ฝีมือการทำอาหารของพ่อครัวเทพเป้าจับใจไข่น้อยทั้งสามได้อย่างลึกซึ้ง หลังมื้อเย็น อวี๋หวั่นกับเยี่ยนจิ่วเฉาค่อยๆ สูญเสียความโปรดปราน ไข่ดำน้อยทั้งสามกลายเป็นหางที่คอยติดหลังพ่อครัวเทพเป้า สองมือถือขวดนม เดินเตาะแตะตามพ่อครัวเทพเป้า เขาไปที่ใด พวกเขาก็ไปที่นั่น
พ่อครัวเทพเป้าติดพันจนหัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก เขาลงมือทำซาลาเปาหมูให้ทั้งสาม
ซาลาเปาหมูของลุงใหญ่อวี๋ถือว่าสุดยอดแล้ว แต่ของพ่อครัวเทพเป้านั้นยอดเยี่ยมที่สุด หลังจากกินซาลาเปาหมูของเขาเข้าไป ก็สามารถหัวเราะออกมาเป็นเสียงหมูได้จริงๆ
“ปู่ทวดเป้าดีที่สุดเลย”
“ชอบปู่ทวดเป้าที่สุดเลย!”
“เสี่ยวเป่าก็ชอบ!”
“ต้าเป่าบอกว่าเขาก็ชอบเหมือนกัน!”
“เช่นนั้นข้าเป็นปู่ทวดที่พวกเจ้าโปรดปรานที่สุดใช่หรือไม่?”
“ใช่!!!” เอ้อร์เป่าเสี่ยวเป่าตอบพร้อมกัน ส่วนต้าเป่าก็พยักหน้าอย่างจริงจัง
เสี่ยวเป่ากล่าว “ดีกว่าปรมาจารย์ด้วย!!!”
ไข่น้อยทั้งสามขายปรมาจารย์ซือคงทิ้งอย่างไม่ลังเล!
ห่างออกไปในดินแดนหนานจ้าว ซือคงเย่ที่ทรมานองค์ประมุขจนพึงพอใจ รู้สึกจั๊กจี้ฟันอย่างอธิบายไม่ถูก เขาก็ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น…
องค์ประมุขที่ร่าย ‘วิชานินจา’ สิบแปดกระบวนท่าอย่างยากลำบาก ฝ่าห้าด่านสังหารหกขุนพล[1] สยบความโกรธของท่านพ่อตา ถูกอัดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เขาก็อยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น…
พ่อครัวเทพเป้าพัวพันกับไข่น้อยทั้งสาม เบิกบานกับช่วงเวลาครอบครัวพร้อมหน้าที่หาได้ยากนัก ราชาพ่อมดอดอิจฉาไม่ได้ จึงเข้าไปพัวพันกับโจวจิ่นน้อย
คนอื่นๆ ไปที่ห้องของอาม่า หารือกันเรื่องแผนการถัดไป
อวี๋หวั่นเท้าคางถอนหายใจ “ต่างพูดกันว่ารับของคนมือไม้อ่อน กินของคนปากอ่อน[2] แต่ราชาพ่อมดกินอาหารท่านปู่เป้าแล้ว ก็ยังไม่ยอมถอยแม้สักครึ่งก้าว ต้องการให้ขโมยกระดูกของราชาศักดิ์สิทธิ์ ทั้งยังต้องกำจัดหลัวช่าวิญญาณ เราจะทำเช่นไรดี? ท่านพ่อกับท่านแม่ก็ยังไม่รู้ว่าอยู่ที่ใด”
เธอทอดถอนใจ โจวอวี่เยี่ยนก็ทอดถอนใจ
เยี่ยนจิ่วเฉาเล่นกับข่งหมิงสั่วในมือราวกับว่าเขาอยู่ในโลกของตัวเอง ฟังเข้าหูซ้ายทะลุหูขวาไม่รับรู้การสนทนาของพวกเขา
อิ่งสือซันถามว่า “อาม่า หลัวช่าวิญญาณขาดร่างแยกไปร่างหนึ่ง จะส่งผลต่อความแข็งแกร่งของร่างแท้หรือไม่?”
อาม่ากล่าวว่า “อาจมีผลกระทบ บัดนี้มันยังคงถูกปิดผนึกอยู่ในโลง สามารถทำเรื่องชั่วร้ายผ่านร่างแยกได้เท่านั้น แต่มันไม่มีร่างแยกแล้ว นั่นก็หมายความว่ามันจะไม่สามารถลงมือกับพวกเราได้ง่ายๆ”
ดังนั้น อวี๋เซ่าชิงฉุดร่างแยกของหลัวช่าวิญญาณลงไปในหลุมลึกก็ถูกต้องแล้ว อย่างน้อยก็เกือบจะช่วยพลิกสถานการณ์ตรงหน้าได้
แต่ไม่รู้ว่ายามนี้พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง
เรื่องหลุมลึกไร้ก้นบึ้ง ทุกคนไม่รู้จะทำเช่นไร ทำได้เพียงดูแลสถานการณ์ปัจจุบันให้ดีเสียก่อน
อิ่งลิ่วกะพริบตา “มันลงมือกับเราไม่ได้ เช่นนั้นมิใช่ว่าเราจะฆ่ามันง่ายดายราวพลิกฝ่ามือหรอกหรือ?”
อาม่าส่งสายตาพ่อเฒ่าแก่เขา “เจ้าอยู่ห่างจากเขตเมืองเผ่าพ่อมด มันย่อมไม่สามารถโจมตีเจ้าได้ง่ายๆ แต่หากเจ้าเข้าไปใกล้ มันก็ยังฆ่าเจ้าได้”
หลัวช่าวิญญาณเก่งในการโจมตีจิตวิญญาณ ขอเพียงเข้าใกล้มากพอก็สังหารยอดฝีมือได้อย่างง่ายดาย
ความฮึกเหิมที่ลุกโชนของทุกคนถูกอาม่าราดน้ำเย็นใส่จนมอดดับ
ทันใดนั้นก็เกิดเสียงดังปัง เยี่ยนจิ่วเฉาวางข่งหมิงสั่วในมือลงกับโต๊ะ “พรุ่งนี้ ข้าจะไปฆ่ามัน”
“คุณชาย!” อิ่งสือซันสีหน้าเปลี่ยน
อวี๋หวั่นกล่าวว่า “พรุ่งนี้ คืนพระจันทร์เต็มดวงเพิ่งผ่านพ้นไป พลังของท่านจะฟื้นตัวได้เพียงห้าหรือหกส่วน วิ่งไปฆ่ามันเช่นนี้ จะไม่มีโอกาสชนะเพียงน้อยนิดหรอกหรือ?”
เยี่ยนจิ่วเฉาใช้ปลายนิ้วเรียวเคาะข่งหมิงสั่วเบาๆ สองสามครั้ง “ก็แค่หลัวช่าวิญญาณ”
ซึ่งก็หมายความว่า เขาไม่ได้เห็นปีศาจตนนั้นอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย
ทุกคนเผชิญกับสายลมหวีดหวิวที่พัดผ่าน!
คุณชายอะไรนี่ น่าจะรู้จักประเมินตนเองเสียบ้าง!
ทว่าทุกคนก็เข้าใจ ว่าเหตุใดเยี่ยนจิ่วเฉาถึงร้อนใจอยากสังหารหลัวช่าวิญญาณนัก สำหรับหลัวช่าวิญญาณ รออีกหนึ่งวันก็เท่ากับฟื้นตัวมากขึ้นอีกหนึ่งวัน การฟื้นคืนพลังของมันไม่ได้คำนวณเพียงหนึ่งหรือสองส่วน วันพรุ่งนี้เยี่ยนจิ่วเฉาที่มีพลังห้าส่วนอาจเผชิญกับหลัวช่าวิญญาณที่มีพลังห้าส่วน วันมะรืน เยี่ยนจิ่วเฉาที่มีพลังเจ็ดส่วนอาจต้องเผชิญกับหลัวช่าวิญญาณที่มีพลังถึงสิบส่วนหรือมากกว่านั้น
พลังของหลัวช่าวิญญาณมีไม่จำกัด ไม่มีผู้ใดรู้ว่าแท้จริงแล้วมันแข็งแกร่งเพียงใด
อิ่งสือซันพูดด้วยสีหน้าจริงจัง “เช่นนั้นข้าจะเข้าวังไปกับคุณชาย”
อิ่งลิ่วนั่งยืดตัวตรง “ยังมีข้า! ข้าไปด้วย!”
เยี่ยนจิ่วเฉาชะงัก และพยักหน้าอย่างจริงจัง “ก็ดี พวกเจ้าไปขโมยกระดูก”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]