หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 507

ในเรือน เด็กทั้งสามคนกำลังหลับสบาย ขาอวบอ้วนสองข้างของเสี่ยวเป่าพาดอยู่บนพุงกลมๆ ของต้าเป่า ก้นของต้าเป่าแนบอยู่กับกำแพง ขาข้างหนึ่งชี้ขึ้นฟ้า อีกข้างหนึ่งกดอยู่บนหน้าแข้งของเอ้อร์เป่า

ท่านอนของเอ้อร์เป่านั้นดูดีที่สุดในบรรดาพี่น้อง ทั้งเงียบเชียบและเรียบร้อย

ทั้งสามคนหลับสนิท จนมิได้รับรู้ว่าด้านนอกนั้นฟ้ากำลังถล่ม

เรือนนี้เป็นสถานที่ซึ่งอยู่ห่างจากวังหลวง กว้างขวางและว่างเปล่า คล้ายกับไม่เคยมีผู้ใดเข้าไปอยู่ เพราะฉะนั้นจึงไม่มีผู้ใดรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นที่เรือนแห่งนี้

หลังจากที่ลอยไปต่อหน้าหลัวช่าคนแรกอยู่หลายรอบ นางเจียงก็พบว่ายังมีหลัวช่าทหารอีกสามคน นางเจียงมองด้วยความตื่นเต้น นางปราดเข้าไปหาหลัวช่าทหารทั้งสาม วรยุทธ์ของสามคนนี้เหนือกว่าหลัวช่าทหารคนแรก เมื่อเห็นว่านางเข้ามา พวกเขาย่อมไม่กลัว แต่ว่าพวกเขาได้รับคำสั่งให้คอยจับตามองนาง ไม่ได้รับคำสั่งมาว่าให้สู้กับนาง

ไม่สู้กับนางหรือ?

นางเจียงกลอกตา แล้ววิ่งหนีออกไปด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ “ไอ้หยาา! ข้าหนีแล้วนะ! ข้าหนีแล้ว!”

หัวหน้าหลัวช่าทหารนัยน์ตากระตุกวูบ จิตสังหารรุนแรงปรากฏขึ้น “หนีไปไหน?!”

“พี่ใหญ่ ข้าเอง!” หลัวช่าทหารคนที่สามใช้วิชาตัวเบา กระโดดเข้าไปจับนางเจียง

เป็นแค่สตรีอ่อนแอ ปราศจากกลิ่นอายของยอดฝีมือ กอปรกับพวกเขายังไม่พบเจอกับสิ่งที่น้องสี่พบ เพราะฉะนั้น แม้ว่านางจะกอดขาน้องสี่จนน้องสี่ขยับไม่ได้ ในสายตาของพวกเขาแล้ว ก็เพียงเพราะน้องสี่ไม่อยากทำร้ายผู้ที่อ่อนแอกว่าจึงไม่สู้กับนาง

น้องสามไม่ได้ใช้วรยุทธ์มากนัก อย่างไรเสียเขาเป็นถึงหลัวช่าทหาร เขามีพลังมากพอที่จะจัดการยอดฝีมือคนใดก็ตามในเผ่าพ่อมด แต่ขณะที่เขากำลังจะคว้าคอเสื้อของสตรีคนนั้น นางก็หนีไปจากมือของเขาในทันใด

หรือว่าเขาจะตาลาย? หรือว่าเขาเล็งเป้าหมายพลาด

น้องสามตั้งสติ แล้วคว้าสตรีคนนั้นอีกครั้ง

ครั้งนี้เขามั่นใจว่าเขาจับนางได้แล้ว ทว่ากลับแตะไม่โดนแม้แต่ปลายเสื้อ

น้องสามมองไปยังมือของตน จากนั้นก็มองไปยังนางเจียง ความฉงนใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเขา

พี่รองขมวดคิ้ว “น้องสามเจ้าเป็นอะไรไป ยังไม่รีบจับนางอีก?”

ทันใดนั้นสายตาของน้องสามก็พลันเย็นเยียบ สีหน้าของเขาดุดัน พลังของหลัวช่าทหารถูกปลดปล่อยออกมา หมายจะหยุดผู้หญิงคนนั้นไว้

จะว่าไปก็น่าขัน เขาเป็นถึงหลัวช่าทหาร ไม่เคยต้องใช้พลังเช่นนี้ในการต่อสู้กับยอดฝีมือ แต่วันนี้กลับต้องมาใช้พลังกับสตรีที่ไร้พลังภายใน ครั้งนี้ถ้าหากจับไม่ได้ เกรงว่าเขาคงจะไม่คู่ควรกับการเป็นหลัวช่าทหารอีกต่อไป

“น้องสามเป็นอะไรไป ใช้พลังไม่ได้หรือ?” พี่รองเอ่ยถาม

ทำเช่นนี้ต่างอะไรกับการใช้มีดเชือดวัวไปเชือดไก่?

ไม่มีใครเข้าใจว่าทำไมน้องสามจึงทำเช่นนี้ นอกจากน้องสี่ซึ่งถูกกอดจนขาชาจนถึงตอนนี้

ยอดฝีมือที่แท้จริงสามารถปล่อยและเก็บพลังภายในได้อย่างอิสระ หลัวช่าทหารที่แข็งแกร่งสามารถปล่อยพลังออกมาคลุมเรือนได้ทั้งหลัง โดยที่ไม่มีสิ่งใดเล็ดลอดออกไป นั่นทำให้องครักษ์ในวังหลวงไม่สามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น และทำให้พลังซึ่งกดอยู่ด้านในน่ากลัวยิ่งกว่าเดิม

ภายใต้พลังที่แข็งแกร่งเช่นนี้ สตรีผู้นั้น…นางก็ยังพุ่งเข้ามาหาเขา!!!

นางเจียงพบว่าไม่มีผู้ใดตามนางมา จึงหันหลังไปมอง เอ๊ะ? ยืนอึ้งกันอยู่ทำไมเล่า หรือว่าตนเองวิ่งเร็วเกินไป จนเขาตามไม่ทัน?

นางเจียงจึงถอยหลังเตาะแตะกลับไป

มาตามข้าเร็ว ข้าวิ่งไม่เร็วนะ~

ปะ…เป็นไปได้อย่างไร? น้องสามยืนอ้าปากค้าง เขากระทืบเท้าขวา จากนั้นก็เพิ่มวรยุทธ์ เพิ่มพลังขึ้นอีกมหาศาลราวกับเขาไท่ซาน กดจนหลัวช่าทหารคนอื่นๆ สัมผัสได้ถึงอันตราย

กระทืบเท้า? โกรธหรือ?

เอาเถอะๆ นางจะวิ่งให้ช้าลงอีกสักหน่อยก็ได้

นางเจียงวิ่งถอยหลังกลับไปอีก

ใกล้ขนาดนี้ ต้องจับได้แล้วกระมัง?

มาสิๆๆ มาจับข้าสิ!

เมื่อน้องสามเห็นว่านางยังเคลื่อนไหวได้ ก็ตื่นตะลึงในทันใด เขากัดฟันกรอด กำหมัดแน่น รวบรวมพลังไว้ที่จุดตันเถียน แล้วเพิ่มพลังภายในขึ้นจนถึงขีดสุด!

“ไอ้หยา~” นางเจียงยกมือขึ้นก่ายหน้าผาก แล้วล้มลงไปบนพื้นอย่างอ่อนแอ

น้องสามหายใจเฮือกด้วยความตกใจ!

เขาว่าแล้วเชียว!

เป็นถึงหลัวช่าทหาร มีหรือจะกำราบสตรีคนเดียวไม่ได้?!

น้องสามซึ่งเหงื่อกาฬโซมกายก็ก้าวขึ้นไปด้านหน้า แล้วยื่นมือออกมาเพื่อคว้าสตรีซึ่งนอนหมดสติอยู่บนพื้น

ไหนเลยจะรู้ว่าเขายังไม่ทันได้แตะต้องตัวนาง ก็ถูกนางต่อยจนกระเด็นออกไป!

น้องสามซึ่งยังไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น “…”

พี่รองซึ่งกำลังสับสนกับภาพเหตุการณ์ตรงหน้า “…”

น้องสี่ซึ่งปิดตาเพราะไม่กล้ามอง “…”

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นก็เป็นไปดังคาด เพื่อที่จะจับนางปีศาจ…ถูกต้องแล้ว เห็นได้ชัดว่านางไม่มีกลิ่นอายของยอดฝีมือ แต่กลับต่อยด้วยแรงที่ไม่อาจต่อต้านได้ จะไม่ให้เรียกว่าปีศาจแล้วจะให้เรียกว่าอย่างไร?

ทั้งสี่คนร่วมมือกัน เพื่อสู้กับนางเจียง

ต่อยหลัวช่าทหารคนหนึ่งนั้นมิได้ใช้แรงมากมาย แต่หากต้องสู้กับหลัวช่าทหารถึงสี่คนนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นางเจียงปล่อยกำปั้นเล็กๆ ออกไป ทั้งสี่คนล้วนแต่รับไว้ได้อย่างง่ายดาย ทั้งยังต่อยคืนด้วยพลังเพียงเก้าส่วน จนนางเจียงกระเด็นไปไกล

“ที่แท้ เมื่อพวกเราสี่คนรวมพลังกัน ย่อมไร้เทียมทานเช่นนี้…”

น้องสามยังพูดไม่ทันจบประโยค นางเจียงก็ลอยกลับมานั่งจ้องพวกเขาพลางกะพริบตาปริบๆ

ราชินีแม่มดทั้งถูกตบ ทั้งถูกเด็กอ้วนหล่นลงมาทับ นางรู้สึกคล้ายกับกระดูกกำลังจะหักเป็นสองท่อน

ใบหน้าของราชินีแม่มดปวดราวกับหัวหมู เด็กทั้งสามจึงจำไม่ได้ว่านางคือราชินีแม่มดเลือดเย็นที่สั่งขังพวกตน

เด็กทั้งสามมองนางครู่หนึ่ง ในตอนนั้นเอง เอ้อร์เป่าก็ชี้นาง แล้วพูดว่า “ต้าเป่า เจ้าทับจนท่านผู้เฒ่าหายใจไม่ออกแล้ว”

ผะ…ผู้เฒ่า?

ราชินีแม่มดอยากกระอักเลือด!

ต้าเป่าเกาศีรษะด้วยความรู้สึกผิด แล้วรีบลงมา

เกือบทับจนท่านผู้เฒ่าแบนซะแล้ว

เขาไม่ใช่เด็กดีแล้ว ทำอย่างไรดี?

“นางบาดเจ็บหนัก! ต้องเจ็บแน่ๆ!” เสี่ยวเป่าพูดด้วยสีหน้าเบี้ยวบูดพลางมองไปยังใบหน้าบวมฉุของราชินีแม่มด

“ยา!” เอ้อร์เป่าพูด

ต้าเป่ารีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับถุงผ้าของตน เอ้อร์เป่าและเสี่ยวเป่าเปิดกระเป๋า แล้วเททุกอย่างออกมา

“อันนี้” เอ้อร์เป่าหยิบยาเม็ดสีแดงออกมา

“ไม่ใช่ อันนี้ต่างหาก” เอ้อร์เป่าหยิบยาเม็ดสีดำออกมา

ต้าเป่ากลับหยิบยาเม็ดสีขาวขึ้นมา

ช่างเถอะ ป้อนให้นางทั้งหมดนั่นแหละ ต้องมีเม็ดหนึ่งที่ถูก!

ต้าเป่าเปิดปากนางออก แล้วกรอกยาเข้าไปสามเม็ดรวด

ราชินีแม่มดตกใจจนตาเหลือก

“ไอ้หยา!” เสี่ยวเป่าร้องลั่น “ยาพิษของข้าหายไปแล้ว! หรือว่าเมื่อครู่ป้อนผิดไป?”

ยาพิษที่เสี่ยวเป่าพูดถึงก็คือยาซึ่งทำจากพิษของสัตว์พิษ ยาพิษบางชนิดสามารถใช้เสริมพลังภายในได้ แต่ก็มียาพิษบางชนิดที่ใช้สำหรับเพิ่มพิษ คนทั่วไปกินไม่ได้

“เร็วๆๆ…ให้นางคายออกมา!” เสี่ยวเป่ารีบร้อนบอก

“นางคายไม่ออก” เอ้อร์เป่าบอก

ต้าเป่ายกไม้ขึ้นมา แล้วฟาดลงไปเต็มแรง!

……………………………………………..

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]