อาม่าพอคุ้นเคยกับศาสตร์เวทอยู่บ้าง สามารถดูดาวทำนายดวงชะตา ยามที่ดูดวงดาวเมื่อคืน รู้สึกว่าเรื่องราวจะไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่นนัก และก็เป็นไปดังคาด พวกเขาได้พบกับหลัวช่าวิญญาณ
“ภารกิจล้มเหลว” อิ่งลิ่วกล่าวอย่างเสียใจ
อาม่านั่งลงที่โต๊ะ รินน้ำชาเข้มข้นให้คนสองสามคน “พวกเจ้าพบหลัวช่าวิญญาณแล้วยังมีชีวิตกลับมาได้ก็เป็นโชคดีแล้ว อีกอย่างโจวจิ่นมิได้แฝงตัวเข้าไปในวังแล้วหรือ? หากเป็นเช่นนี้ ก็ไม่นับว่าภารกิจล้มเหลว”
กล่าวได้เพียงว่าเป็นอีกรูปแบบหนึ่งในการถ่วงดุลกับราชินีแม่มด
อาม่าถนอมคำพูดดุจทอง น้อยครั้งที่จะกล่าวกับพวกเขามากมายเช่นนี้ ดูเหมือนว่าการปรากฏตัวของหลัวช่าวิญญาณ กระทั่งอาม่าก็ยังตระหนักถึงภัย
“ทว่า…เหตุใดเบื้องหน้าเขามีพลังมากมายเช่นนั้น แต่ทันทีที่ฟ้าเริ่มสางก็หนีไป?” อวี๋หวั่นใช้คำว่าหนี ฟังดูไม่เหมาะสมนัก หลัวช่าวิญญาณจะหลบหนีได้อย่างไร? เป็นถึงยอดฝีมือที่ไม่เหมือนผู้ใดในใต้หล้า เพียงแต่ด้วยขอบเขตพลังของหลัวช่าวิญญาณบวกกับสถานการณ์ในยามนั้น ก็รู้สึกว่าหลัวช่าวิญญาณวิ่งเร็วไปสักหน่อย
เพื่อค้นหาวัตถุดิบยาสำหรับเยี่ยนจิ่วเฉาได้ดีขึ้น อาม่าได้อ่านหนังสือและคัมภีร์โบราณจากทั่วทุกมุมโลกมาตลอดทาง หลังจากเข้าจวนสกุลเวิน ด้วยการอำนวยความสะดวกจาก ‘เวินซวี่’ และฮูหยินรอง เขาก็ได้หนังสือของผู้อาวุโสใหญ่มาไม่น้อย ด้านในมีจดหมายลายมือฉบับหนึ่งกล่าวถึงหลัวช่าวิญญาณแห่งเผ่าพ่อมดตนนั้น
“พวกเจ้ารู้หรือไม่ว่าร่างก่อนของหลัวช่าวิญญาณตนนี้คือใคร?” อาม่าถาม
“ร่างก่อน?” อวี๋หวั่นชะงัก นึกถึงราชาหลัวช่าแห่งหมิงตู ร่างก่อนของราชาหลัวช่าคือประมุขซาง ร่างก่อนของหลัวช่าวิญญาณตนนี้คงไม่ได้มีความเป็นมามากมายเช่นกันกระมัง?
อวี๋หวั่นมองไปที่อาม่า “พลังของเขาร้ายกาจเช่นนี้ คงไม่ใช่…ราชาพ่อมดกระมัง?”
ไม่ได้บอกว่าเขาเชี่ยวชาญในวิชาลวงตากับวิชาเสน่ห์หรือ? ทั้งสองล้วนเป็นแขนงของศาตร์เวท หากเป็นเช่นนี้ เขาก็นับว่ามีศาตร์เวทที่แข็งแกร่งมากจริงๆ
อิ่งลิ่วหายใจเฮือก “ไม่ใช่หรอกกระมัง ร่างกายของราชาพ่อมดและเหล่าพ่อมดอ่อนแอมาก แต่วิชาตัวเบาของเขาทรงพลังมาก”
อวี๋หวั่นกล่าว “ในโลกนี้ไม่มีความแน่นอน ปรมาจารย์พิษก็ไม่ได้ฝึกวรยุทธ์ แต่อาเว่ยกลับได้เป็นยอดฝีมือ”
ทั้งยังเป็นยอดฝีมือในเหล่ายอดฝีมือ
อิ่งลิ่วพยักหน้าเข้าใจอย่างถ่องแท้ “กล่าวเช่นนี้ก็ถูกขอรับ หรือว่าหลัวช่าวิญญาณจะเป็นราชาพ่อมดจริงๆ?”
อาม่ามีสีหน้าซับซ้อน “หลัวช่าวิญญาณไม่ใช่ราชาพ่อมด แต่หลัวช่าวิญญาณได้กลืนสามราชาพ่อมดเข้าไป”
“อะ อะไรนะ? กลืนสาม…ราชาพ่อมด” อิ่งลิ่วคิดว่าตนหูฝาดไป เผ่าพ่อมดมีราชาพ่อมดมากมายปานนั้นเชียวหรือ? ทั้งยังถูกกลืนไปรวดเดียวสามคน?
“วิธีกลืนอย่างไร?” อวี๋หวั่นถาม
“ดูดพลังวิญญาณ” อาม่ากล่าว “หลัวช่าวิญญาณสามารถดูดเก็บความทรงจำของยอดฝีมือทั้งหมดไปใช้เพื่อตนเอง”
ทุกคนหวาดกลัวจนตัวสั่น พวกอิ่งสือซันท่องยุทธภพมานานหลายปี ได้ยินเกี่ยวกับการช่วงชิงวิทยายุทธ์และกำลังภายในมาไม่น้อย ยอดฝีมือจะดูดซับกำลังภายในของยอดฝีมือประเภทเดียวกันได้ เช่นซิวหลัวจะสามารถดูดซับของซิวหลัว แต่ไม่อาจดูดซับของหลัวช่าโลหิต เพราะวิทยายุทธ์ของพวกเขาหักล้างกัน ง่ายต่อการลุ่มหลงจนเสียสติ ไปจนกระทั่งเส้นเอ็นและหลอดเลือดอุดตัน ถึงแก่ความตาย
แต่ฟังจากคำพูดของอาม่า หลัวช่าวิญญาณก็ดูไม่ได้มีปัญหาเช่นนั้น มันสามารถรองรับกำลังภายในได้ทุกรูปแบบ ทั้งยังสามารถเรียนรู้วิทยายุทธ์ใดๆ ก็ได้ และที่เลวร้ายกว่านั้น กระทั่งความทรงจำของเจ้าของก็ไม่ปล่อย
“คนที่ถูกดูดวิญญาณจะเป็นอย่างไร?” อวี๋หวั่นถาม
อาม่ากล่าว “เขาจะลืมว่าตนเองเป็นใคร ลืมเลือนวิทยายุทธ์และกำลังภายใน กลายเป็นคนเขลาไร้ความสามารถ หนักเข้าก็อาจกลายเป็นคนตายที่ยังมีชีวิต”
“เหมือนกับ…ยามนั้นที่เยี่ยนจิ่วเฉาดูดเก็บพลังและความทรงจำของอ๋องเผ่าปีศาจหรือ?” อวี๋หวั่นจำได้ว่าหลังจากพลังและความทรงจำของอ๋องเผ่าปีศาจถูกเยี่ยนจิ่วเฉาดูดซับ ก็กลายเป็นเจ้าทึ่มไป
อาม่าชะงัก คล้ายกับรู้สึกว่าเรื่องนี้ก็แปลกประหลาดอยู่เหมือนกัน แต่ไม่ช้าก็ส่ายหัว “สถานการณ์ของเยี่ยนจิ่วเฉากับอ๋องเผ่าปีศาจต่างอยู่ อ๋องเผ่าปีศาจถูกเสี่ยวเป่าโจมตี ทรมานจากพลังสะท้อนของวรยุทธ์ตน เส้นเอ็นหลอดเลือดพลิกผัน พลังทั้งหมดหลั่งไหลเข้าสู่ร่างของเยี่ยนจิ่วเฉา ส่วนความทรงจำของอ๋องเผ่าปีศาจ… แม้ข้าจะอธิบายไม่ได้ แต่ก็น่าจะเป็นเพียงเรื่องบังเอิญ”
“เช่นนี้เอง…” อวี๋หวั่นพึมพำ
อาม่ากล่าวต่อ “ปีศาจตนนี้แข็งแกร่งนัก ดูดกลืนราชาพ่อมดไปแล้วถึงสามองค์ เช่นนี้แม้แต่บิดาของโจวจิ่นก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ยามนั้นหากไม่มีราชาศักดิ์สิทธิ์อยู่ในเผ่าช่วยบิดาของโจวจิ่นอีกแรงพอดี เกรงว่าปีศาจตนนี้ก็คงกวาดล้างเผ่าพ่อมดไปแล้ว”
“ช่างน่ากลัวปานนี้…” โจวอวี่เยี่ยนบีบนิ้ว เอนตัวพิงข้างกายอิ่งลิ่วโดยไม่รู้ตัว
อิ่งลิ่วรู้สึกว่าโจวอวี่เยี่ยนเขยิบมาทางตนก้าวหนึ่ง เขาไม่ได้คิดว่าหญิงสาวจะจงใจเข้าใกล้ ทว่าบุรุษสตรีรับของไม่สัมผัสมือ เขาไม่ควรถูกเนื้อต้องตัวนาง
เขาเขยิบไปด้านข้างอิ่งสือซัน
เมื่อโจวอวี่เยี่ยนเห็นเขาเดินไปไกล ก็เข้าไปใกล้อีกก้าวด้วยสีหน้าเรียบเฉย
อิ่งลิ่วก็เขยิบไกลออกไปอีกก้าว
โจวอวี่เยี่ยนเขยิบตาม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]