“ทูลราชินีแม่มด องค์ชายเยี่ยยางออกจากวังไปแล้วพ่ะย่ะค่ะ!” องครักษ์ประจำวังหลวงคนหนึ่งเข้ามารายงาน
ราชินีแม่มดสีหน้าเย็นเยียบ “ออกจากวัง? ออกไปได้อย่างไรกัน”
องครักษ์ตอบว่า “กระหม่อมก็ไม่กระจ่าง รู้เพียงว่าเมื่อครู่องค์ชายพาเด็กคนหนึ่งออกจากวังไป องค์ชายบอกว่า…เป็นคำสั่งของราชินีแม่มด เหล่าองครักษ์ไม่กล้าขวาง จึงทำได้เพียงปล่อยไปพ่ะย่ะค่ะ”
เยี่ยยางก็เหมือนกับเด็กวัยรุ่นในวัยเดียวกัน มีช่วงเวลาที่ดื้อรั้นและอยากรู้อยากลอง แต่เขาไม่มีทางกล้าปลอมคำสั่งของราชินีแม่มด และเรื่องนี้ก็ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ด้วยเหตุนี้เอง องครักษ์จึงเชื่อคำพูดของเยี่ยยาง
“โง่! เจ้าพวกโง่!”
ราชินีแม่มดโทสะพลุ่งพล่าน บัดนี้ใบหน้าสะสวยและสง่างามของนางกลับปรากฏความโกรธแค้นที่ไม่อาจระงับได้ ทุกคนล้วนแต่รู้สึกประหนึ่งหัวใจของตนถูกเค้นแน่น
แม้ว่าราชินีแม่มดจะเป็นสตรี แต่ราชาพ่อมดล้มป่วยมานานหลายปี ทำให้นางไม่ต่างอะไรกับผู้ครองอำนาจของเผ่า ไม่ใช่ว่าไม่มีผู้ใดท้าทายและตั้งคำถามกับนาง หากแต่ว่าคนเหล่านั้นล้วนแต่ตายอย่างอนาถ ในตอนนี้ทุกคนได้แต่เกรงกลัวนางยิ่งกว่าสิ่งใด
ราชินีแม่มดพิโรธ เผ่าพ่อมดต้องพินาศเป็นแน่
ทุกคนได้แต่หมอบลงกับพื้น ไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัว
มีเพียงองครักษ์ประจำวังหลวงที่ทำใจดีสู้เสือ เอ่ยปากขึ้นว่า “ราชินีแม่มด กระหม่อมจะพาคนออกไปตามพ่ะย่ะค่ะ!”
ราชินีแม่มดชี้นิ้วขึ้นด้วยสีหน้าเย็นเยียบ
นั่นหมายความว่านางอนุญาต
องครักษ์ประจำวังหลวงรวบรวมกองกำลังทั้งคนและม้า รุดรีบออกนอกวังหลวงไป
ราชินีแม่มดยืนอยู่ท่ามกลางแสงแดดอยู่ครู่หนึ่ง กระนั้นแสงแดดก็ไม่เจิดจ้าเท่านาง นางหันหลัง เชิดหน้าขึ้นแล้วเดินกลับไปยังตำหนักราชินีแม่มด
“ท่านพี่” ต๋าหว่ารอนางอยู่ในห้องโถงของตำหนัก อวี๋หวั่นและเยี่ยนจิ่วเฉาลอบกลับเข้ามาในตำหนักแล้ว พร้อมทั้งเล่าเรื่องที่โจวจิ่นลักพาตัวเยี่ยยางไปให้ต๋าหว่าฟัง เขาตกใจกลัวจนแทบล้มทั้งยืน!
พวกเขาเป็นใครกันนี่ ตอนแรกปลอมเป็นน้องชายของราชินีแม่มด ลอบเข้าไปในตำหนักราชาพ่อมดยังไม่พอ เหตุ
ใดตอนนี้ต้องมาลักพาตัวลูกชายของราชินีแม่มดด้วยเล่า อีกทั้งผู้ที่ลักพาตัวลูกชายของราชินีแม่มดไปเป็นเด็กอายุเก้าขวบอีกเนี่ยนะ?!
ต๋าหว่าอยากจะบ้าตาย แต่เขาจำต้องเก็บความรู้สึกอยากบ้าตายทันทีที่ราชินีแม่มดเดินเข้าตำหนักมา
“ท่านพี่ หาเยี่ยยางเจอแล้วหรือขอรับ?” เรื่องนี้แพร่สะพัดไปทั่ววังหลวง เขารู้ย่อมมิใช่เรื่องแปลก เขาจึงถามออกไปเช่นนั้น
ราชินีแม่มดตวัดสายตาเย็นเยียบมองเขา
ต๋าหว่ารู้สึกตื่นกลัวอยู่บ้าง เขาพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ แต่นั่นก็ไม่อาจรอดพ้นสายตาอันเฉียบแหลมของ
ราชินีแม่มดไปได้ ขณะที่เขากำลังจะควบคุมตัวเองไว้ไม่อยู่นั้นเอง ราชินีแม่มดก็เอ่ยขึ้นว่า “เจ้าคงรู้ว่าพวกเขาออกจากวังไปได้อย่างไร?”
“ข้าไม่รู้ขอรับ” แน่นอนว่าต๋าหว่ารู้ เพียงแต่ว่าบ่าวในตำหนักราชินีแม่มดรู้เพียงว่าองค์ชายเยี่ยยางหายไป แต่ไม่รู้ว่าหายไปได้อย่างไร เพราะฉะนั้นเขาห้ามมีพิรุธโดยเด็ดขาด
ราชินีแม่มดนั่งลงบนเก้าอี้ “เขาหลอกองครักษ์ว่าเป็นคำสั่งข้า แล้วเดินออกไปเช่นนั้น!”
“หา!” ครั้งนี้ต๋าหว่าตกใจจริงๆ ปิดเรื่องนี้ไว้ไม่ได้เสียแล้ว เรื่องนี้ถูกเปิดเผยรวดเร็วเหลือเกิน!
“หึ” ราชินีแม่มดจับมุมโต๊ะ สายตาลึกล้ำยากที่จะคาดเดา “จริงอยู่ว่าเยี่ยยางดื้อรั้นตั้งแต่เด็ก แต่ก็ไม่มีทางกล้า
ปลอมแปลงคำสั่งของข้า เขา…ต้องถูกคนข่มขู่เป็นแน่! แต่ข้าก็ยังคิดไม่ออก ว่าเด็กเก้าขวบคนหนึ่ง จะไปข่มขู่เยี่ยยางได้อย่างไร!”
เยี่ยยางอายุสิบสอง ร่างกายแข็งแรง มีวรยุทธ์ เอาชนะพ่อมดอายุเก้าขวบที่ร่างกายอ่อนแอคนหนึ่งได้สบาย
ต๋าหว่าไม่พูดอะไร
แต่อย่างไรเสียราชินีแม่มดก็เป็นสตรีที่ฉลาดเฉลียว สายตาของนางไปหยุดที่ต๋าหว่าเพียงชั่วขณะ นางก็กระจ่างในเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว “เยี่ยยางถูกคนปล่อยหนอนพิษใส่!”
ต๋าหว่าใจหายวาบ
เจ้าเดาออกด้วยรึ?!
ราชินีแม่มดหรี่ตา “เจ้าเด็กคนนั้นไม่ได้เป็นเพียงพ่อมด แต่ยังเป็นปรมาจารย์พิษด้วยรึ?” เวทมนตร์และวิชาพิษไม่แบ่งแยกกัน เมื่อนานมาแล้ว ทั้งสองศาสตร์สามารถฝึกฝนร่วมกันได้ แต่ด้วยข้อจำกัดของการถ่ายทอดวิชา ทำให้ไม่มีผู้ใดสามารถเรียนทั้งสองศาสตร์พร้อมกัน
เวินซวี่น้องชายของราชินีแม่มดผู้นี้ เป็นถึงปรมาจารย์พิษเทพ
“เจ้าคลุกคลีอยู่กับเขานานถึงเพียงนั้น ไม่รู้เลยหรือว่าเขาเป็นปรมาจารย์พิษเหมือนกับเจ้า?” ราชินีแม่มดเอ่ยถามน้องชายด้วยความเคลือบแคลงใจ
ต๋าหว่ากำลังอกสั่นขวัญแขวน ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรเล่า? ข้าไม่ได้เป็นปรมาจารย์พิษ เจ้าเปี๊ยกโจวจิ่นก็ไม่ได้เป็น!
“ราชินีแม่มดเพคะ ข้าได้ยินว่าปรมาจารย์พิษที่แข็งแกร่งจะสามารถซ่อนกลิ่นอายของตนเองได้ เพราะฉะนั้น ใต้เท้าเวินซวี่สัมผัสถึงกลิ่นอายของเขาไม่ได้ย่อมมิใช่เรื่องแปลก” หลีชั่ว แม่มดคนสนิทเอ่ยขึ้น
หงหลวนเสริมว่า “ใช่แล้วเพคะ ถ้าหากระดับของเขาเหนือกว่าใต้เท้าเวินซวี่ เช่นนั้นก็จะสามารถปกปิดกลิ่นอายได้อย่างแยบยล”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]