อาม่าตั้งสติแล้วกล่าวต่อ “ไม่มีผู้ที่ตกอยู่ในกำมือของมัน แล้วมีโอกาสได้ต่อสู้แม้แต่คนเดียว!”
…
วันนี้เป็นวันพิธีสรงสามของหลานชายฝั่งมารดาของฮูหยินรอง ต๋าหว่ารับปากว่าจะกลับไปบ้านมารดาเป็นเพื่อนนาง วาจาที่เปล่งออกจากปาก ก็เป็นดั่งสายน้ำที่ไม่ไหลย้อนกลับ หลังจากทานมื้อเช้าไม่นาน ต๋าหว่าก็ขึ้นรถม้าเดินทางไปยังจวนสกุลเนี่ยกับฮูหยินรอง
ต๋าหว่ามาไม่ทันการสนทนาระหว่างอวี๋หวั่นและพวกอาม่า ทว่าแผนการในคืนนี้เขาเองก็รู้ รอให้แลกตัวเยี่ยยางกับราชาพ่อมดแล้ว ภารกิจของพวกเขาในเผ่าพ่อมดก็จะสิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์
เมื่อถึงเวลานั้น เขาก็จะตามพวกเขาจากไปด้วยเช่นกัน
เขาลอบมองสตรีข้างกาย ไม่รู้เพราะเหตุใด ในใจ…
“นายท่านรองเป็นอะไรไปหรือ?” ฮูหยินรองหันมากล่าวเบาๆ ขัดความคิดต๋าหว่า
“อา ไม่มีอะไร” ต๋าหว่าหันหน้ากลับ มือที่วางบนเข่าค่อยๆ กำแน่น “ข้ากำลังคิดว่า กว่าข้าจะเดินทางกลับไปเยี่ยมบ้านพร้อมกับเจ้าสักครั้งก็ไม่ง่ายเลย แต่ของขวัญสักชิ้นก็ไม่มี”
ฮูหยินรองโค้งมุมปากเล็กน้อย “ข้าเตรียมทุกอย่างไว้พร้อมแล้ว นายท่านรองไม่ตำหนิว่าข้าฟุ่มเฟือยก็พอ”
“จะเป็นไปได้อย่างไร?” ต๋าหว่าตอบโดยไม่ต้องคิด
ฮูหยินรองแย้มยิ้ม หลุบตาลงต่ำ เล่นผ้าเช็ดหน้าในมือ
ทันใดนั้น ล้อของรถม้าก็ชนกับหินก้อนหนึ่ง รถม้าถูกกระแทกอย่างแรง ฮูหยินรองกรีดร้อง ร่างกายพุ่งไปด้านหน้าและกำลังจะชนกับกำแพง ต๋าหว่ามือไวสายตาเฉียบแหลมคว้าตัวนางดึงกลับมาได้ทัน
พละกำลังที่ใช้นั้นมากเกินไปจนฮูหยินรองล้มสู่อ้อมแขนของเขา
แม้ทั้งสองจะนอนร่วมเตียง ทว่าก็ไม่เคยใกล้ชิดกัน นี่เป็นครั้งแรกที่ต๋าหว่าได้สัมผัสความรู้สึกที่มีนางอยู่ในอ้อมแขนของตน
ต๋าหว่าผงะไปชั่วครู่
“ขออภัยขอรับ ล้อกระแทกเข้ากับบางสิ่ง นายท่านรอง ฮูหยินรอง พวกท่านไม่เป็นไรใช่หรือไม่?” สารถีเอ่ยถามอย่างร้อนใจ
“ไม่เป็นไร” ฮูหยินรองรีบทรงตัวนั่ง ขนตากระพือสั่นไหว ใบหน้าแดงก่ำ
ต๋าหว่าไม่เคยต้องสตรีใดมาก่อน การสัมผัสเมื่อครู่นั้น ทำให้เขาตกใจยิ่งนัก กระทั่งมาถึงจวนสกุลเนี่ยแล้วก็ยังไม่ได้สติกลับคืนเต็มที่
เวินซวี่กับฮูหยินรองภายนอกสนิทสนมทว่าความจริงไม่ใช่ เรื่องนี้ในแวดวงชนชั้นสูงแห่งเผ่าพ่อมดมิใช่ความลับอะไร ในปีแรกๆ เวินซวี่ยังคงทำเหมือนทุกอย่างปกติใต้อิทธิพลของผู้อาวุโสสูงสุดและบิดา เมื่อความสัมพันธ์สามีภรรยาค่อยๆ ห่างเหิน สุดท้ายเวินซวี่ก็ขี้เกียจจะแสดงละครต่อไป
ดังนั้นยามที่ ‘เวินซวี่’ ปรากฏตัวพร้อมกับฮูหยินรอง ในพิธีสรงสามของคุณชายน้อยเนี่ย แขกหลายคนจึงรู้สึกประหลาดใจ
“ข้าได้ยินมาว่า เวินซวี่เลี้ยงปีศาจจิ้งจอกตนหนึ่งไว้นอกเผ่า ท้องก็ท้องแล้ว ยังพากลับไปที่จวนสกุลเวิน!”
“มีเรื่องเช่นนี้จริงหรือ?”
“จริงแท้แน่นอน! ไม่เช่นนั้นเหตุใดเขาถึงกลับมาเยี่ยมบ้านสะใภ้พร้อมกับเนี่ยหวั่นโหรวได้เล่า? คงคิดจะให้เนี่ยหวั่นโหรวรับเด็กนั่นไว้น่ะสิ!”
เวินซวี่กลับจากด้านนอกมาก็มิใช่วันสองวัน ทว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีข่าวว่าเขาให้กำเนิดบุตรกับสตรีอื่น ช่างเป็นการกระทำที่ไม่เห็นภรรยาอยู่ในสายตา หากเนี่ยหวั่นโหรวร้องไห้ปรับทุกข์เรื่องนี้กับผู้อาวุโสสาม ผู้อาวุโสสามย่อมต้องขอคำอธิบายจากจวนสกุลเวินแน่
ส่วนแรงจูงใจที่ทำให้ต๋าหว่าตามฮูหยินรองกลับมาเยี่ยมบ้านสะใภ้ ก็ถูกคนกลุ่มหนึ่งแย่งกันพูดไปต่างๆ นานาแล้ว
ฮูหยินรองไม่กล่าวสิ่งใด ทว่าคนกลุ่มนี้ก็ไม่กล้าเข้ามาถามนางต่อหน้า
แต่มีคนหนึ่งซึ่งเป็นที่ยกเว้น
“คุณหนู นายท่านเรียกคุณหนูเจ้าค่ะ” สาวใช้สกุลเนี่ยผู้หนึ่งเดินเข้ามากระซิบกับฮูหยินรองที่โถงบุปผา
“เข้าใจแล้ว” ฮูหยินรองพยักหน้า และกล่าวกับเวินซวี่ที่นั่งยืดตัวตรง “ท่านตามข้ามาด้วยกันเถอะ”
ไปด้วยกัน ดีเลย!
เขาไม่รู้จักผู้ใดที่นี่ หากมีผู้ใดเข้ามาคุยกับเขา แผนต้องแตกแน่!
ฮูหยินรองพาต๋าหว่าไปที่ลานของผู้อาวุโสสาม
ขณะที่กำลังจะเข้าห้องตำรา ก็มีสาวใช้นางหนึ่งเดินเข้ามา “นายท่านกล่าวว่าต้องการพบเพียงคุณหนู เชิญท่านบุตรเขยรอข้างนอกเถอะเจ้าค่ะ”
รอข้างนอกรึ? จวนสกุลเนี่ยขาดแม้กระทั่งห้องโถงรับแขกหรืออย่างไร? เห็นได้ชัดว่าต้องการวางอำนาจกับเวินซวี่
ผู้อาวุโสสามเฝ้าดูเวินซวี่จนเติบใหญ่ ยามที่เขายังเด็กนับว่าไม่เลว เฉลียวฉลาด ปากหวาน เป็นที่รัก ไม่เช่นนั้นเขาจะยอมรับการแต่งงานครั้งนี้ได้อย่างไร? ทว่าผู้ใดจะคาดคิดว่าสิบปีหลังจากนั้น เวินซวี่จะเติบโตเป็นต้นไม้ที่คดงอเช่นนี้?
ผู้อาวุโสสามเกลียดชังเวินซวี่ในยามนี้ ยิ่งได้ยินมาว่าเวินซวี่พาปีศาจจิ้งจอกกลับมา ก็โกรธเกรี้ยวจนนอนไม่หลับถึงสามวันสามคืน หากปล่อยให้เวินซวี่เข้ามานั่งในห้องทำตัวตามสบายก็แปลกแล้ว
ต๋าหว่ากลับไม่ถือสา ถึงอย่างไรเขาก็ไม่ใช่ลูกท่านหลานเธอจริงๆ จังๆ บุตรชายที่จริงจัง ยืนแล้วจะเป็นอะไร? อากาศข้างนอกก็ไม่เลว!
“ท่านอย่าเดินเตร็ดเตร่ไปที่ใด ไม่นานข้าจะออกมา” ฮูหยินรองเอ่ยเตือน
ต๋าหว่ากล่าวว่า “เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะไปรอเจ้าข้างนอก เจ้าไม่ต้องรีบร้อนออกมา ไม่ได้พบหน้าท่านพ่อของเจ้ามานาน อยู่พูดคุยกับเขามากหน่อย”
ฮูหยินรองมองเขา อ้าปากอ้ำอึ้ง “อื้ม”
ฮูหยินรองเข้าห้องตำราไป
เรื่องที่เวินซวี่เลี้ยงปีศาจจิ้งจอกไว้ ผู้อาวุโสสามไม่เพียงได้ยินได้ฟังมา แต่ยังได้ยินมามากกว่าแขกข้างนอกเสียอีก ปีศาจจิ้งจอกนั่นไม่ใช่สิ่งดีอะไร อาศัยทำให้เวินซวี่ลุ่มหลงมัวเมา ใช้อุบายกับราชาพ่อมด ที่องค์ชายเยี่ยยางหายตัวไปก็เพราะปีศาจจิ้งจอกนั่น
โชคดีที่ราชินีแม่มดเป็นพี่สาวของเขา ไม่เช่นนั้นหากอาศัยเพียงการเห็นแก่ญาติของสองตระกูล จวนสกุลเนี่ยคงถูกบุตรเขยที่โง่เขลาลากลงไปในน้ำแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]