หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 490

สถานะของต๋าหว่าในตำหนักทมิฬนั้นนับว่าสูงมาก ไม่เช่นนั้นคงไม่มีทางซื้อเรือนที่ใหญ่ถึงเพียง

นี้ได้ ใหญ่พอให้พวกเขาเข้าพักห้องละคนได้ ห้องของอิ่งลิ่วและอิ่งสือซันอยู่ฝั่งตะวันตก ส่วนอวี๋เซ่าชิง อาม่า และชุยเฒ่าพักฝั่งตะวันออก มู่ชิงคอยดูแลศิษย์น้องเล็ก จึงอยู่ห้องเดียวกับโจวจิ่นในห้องฝั่งตะวันตกเช่นกัน

ปีกเรือนฝั่งตะวันตกมีทั้งหมดสามห้อง ทุกห้องล้วนแต่เต็มแล้ว ทว่าห้องทางทิศใต้ยังว่างอยู่หนึ่งห้อง โจวอวี่เยี่ยนจึงขนของไปที่นั่น

พวกเขาต่างคนต่างแยกย้ายกันจัดข้าวของ ย่างเข้าใกล้ยามสนธยา ต๋าหว่าไปรายงานภารกิจที่ตำหนักทมิฬ เขาพาพ่อมดระดับเทียนเข้ามาในตลาดมืด ย่อมต้องแจ้งให้ตำหนักทมิฬรับรู้ ตามข้อกำหนดแล้ว เขาต้องไปบอกตำหนักทมิฬ ว่าตนเองพบโจวจิ่นและศิษย์พี่ร่วมสำนักของเขา เพราะฉะนั้นต๋าหว่าจึงมาพาทุกคนไป

“พวกเราก็ไปเดินดูกันสักหน่อยเถิด” อวี๋หวั่นบอกกับเยี่ยนจิ่วเฉา

“ยังเดินไหวอยู่หรือ?” เยี่ยนจิ่วเฉามองไปยังท้องของอวี๋หวั่น

เธอตั้งครรภ์ได้หกเดือนแล้ว

อวี๋หวั่นพยักหน้า “เดินไหวสิ ยิ่งไปกว่านั้นชุยเฒ่าไม่ได้พูดแล้วหรอกหรือว่าข้าต้องเดินเยอะๆ ต่อไปจะได้คลอดง่ายๆ”

เยี่ยนจิ่วเฉามองไปยังหน้าท้องกลมของเธอ ยังเหลืออีกสามเดือน เจ้าตัวเล็กก็จะออกมาลืมตาดูโลกแล้ว…

“ตกลงจะไปไหม?” อวี๋หวั่นดึงแขนเสื้อของเยี่ยนจิ่วเฉา

“อืม” เยี่ยนจิ่วเฉาตอบ แล้วจูงมืออวี๋หวั่นออกจากเรือนไป

อิ่งสือซันและอิ่งลิ่วตามมา

อวี๋เซ่าชิงรออยู่ในเรือน เพื่อป้องกันคนฉวยโอกาสบุกโจมตี ต๋าหว่าไม่ได้บอกเองหรือว่าเหล่าพ่อมดในตลาดมืดนั้นอันตราย อาจถูกแย่งชิงพลังไปได้

อวี๋หวั่นปล่อยให้สัตว์พิษตัวน้อยอยู่ด้วย

“นั่งรถม้าไหม?” เยี่ยนจิ่วเฉาถาม

อวี๋หวั่นส่ายหน้า “ไม่ต้องหรอก เดินไปก็ได้”

ที่พักของต๋าหว่านั้นอยู่ไม่ไกลจากถนนใหญ่ซึ่งมีผู้คนพลุกพล่าน มาตลาดมืดทั้งที ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องไปสัมผัสชีวิตของผู้คนที่นี่สักหน่อย

ทั้งสี่คนเดินออกไปจากเรือน

ทันใดนั้นเอง ก็มีเงาสายหนึ่งไล่ตามมา “รอข้าก่อน ข้าไปด้วย!”

เยี่ยนจิ่วเฉาเดินไปด้วยสีหน้าไร้อารมณ์ อวี๋หวั่นหันไปตามเสียงเรียก แล้วเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจว่า “หืม? แม่นางโจว? เจ้าก็จะออกไปหรือ?”

โจวอวี่เยี่ยนกระแอม “ขะ…ข้าก็อยากไปเดินเที่ยวบ้าง!”

อวี๋หวั่นเลิกคิ้ว “เจ้าไม่อยู่ดูศิษย์น้องแล้วหรือ?” เด็กคนนี้ ปกติตามติดศิษย์น้องของนางตลอดเวลา ไม่ห่างแม้แต่ก้าวเดียว!

โจวอวี่เยี่ยนเหลือบมองอิ่งลิ่ว แล้วเอ่ยขึ้นว่า “เสื้อผ้าของศิษย์น้องของข้าไม่พอ ข้าอยากซื้อเสื้อผ้าให้เขาสักสองสามชุด”

อวี๋หวั่นร้อง ‘โอ้’ ไม่ได้สงสัยอะไร หันหน้าไป แล้วเดินจูงมือไปกับเยี่ยนจิ่วเฉา

โจวอวี่เยี่ยนเดินไปข้างอิ่งลิ่วอย่างแนบเนียน แล้วเอ่ยขึ้นเสียงค่อยว่า “อิ่งลิ่ว!”

“หืม?” อิ่งลิ่วหันหน้าไปมอง “มีอะไรหรือ แม่นางโจว”

“อันนั้นสวยหรือไม่?” โจวอวี่เยี่ยนชี้ไปยังแผงขายดอกไม้ประดับผม

อิ่งลิ่วมองตามไป “อื้ม สวย”

โจวอวี่เยี่ยนดวงตาเป็นเป็นประกายขึ้นมาทันใด “เช่นนั้นเจ้าไปดูเป็นเพื่อนข้าหน่อยสิ!”

“หืม?” อิ่งลิ่วชะงักไป เขายังไม่ทันได้ตั้งสติ ก็ถูกโจวอวี่เยี่ยนดึงแขนเสื้อไปที่หน้าแผงขายดอกไม้เสียแล้ว

อิ่งสือซันถูกทิ้งให้โดดเดี่ยว เขามองไปยังอิ่งลิ่วซึ่งถูกลากไป จากนั้นก็ขมวดคิ้ว

“อันนี้หรือว่าอันนี้งามกว่ากัน?” โจวอวี่เยี่ยนหยิบดอกไม้ประดับศีรษะสีม่วงกับสีชมพูขึ้นมา

สตรีในตลาดมืดประดับดอกไม้บนศีรษะ ทั้งดอกไม้จริงทั้งดอกไม้ปลอม เมื่อเทียบกับสตรีชาวจงหยวนแล้ว แลดูสดใสกว่าอยู่บ้าง

สิ่งที่โจวอวี่เยี่ยนหยิบขึ้นมาก็คือดอกไม้กำมะหยี่ช่อหนึ่ง คุณภาพไม่นับว่าดีนัก แต่โชคดีที่นางอ่อนเยาว์และหน้าตาสะสวย ต่อให้ของคุณภาพด้อยกว่านี้ก็ยังดูงดงาม

“งามทั้งคู่เลย” อิ่งลิ่วตอบ

“เช่นนั้นก็เอาทั้งสองอัน!” โจวอวี่เยี่ยนซื้อดอกไม้มาทั้งสองสี

“ท่านดูสิ” อวี๋หวั่นเขย่ามือของเยี่ยนจิ่วเฉาเบาๆ บุ้ยใบ้ให้เขาดูโจวอวี่เยี่ยนพาอิ่งลิ่ววิ่งไปทั่ว

สตรีนั้นเปิดเผยและสนอกสนใจ แต่เห็นได้ชัดว่าบุรุษกลับเยือกเย็นกว่า

ให้เยี่ยนจิ่วเฉามองดูสตรีอื่น มิสู้มองอวี๋หวั่น

อวี๋หวั่นเอ่ยถามขึ้นอย่างมีเลศนัยว่า “อิ่งลิ่วอายุเท่าไรแล้ว”

“จะสิบเก้าแล้ว” เยี่ยนจิ่วเฉาตอบ “อิ่งสือซันยี่สิบเอ็ด”

อวี๋หวั่นยิ้มอย่างพึงพอใจ “ไม่ใช่เด็กแล้ว พูดเรื่องการแต่งงานได้แล้วสินะ แม่นางโจวแม้จะดูเย่อหยิ่งสักหน่อย แต่นางก็เป็นคนดี ถ้าหากนางรักใคร่ชอบพอกับอิ่งลิ่ว ก็ดีเหมือนกัน ท่านคงไม่คัดค้านอะไรกระมัง?”

เยี่ยนจิ่วเฉาแค่นเสียงขึ้นจมูก แล้วกล่าวว่า “คนที่คัดค้านน่าจะไม่ใช่ข้า”

“หืม?” อวี๋หวั่นเลิกคิ้ว พูดแบบนี้ หมายความว่าอะไร?

“อันนี้ๆ!” โจวอวี่เยี่ยนซื้อข้าวของมามากมาย จนอิ่งลิ่วเริ่มยกไม่ไหว แต่นางก็ยังพาอิ่งลิ่วไปตามแผงขายของอื่นๆ อีก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]