ทันทีที่อิ่งลิ่วกับอิ่งสือซันได้ยินเสียงสูดปากเบาๆ ก็รู้สึกว่าตนทนดูไม่ไหวอีกต่อไป
ฮูหยิน ท่านเป็นคนมีคู่ครองแล้ว หยุดเลยขอรับ!!!
ช่างงดงาม ช่างงดงามยิ่งนัก งดงามจนแทบหยุดหายใจ… หัวใจของเจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์ใกล้จะระเบิด เหตุใดถึงมีคนรูปงามเช่นนี้อยู่บนโลกกันนะ?
ซู้ดๆๆ~
อิ่งลิ่วกระโดดขึ้นอย่างร้อนใจ ฮูหยิน! ท่านยังจำอวี๋เซ่าชิงจากหมู่บ้านเหลียนฮวาได้อยู่หรือไม่?!
“แม่นาง” ชายหนุ่มเรียกนางอย่างเย้ายวน แล้วยกมือใช้ปลายนิ้วแตะนาง
เจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์ปล่อยหมัดเล็กๆ ออกไป!
ทว่ากลับถูกเพียงความว่างเปล่า!
เขาหายไปแล้ว!
โจวอวี่เยี่ยนและโจวจิ่นอาจไม่รู้จักความสามารถของนาง แต่อิ่งลิ่วและอิ่งสือซันกลับคุ้นเคยดีที่สุด คนที่สามารถต่อรองยามอยู่ในมือของฮูหยินของพวกตน มีหลัวช่าวิญญาณเป็นคนแรก
พวกเขาสงสัยอย่างยิ่งว่าหลัวช่าวิญญาณผู้นี้ไม่ได้มีตัวตนอยู่จริง แต่เป็นเพียงภาพลวงตา ไม่เช่นนั้น จะมีผู้ใดเคลื่อนไหวเร็วพอที่จะหลบหลีกหมัดเล็กๆ ของฮูหยินได้?
แต่ทว่า เอวของอิ่งสือซันและมือของอิ่งลิ่ว ยังคงมีสัมผัสของหลัวช่าวิญญาณหลงเหลืออยู่ ราวกับจะเตือนพวกเขาว่าหลัวช่าวิญญาณมีตัวตนอยู่จริง
เจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์มองไปที่ป่าอันเงียบสงบ ก็มุ่นขมวดคิ้วอย่างไม่สบายใจ
วินาทีต่อมา กลิ่นอายอบอุ่นก็พุ่งเข้ามา เอวของเจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์ถูกโอบจากคนที่อยู่ด้านหลัง น้ำเสียงลุ่มลึกน่าดึงดูดค่อยๆ ดังขึ้นข้างหูของเจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์ “แม่นาง ข้าอยู่นี่ไง”
คราวนี้เจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์ไม่ปล่อยให้เขาหนีไป จับข้อมือและออกแรงดึงเขามาอยู่ด้านหน้าของตน
ทันทีเจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์คว้าคอของเขา ก็ขว้างขึ้นไปในอากาศ กระแทกเขากับต้นไม้อย่างโหดเหี้ยม!
คืบหน้ามาถึงจุดนี้โดยพื้นฐานแล้วเป็นที่แน่นอน ทว่าชายหนุ่มที่ถูกเจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์บีบคอ จู่ๆ ก็สำแดงพลังเสน่ห์ ใบหน้าที่เดิมทีก็โดดเด่นกว่าผู้ใดอยู่แล้ว กลับยิ่งงดงามขึ้นเรื่อยๆ
“ซู้ด~” เจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์จะทนไม่ไหวอีกครั้ง
หัวใจของอิ่งลิ่วเคลื่อนมาถึงปาก ฮูหยิน! ใจเย็นๆ! ใจเย็นๆ นะขอรับ!
ใจ——เย็น——ไม่——ไหว——แล้ว——
อ๊ายยย! เหตุใดถึงมีคนรูปโฉมงดงามได้เช่นนี้?!
หมัดเล็กๆ ของเจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์ปล่อยไม่ออกอีกแล้ว!
บุรุษผู้นั้นมองนางอย่างเสน่หา
“ระวัง! เขากำลังจะดูดพลังวิญญาณ!” โจวจิ่นตะโกน
เจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์เหวี่ยงชายหนุ่มในมือออกไปทันที!
ชายผู้นั้นชนเข้ากับต้นไม้ใหญ่อีกต้นหนึ่ง ดีดปลายเท้า หมุนวนกลางอากาศ ขจัดความอับอายจนตรอกและกระอักกระอ่วนที่กระแทกต้นไม้ แล้วตกลงบนกิ่งอย่างสง่างาม
ไม่รู้เมื่อไรที่ในมือของชายผู้นั้นมีพัดสีดำเล่มหนึ่ง เขากางมันออกปิดบังใบหน้าครึ่งหนึ่ง นัยน์ตาดอกท้อหรี่ลงเป็นพระจันทร์เสี้ยวดูงดงาม “มองทะลุศาสตร์ดูดวิญญาณของข้าได้ นับว่ามีความสามารถอยู่บ้าง มิน่าราชินีแม่มดถึงอยากกำจัดพวกเจ้า”
เขาเอ่ยอย่างทอดถอนใจ พลางคลายกระดูกและกล้ามเนื้อของตน “หลังจากหลับใหลมานานหลายปี ฝีมือของข้าก็ตกลง วิชาดูดวิญญาณของข้าเมื่อก่อน ไม่มีผู้ใดสามารถหลบหนีได้”
เขามองดูดวงจันทร์ที่สว่างไสวและเอ่ยด้วยรอยยิ้มว่า “ฟ้าใกล้สางแล้ว วันนี้ข้าเล่นกับพวกเจ้าเพียงเท่านี้ พบกันคราหน้า พวกเจ้าทุกคนจะต้องสบายดี สิ่งที่ข้าต้องการ ข้าจะนำไปด้วยตนเอง”
อิ่งลิ่วกดมือของตนโดยไม่รู้ตัว โจวอวี่เยี่ยนก็ปิดตานางโดยไม่รู้ตัว ส่วนอิ่งสือซัน แม้ว่าเขาจะไม่ได้เคลื่อนไหวมากนัก แต่เอวของเขาก็ยังแข็งค้างไปชั่วครู่
“ยังมีวิญญาณที่ข้าไม่ได้เอาไป…” ชายผู้นั้นกล่าวด้วยรอยยิ้ม แล้วหันมองเจียงน้อยจอมเจ้าเล่ห์ด้วยแววตามีนัยลึกล้ำ “แล้วข้าจะกลับมาอีกครั้ง”
เงาเลือนรางแวบไปทางรถม้า
“องค์ชายเยี่ยยางข้าจะพาไป ลาก่อน!”
ขณะที่เสียงนี้ดังขึ้น เขาก็แวบร่างพาคนออกจากป่าทึบไปแล้ว
หลัวช่าวิญญาณหายไปไร้ร่องรอย โจวอวี่เยี่ยนและคนอื่นๆ ก็รู้สึกว่ากำลังภายในของตนค่อยๆ ฟื้นคืน ว่าไปแล้วก็น่าแปลก เห็นๆ ว่าคนผู้นั้นไม่ได้ใช้พลังกดดันและกำลังภายในกับพวกเขา แต่กลับสามารถทำให้พวกเขาไม่อาจใช้แรง หรือนี่คือสิ่งที่เรียกว่าพลังยับยั้งวิญญาณ?
สมองและประสบการณ์ที่ผ่านมาของโจวอวี่เยี่ยนไม่เพียงพอที่จะคิดเรื่องเหล่านี้ให้ตก สิ่งที่นางกังวลมากที่สุดในยามนี้คือความปลอดภัยของศิษย์น้อง
“ศิษย์น้อง เจ้าไม่เป็นไรใช่หรือไม่?”
เมื่อกล่าวถึงศิษย์น้อง ก็ทำให้ต้องนึกถึงเยี่ยยางซึ่งนั่งอยู่ในรถคันเดียวกันกับศิษย์น้องไปด้วย องค์ชายเยี่ยยางที่มาถึงมือพวกเขาอย่างยากลำบาก กลับถูกหลัวช่าวิญญาณพาตัวไปอย่างเปล่าประโยชน์เช่นนี้ โจวอวี่เยี่ยนระเบิดความโกรธแค้น หลัวช่าวิญญาณน่ากลัวเช่นนั้น ต่อไปเกรงว่าจับตัวประกันมาอีกครั้งจะไม่ง่ายแล้ว
โจวอวี่เยี่ยนเปิดม่านออกด้วยความรำคาญ ทว่าสิ่งที่ทำให้ตะลึงงันคือ ในรถม้าไหนเลยจะมีศิษย์น้องของนาง? กลับมีเพียงเยี่ยยางที่ตัวสั่นระริก!
“จะ..เจ้าไม่ได้ถูกพาไปหรอกหรือ?” โจวอวี่เยี่ยนตะลึงตาค้าง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]