หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 516

ทันทีที่สิ้นเสียงโจวอวี่เยี่ยน ทุกคนก็มองตามนิ้วของนาง เห็นสุดทางเดินเลียบผาสู่จ๊กก๊กที่มืดสนิท แสงจันทร์เลือนรางส่องลงมา ผืนป่าปกคลุมไปด้วยหมอกขาวจาง เงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากควันหมอกอย่างอ่อนช้อยสง่างาม ห่อหุ้มกายด้วยแสงจันทร์ทางช้างเผือก

เสื้อผ้าของนางแปลกประหลาดมาก บนร่างกายสวมเพียงเสื้อคลุมสีแดงที่ใหญ่กว่าเสื้อตู้โตวเล็กน้อย เผยให้เห็นคอระหง และแขนเนียนขาวดุจรากบัวคู่หนึ่ง ใต้สะดือเป็นกางเกงขายาวสีเดียวกัน ปลายขารัดแน่นเห็นข้อเท้าเรียวบางดุจหยก

นางเดินเท้าเปล่า ข้อเท้าขาวมีเชือกแดงที่ผูกกระดิ่งทองแดงไว้ ข้อมือคล้องด้วยผ้าบางสีแดง เดินเข้ามาหาพวกเขาอย่างพลิ้วไหว

ทุกย่างก้าว มีเสียงกระดิ่งทองแดงจากข้อเท้า เสียงนั้นต่างจากระดิ่งทองแดงที่พวกเขาเคยได้ยิน ไม่หนักแน่นรุนแรง แต่เมื่อเข้าหูกลับลึกซึ้งถึงใจคน

นางซ่อนอยู่ในแสงสว่าง ไม่เปิดเผยใบหน้า แต่ท่วงท่าอารมณ์เช่นนี้ พบได้ยากยิ่งในช่วงชีวิตของทุกคน จึงถูกดึงดูดไปโดยไม่ตั้งใจ

โจวอวี่เยี่ยนแม้แต่เสียงของตนก็หาไม่พบ ดวงตาเบิกกว้างจนลูกตาแทบหลุดออกมา

เหตุใดใต้หล้าถึงมีสตรีที่น่าหลงใหลชวนให้เคลิบเคลิ้มเช่นนี้ได้? งดงามเกินไปแล้วกระมัง?

ไม่ใช่เพียงโจวอวี่เยี่ยน แม้แต่อิ่งสือซันที่ไม่ชินกับการมองสตรีคนใดตรงๆ ก็ยังรู้สึกถึงกลิ่นอายที่ชวนหลงใหลจากกายของนาง

ต้องกล่าวว่า หลังจากพบแม่ลูกนางเจียงและเยี่ยนจิ่วเฉาแล้ว โลกมนุษย์ก็ไร้เสน่ห์ ทว่าสตรีผู้นี้เหมือนทำให้พวกเขาได้พบกับความสวยงามอีกประเภทหนึ่งบนโลก

“จี๊ด!”

สัตว์พิษตัวน้อยร้องออกมา

โจวจิ่นเป็นเด็ก ได้สติกลับมาเป็นคนแรก เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน “ระวัง เป็นกลอุบาย!”

เพียงประโยคเดียว ทุกคนราวกับถูกตีหัวให้ตื่นจากภวังค์ อวี๋เซ่าชิงชักดาบยาวออกมา ยืนขวางด้านหน้าทุกคนแล้วกล่าวด้วยสีหน้าจริงจัง “ดึงสมาธิกลับมา! อย่าหลงกลนาง!”

โจวอวี่เยี่ยนกุมหัวใจ นางเกือบตกจากหลังม้าแล้ว เมื่อครู่มองสตรีผู้นั้นเพียงไม่นาน ก็เหมือนกับใช้พลังงานที่มีไปจนหมด บัดนี้แม้แต่ย้ายลมปราณก็ทำไม่ได้เสียแล้ว

นางถามด้วยความหวาดกลัว “นี่มันอะไรกัน? วิชามายา? หรือวิชาเสน่ห์?”

ทั้งใช่และไม่ใช่

นี่คือเวทมนตร์ที่เหนือกว่าวิชามายาและวิชาเสน่ห์ ไม่มีนักเวทคนใดสามารถทำลายออกไป แม้กระทั่งราชาพ่อมด

โจวจิ่นเหลือบมองสตรีผู้นั้นด้วยใบหน้าเคร่งขรึม

เห็นสตรีผู้นั้นดีดปลายเท้าขึ้นไปบนยอดต้นไม้ใหญ่อย่างแผ่วเบา นั่งลงอย่างสง่างามและโดดเด่น

แสงจันทร์ส่องบนเท้าคู่หยกเนียนละเอียด สองด้านเป็นผ้าบางที่หย่อนคลายลงมา งดงามดุจภาพวาด วิจิตรน่าหลงใหล

เสียงหัวเราะดุจกระดิ่งเงินลอดออกมาจากริมฝีปากและไรฟัน เป็นเสียงหัวเราะที่ไพเราะตรึงใจที่สุดที่พวกเขาเคยได้ยิน

“น่าสนใจยิ่งนัก พวกเจ้าเป็นใครกัน?” นางเอ่ยพลางมองพวกเขา

น้ำเสียงที่เอ่ยไพเราะยิ่งกว่าเสียงหัวเราะ แทบจะเป็นเสียงจากธรรมชาติ

“แล้วเจ้าละเป็นใคร?” โจวจิ่นถาม

“หือ? เด็กหรือ?” นางปิดปากยิ้ม มีแววตาประหลาดใจ “แล้วยังเป็นถึงพ่อมดใหญ่ พ่อมดใหญ่ระดับเทียนอายุน้อยเช่นนี้ ข้าไม่พบมานานแล้ว”

ไม่พบมานาน หมายความว่า…เคยมีพ่อมดใหญ่ระดับเทียนอายุน้อยเช่นนี้ด้วยหรือ? ทุกคนประหลาดใจ ในประวัติศาสตร์ของเผ่าพ่อมดยังมีเด็กที่มีพรสวรรค์ดีกว่าโจวจิ่นอีกหรือ?

“เจ้าละเป็นใคร?” โจวจิ่นถามอย่างสงบเงียบ

“ข้าคืออู๋ซั่งเยว่จี” นางกล่าวพลางยิ้มหวาน “หรือ…เจ้าจะเรียกข้าว่าหลัวช่าวิญญาณก็ได้”

“อะไรนะ? นางก็คือหลัวช่าวิญญาณ?” โจวอวี่เยี่ยนตกตะลึง มิใช่กล่าวว่าหลัวช่าวิญญาณเป็นปีศาจชั่วร้ายหรอกหรือ? ก่อนมา ไม่รู้นางวาดภาพหลัวช่าวิญญาณในใจไปมากมายเพียงใด ดุร้าย เลือดเย็น โหดเหี้ยม น่าสยดสยอง…แต่ไม่ใช่สตรีผู้งดงามทรงเสน่ห์ตรงหน้าอย่างแน่นอน

“เด็กสองคนในรถม้าข้าเอาไปละ ส่วนคนที่เหลือ…” แววตาแฝงนัยลึกล้ำของอู๋ซั่งเยว่จีมองข้ามกลุ่มคนที่กำลังนั่งอยู่ในรถม้า ทันใดนั้นมุมปากก็โค้งขึ้น นางดีดปลายเท้าเบาๆ ร่างของนางพลันแวบออกไป

“ระวัง!” อิ่งสือซันพูดเสียงดัง

สิ่งที่ตอบกลับเขาคือเสียงหัวเราะราวกับกระดิ่งเงินของสตรี เกือบในเวลาเดียวกันที่เสียงหัวเราะดังขึ้น ร่างของสตรีผู้นั้นก็โผล่มาด้านข้างอิ่งสือซัน อิ่งสือซันไม่ทันตอบโต้ ก็รู้สึกว่ามีคนลูบใบหน้าของตน

เขาตื่นตกใจยกมือปัดป้อง

แล้วมือนั้นก็จับที่เอวของเขา

“เอวดี”

สตรีผู้นั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม

อิ่งสือซันระเบิดโทสะ เหวี่ยงดาบใส่สตรีผู้นั้น

สตรีผู้นั้นหลบหลีกอย่างง่ายดาย เข้าโอบกายอิ่งลิ่วราวกับผี นั่งบนหลังม้าของอิ่งลิ่ว มือลูบไล้มือเรียวยาวของอิ่งลิ่ว “มือดี”

อิ่งลิ่วทั้งอับอายทั้งโกรธเคือง

หญิงสาวก็หัวเราะออกมาอีกครั้ง ร่างกายของนางแวบ เหาะไปทางโจวอวี่เยี่ยน “ดวงตางดงามยิ่งนัก”

หลังจากใช้ปลายนิ้วลูบดวงตาของโจวอวี่เยี่ยน ก็แวบเหาะไปทางอวี๋เซ่าชิง

อวี๋เซ่าชิงเดาออกว่านางจะทำสิ่งใด ตามหลักที่ว่า ‘ร่างกายของตนเป็นของอาซู ไม่มีสตรีคนใดแตะต้องตนได้นอกจากอาซู อาซู และลูกๆ ของเขา’ อวี๋เซ่าชิงไม่ลังเลที่จะตกลงจากหลังม้าจนหัวคะมำ

ทว่าก็หลบมือของสตรีผู้นั้นไปได้

“หือ?” หญิงสาวผงะ ราวกับไม่คิดว่าบุรุษผู้นี้จะโง่เขลาถึงเพียงนี้ นางดีดปลายเท้ากลับไปบนยอดไม้ “ข้าไม่ต้องการชีวิตของพวกเจ้า นำสิ่งที่ข้าสัมผัสทิ้งไว้เสีย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]