ไม่มีใครทำเช่นนี้ได้อีกแล้ว
หลังจากที่ตาบอดสนิทแล้ว มันก็ไม่กลัวแสงจากศิลาสตรีศักดิ์สิทธิ์อีกต่อไป ประสาทสัมผัสอันสมบูรณ์แบบทำให้การเคลื่อนไหวของมันไม่ได้รับผลกระทบแม้แต่น้อย มันสามารถสัมผัสทิศทางของอีกฝ่ายได้
มันตวัดกรงเล็บใส่สัตว์พิษตัวน้อย
สัตว์พิษตัวน้อยถูกตบเข้าไปในผนัง ติดแน่นจนขยับออกมาไม่ได้
จากนั้นมันก็พุ่งเข้าหาเยี่ยนจิ่วเฉาและอวี๋หวั่น พลังอันแข็งแกร่งของของราชันสัตว์พิษกดทับไปทั่วทั้งเส้นทาง กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปในอากาศ ทำให้รู้สึกหายใจแทบไม่ออก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]