หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 473

แผนที่เผ่าพ่อมดถูกอิ่งลิ่ววาดออกมาบนกระดาษ ไม่มีผู้ใดรู้ว่าลูกปัดนี้มีอายุมานานเพียงใด จึงไม่มีผู้ใดสามารถค้นหาได้ว่า แผนที่นี้จะยังนำทางไปยังเผ่าพ่อมดได้หรือไม่

หรือรอให้พวกเขาไปค้นหาจริงๆ จะยังมีสิ่งที่เรียกว่าเผ่าพ่อมดอยู่หรือ?

แต่ไม่ว่าอย่างไร ตราบใดที่มีโอกาสเพียงน้อยนิด พวกเขาก็จะไม่ยอมแพ้

การจากไปของเสี่ยวเจาทำให้อวี๋หวั่นรู้สึกเศร้าอยู่ช่วงหนึ่ง ยามนึกถึงเด็กน้อยผอมแห้งผู้นั้น เด็กน้อยที่รู้จักทำตัวออดอ้อนแอ๊บแบ๊วในอ้อมแขน หัวใจของอวี๋หวั่นก็อาลัยอาวรณ์หนักหนา

“แล้วพบกันใหม่นะ…” อวี๋หวั่นพึมพำพลางเก็บเสื้อผ้าตัวเล็กที่เป็นของเสี่ยวเจา

ไข่ดำน้อยทั้งสามก็โศกเศร้าอยู่ไม่น้อย เมื่อตื่นมาน้องชายก็ไม่อยู่แล้ว ผู้ใดจะเข้าใจความเจ็บปวดของพวกเขา?

“อีกหน่อยพวกเจ้าโตขึ้น ก็ไปหาน้องเสี่ยวเจาได้แล้ว” อวี๋หวั่นกล่าวพลางลูบหัวทั้งสาม

ทั้งสามพยักหน้าอย่างเคร่งขรึม “อื้ม!”

อิ่งลิ่วใช้เวลาทั้งคืน ในที่สุดก็วาดแผนที่ของเผ่าพ่อมดออกมาได้สำเร็จ หมิงตูก็อยู่ในแผนที่เช่นกัน แต่ไม่ได้มีเครื่องหมายใดๆ กลับทำสัญลักษณ์ที่เผ่าปีศาจเดิมแทน อันที่จริงก็ไม่มีสิ่งใดน่าแปลกใจ ยามที่บรรพชนของสกุลซือคงสร้างแผนที่นี้ ก็ไม่คาดคิดว่าคนรุ่นหลังจะย้ายเมืองหลวง

“แผนที่เมื่อพันปีที่แล้ว ยังใช้ได้จริงหรือ? ต้นกล้าเล็กๆ ก็เติบโตเป็นป่าใหญ่ บ่อน้ำเล็กๆ ก็รวมกันเป็นลำธารแล้ว จะหาเจอได้อย่างไรละ?” ชิงเหยียนถือแผนที่ กล่าวด้วยใบหน้าหงุดหงิด

ตรงข้ามเขาคืออวี๋หวั่นกับอิ่งลิ่ว

“เจ้านี่!” อิ่งลิ่วฉวยแผนที่มา หากไม่มีหมิงตูและเผ่าปีศาจบนแผนที่ การค้นหาเส้นทางที่ถูกต้องอาจเป็นเรื่องยากยิ่ง ทว่าในเมื่อมีทั้งสอง ก็สามารถอิงตามระยะห่างระหว่างทั้งสองเป็นอัตราส่วนบนแผนที่ ขั้นแรก ประมาณขนาดของเขาแต่ละลูกและป่าแต่ละผืนออกมา แม้ว่าภูมิประเทศจะเปลี่ยนไป ทว่าระยะทางและทิศทางไม่มีทางเปลี่ยนแปลง

แน่นอนการพูดนั้นง่ายดาย ทว่าเมื่อลงมือทำจริง กลับทดสอบความสามารถในการคิดคำนวณในใจและการสังเกตของคนอย่างยิ่งยวด

“เจ้าแน่ใจหรือ?” อวี๋หวั่นถาม

“อื้ม” อิ่งลิ่วพยักหน้า “มีคุณชายกับอิ่งสือซันคอยชี้แนะข้างกาย มิใช่ปัญหาใหญ่”

อวี๋หวั่นเอ่ยอย่างแผ่วเบา “เช่นนั้นก็ดี คืนนี้ทุกคนพักผ่อนให้เต็มที่ พรุ่งนี้เช้าเราจะออกเดินทางกัน จริงสิ สถานการณ์ของซิวหลัวกับอาเว่ยเป็นอย่างไรบ้าง?”

ทั้งสองปิดตัวจำศีลภาวนามาหลายวันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะออกมา

เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้ ชิงเหยียนก็ทั้งสุขทั้งเศร้า สุขที่ทั้งสองปิดตัวภาวนาได้นานถึงเพียงนี้ ขอบเขตพลังคงพัฒนาจนแข็งแกร่งกว่าที่คิดไว้ และเศร้าที่พวกเขากำลังจะออกเดินทางแล้ว ทว่าทั้งสองก็ยังไม่ออกมา จะทำเช่นไรดีละ?

“อาการของคุณชายไม่อาจล่าช้า…” อิ่งลิ่วกล่าวอย่างอ้อมค้อม

“ข้ารู้น่า! ข้าถึงกังวลไง!” ชิงเหยียนแทบจะร้องไห้

“หรือไม่…” อิ่งลิ่วมองไปที่อวี๋หวั่น อวี๋หวั่นส่ายหัว จะรอก็ไม่อาจรอได้ การเดินทางไปเผ่าพ่อมด เป็นอันตรายหรือไม่ไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ หมิงตูเล็กๆ ยังเป็นเสือหมอบมังกรซ่อนเช่นนี้ หากเผ่าพ่อมดดั้งเดิมยังมีชาวเผ่าพ่อมดอาศัยอยู่จริง คงไม่ง่ายที่จะจัดการมากไปกว่าหมิงตู ดังนั้น การมียอดฝีมือเพิ่มมาอีกหนึ่งคนจะเป็นประโยชน์กับพวกเขาอย่างยิ่ง

“พรุ่งนี้เช้าค่อยวางแผนกันอีกที พวกเจ้ารีบไปพักผ่อนเถอะ ข้าก็จะกลับห้องแล้ว” อวี๋หวั่นกล่าวจบ ก็ลุกขึ้นออกจากห้องของอิ่งลิ่วและอิ่งสือซัน

ยามเดินไปถึงสวนเล็ก ซือคงฉางเฟิงก็ออกมา

“อาหวั่น” ซือคงเย่ก็มาเช่นกัน

อวี๋หวั่นมองซือคงฉางเฟิงจากนั้นก็มองซือคงเย่ และกล่าวทักทาย “ท่านตาทวด คุณชายซือคง พวกท่านมาหาข้าหรือ?”

ทั้งสองส่งเสียงอืม ซือคงฉางเฟิงทำความเคารพซือคงเย่ “คารวะท่านปรมาจารย์”

ซือคงเย่พยักหน้าเบาๆ เหลือบมองเขาแล้วกล่าวว่า “อวี๋หวั่น ดึกกว่านี้อีกหน่อยมาที่ห้องของข้า”

“เจ้าค่ะ” อวี๋หวั่นตอบ

ซือคงเย่เดินกลับไปที่ห้อง

คราแรกซือคงฉางเฟิงคิดว่าจะให้ปรมาจารย์ได้คุยกับอวี๋หวั่นก่อน แล้วตนรออยู่ด้านนอก ไม่นึกว่าปรมาจารย์จะเมตตาถึงเพียงนี้ ยอมให้โอกาสเขาก่อน

ดูเหมือนว่าหลังจากพวกอวี๋หวั่นมาที่นี่ ปรมาจารย์ก็มีน้ำใจและพูดง่ายขึ้น

ซือคงฉางเฟิงชื่นชมยินดีกับความเปลี่ยนแปลงของปรมาจารย์ แต่เมื่อถึงยามต้องจาก เขาก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย

ดวงตาของเขาหม่นแสง ทอดถอนใจและกล่าวว่า “อาหวั่น พวกเจ้าต้องไปแล้วใช่หรือไม่?”

“อื้ม” อวี๋หวั่นกล่าว “พบแผนที่ของเผ่าพ่อมดแล้ว เราจะออกเดินทางพรุ่งนี้เช้าเจ้าค่ะ”

ซือคงฉางเฟิงเงยหน้าขึ้นมองเธอฉับพลัน “เร็วขนาดนี้เชียวหรือ? ไม่อยู่ต่ออีกสองสามวัน?”

อวี๋หวั่นส่ายหัวน้อยๆ “พิษของเยี่ยนจิ่วเฉาไม่สามารถรอช้า ต้องรักษาโดยเร็วที่สุด”

“พิษไป๋หลี่เซียง เป็นพิษที่ถอนยากที่สุดในโลก” ซือคงฉางเฟิงขมวดคิ้ว เขาหวังอย่างยิ่งให้อวี๋หวั่นอยู่ต่อ ไม่เพียงเพราะในท้องของเธอมีสายเลือดราชาสตรีศักดิ์สิทธิ์ แต่สกุลหลานและหมิงตูต่างก็ต้องการเธอ และเพราะว่า…จริงๆ แล้วเขาก็ไม่อยากแยกจากเธอ ทว่าความรู้สึกนี้ทำได้เพียงเก็บซ่อนไว้ในใจเงียบๆ เท่านั้น

“ขอบคุณที่มาบอกลาข้า” อวี๋หวั่นยิ้มเล็กน้อย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]