หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 54

ทุกวันนี้เผ่าศักดิ์สิทธิ์มีราชาศักดิ์สิทธิ์อยู่สี่คน ก่อนหน้านี้มีห้าคน ทว่าหนึ่งในนั้นทรยศต่อเผ่า ไปตกหลุมรักราชาพ่อมดเข้า หลังจากนั้นก็ไม่เคยกลับไปยังเผ่าอีก ได้ยินว่าถูกสังหารที่เผ่าพ่อมด พวกเขาไม่ได้ไปเก็บศพนาง และไม่ได้ตามล้างแค้นให้นาง ก็แค่คนทรยศคนหนึ่ง ไม่มีค่าพอให้พวกเขาต้องแก้แค้นแทน

บัดนี้ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาทิศเดินทางมายังเมืองหลวง เขามาถึงเมืองหลวงเมื่อคืน เดิมทีคิดว่าทุกอย่างจะราบรื่น ไม่คาดคิดเลยว่าจะพบกับยอดฝีมือแห่งเผ่าศักดิ์สิทธิ์จะถูกครึ่งหน่วยกล้าตายของต้าโจวคนหนึ่งตามล่า คนของเขาก็คล้ายกับถูกจัดการไปแล้ว

หากไม่ได้เห็นกับตาตนเอง เขาคงไม่เชื่อว่านี่เป็นเรื่องจริง ยอดฝีมือของเผ่าศักดิ์สิทธิ์ปราชัยแก่คนต้าโจว? หากเรื่องนี้แพร่งพรายไปถึงเผ่า คนในเผ่าคงหัวเราะจนฟันร่วง

แน่นอนว่าเขาไม่อาจกล่าวโทษผู้พิทักษ์คนนี้ทั้งหมด

แม้ว่าครึ่งหน่วยกล้าตายคนนั้นจะเก่งกาจ แต่หากจะบอกว่าเขาทำให้ผู้พิทักษ์ของเผ่าศักดิ์สิทธิ์บาดเจ็บก็คงเป็นไปไม่ได้ สิ่งที่ทำให้เขาบาดเจ็บได้มีเพียงสัตว์พิษตัวน้อยตัวนั้น

ถ้าเขามองไม่ผิด เจ้าเปี๊ยกนั่นคล้ายกับว่าจะมีร่างของจักรพรรดิสัตว์พิษ น่าสนใจจริงๆ

แต่ไหนแต่ไรมา ราชันสัตว์พิษนับเป็นยาบำรุงของยอดฝีมือเผ่าศักดิ์สิทธิ์ ราชันสัตว์พิษที่ระดับพลังสูงเช่นนี้ ก็จะยิ่งเพิ่มพลังให้กับคนเผ่าศักดิ์สิทธิ์

ดูแล้ว เขามาต้าโจวในครั้งนี้เห็นจะมีแต่ได้กับได้ ไม่เพียงนำไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์กลับไป แต่ยังได้หนอนพิษระดับพลังสูงตัวหนึ่งอีกด้วย

ไข่มุกวิญญาณศักดิ์สิทธิ์เป็นสมบัติล้ำค่าของเผ่า ไม่มีผู้ใดครอบครองเป็นของตน แต่เขาสามารถครอบครองหนอนพิษตัวนั้นไว้แต่เพียงผู้เดียว

เมื่อราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาตัดสินใจได้แล้ว ก็ตรงไปยังจวนผู้สำเร็จราชการในคืนนั้น

ในเมื่อตัวตนของพวกเขาถูกเปิดเผยแล้ว แทนที่จะนั่งรอความตาย ทำตัวหลบๆ ซ่อนๆ มิสู้ออกมาเผชิญหน้าดีกว่าหรือ ไม่ได้บอกหรอกหรือว่าในจวนคุณชายมีทั้งเยี่ยนอ๋องและผู้สำเร็จราชการ? ขอเพียงควบคุมจวนคุณชายได้ ก็ไม่ต้องกลัวว่าจะรับมือกับการถูกตรวจค้นไม่ไหว

และเมื่อถึงตอนนั้น อย่าว่าแต่จวนรัชทายาทเลย จะให้คุมอำนาจทั้งเมืองหลวงก็ยังได้!

ชายสวมผ้าคลุมยังคงไม่วางใจ “จวนคุณชายมีแต่เรื่องประหลาดขอรับ คนหนึ่งเป็นครึ่งหน่วยกล้าตายที่ฝีมือร้ายกาจ มีหนอนพิษซึ่งไร้ที่มาที่ไปแน่ชัดอีกตัวหนึ่ง แล้วก็ยังมีราชาศักดิ์สิทธิ์ซึ่งอายุเพียงสามขวบ ข้ากังวลว่าพวกเขาไม่อาจต่อกรได้โดยง่าย ไม่แน่ว่าอาจมีผู้บงการอยู่เบื้องหลัง ราชาศักดิ์สิทธิ์ ท่านจะรอให้กำลังเสริมของเผ่าศักดิ์สิทธิ์เดินทางมาสมทบหรือไม่ขอรับ? เรือนแห่งนี้ลึกลับ ทหารต้าโจวไม่มีทางหาพบในระยะเวลาอันสั้น…”

ทันทีที่เขาพูดจบ ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาก็มองเขาอย่างดูแคลน “เจ้าคิดว่าข้าเหมือนกับเจ้าอย่างนั้นรึ? แค่จักรพรรดิสัตว์พิษตัวเดียว ทำให้เจ้าบาดเจ็บได้ขนาดนี้เชียวหรือ? ผู้พิทักษ์สมัยนี้ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ!”

ชายสวมผ้าคลุมคิดในใจว่า โทษข้าได้หรือ? ผู้พิทักษ์สมัยก่อนใช้ไข่มุกวิญญาณเพิ่มพลัง แต่พวกข้ามีแต่ต้องกระเสือกกระสนด้วยตนเอง พลังย่อมเทียบรุ่นก่อนๆ ไม่ได้อยู่แล้ว

แต่หากบอกว่าพลังของเขาด้อยกว่าเจ้าหนอนพิษนั่น เขาไม่ยอมเด็ดขาด

จักรพรรดิสัตว์พิษร้ายกาจก็จริง แต่หนอนพิษวัยเยาว์มีสิ่งใดน่ากลัวกัน? หากสู้กันตัวต่อตัว สัตว์พิษตัวน้อยย่อมไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา อีกฝ่ายก็เข้าใจจุดนี้ดี จึงซ่อนหนอนพิษตัวนั้นไว้ เพื่อให้ลอบโจมตีเขาแทน

ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาเหลือบมองเขา แล้วพูดว่า “เอาละ เจ้าอย่าได้หดหู่ใจไป รอให้ข้าได้ไข่มุกวิญญาณมาก่อน ก็จะช่วยฟื้นฟูพลังให้เจ้าอย่างเต็มที่ เจ้ายังมีโอกาสได้เพิ่มระดับพลัง”

พลังของไข่มุกวิญญาณนั้นแข็งแกร่งกว่าที่คนในเผ่าจะจินตนาการได้ ไม่เช่นนั้นแล้ว ไข่มุกเพียงลูกเดียวจะปกปักรักษาคนทั้งเผ่าได้อย่างไร?

ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาสำแดงวิชาตัวเบาและจากไป

เขาไม่ได้พาใครไปด้วย เพราะไม่มีความจำเป็น

เขามิได้ลอบเข้าไป หากแต่เหาะลงไปยังจวนคุณชายอย่างหยิ่งทระนง

ตอนนี้ต้าเป่ายังไม่รู้ว่าตนเองถูกคนปองร้าย ท่านแม่หลับไปแล้ว เขาจึงป้อนนมให้น้อง เขา…เขาถูกบังคับ!

เขาไม่อยากปลุกให้ท่านแม่ตื่น เขาเป็นเด็กดี เอาใจใส่ผู้อื่น!

น้องเล็กต่างหากที่ดื้อ!

เยี่ยนเสี่ยวซื่อดื่มนมอย่างรวดเร็ว สายตาเหลือบมองพี่ชายเป็นระยะ ราวกับพยายามจดจำใบหน้าของพี่ชาย

ต้าเป่ายกมือขึ้นมาด้วยความปวดร้าว แล้วปิดตาน้องสาว

อย่ามองนะ

เจ้าต้องมองตอนที่พี่ต้าเป่าแข็งแกร่งเกรียงไกรเท่านั้น!

เยี่ยนเสี่ยวซื่อดื่มนมจนอิ่ม แล้วหลับสบายในอ้อมกอดของพี่ชาย

ด้านนอก เสี่ยวเป่าซึ่งแอบมองภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็โมโหจนยกมือเท้าเอวกระทืบเท้า

น่าโมโหจริงๆ!

ทำไมน้องเล็กกินแต่นมที่ต้าเป่าป้อนละ เขาป้อนก็ไม่ได้? นมที่เขาป้อนไม่อร่อยหรืออย่างไร?

เสี่ยวเป่าจับขวดนมด้วยสองมือ แล้วดื่มเข้าไปเต็มปากเต็มคำ!

เสี่ยวเป่าไม่ได้บอกความลับนี้กับเอ้อร์เป่า เพราะเขากังวลว่าหากเอ้อร์เป่ารู้เข้า ก็จะมีคนที่มาแย่งน้องไปจากเขาเพิ่มมาอีกหนึ่งคน แต่สิ่งที่เสี่ยวเป่าไม่รู้ก็คือ ตัวเขาไม่อาย แต่เอ้อร์เป่าอาย เอ้อร์เป่าไม่ได้อยากไปเป็นแม่นมให้น้องเล็กสักหน่อย!

อย่างไรก็ตาม ด้วยเหตุนี้ ความลับของต้าเป่าจึงถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี

บางครั้งต้าเป่าก็ปลอบตนเองว่า น้องสาวยังตัวเล็กแค่นี้ เมื่อโตขึ้นคงจำเรื่องที่ตนป้อนนมให้ไม่ได้กระมัง?

และเพื่อที่จะยืนยันในสมมติฐานของตน ต้าเป่ายังเขียนถามท่านแม่ว่า ‘ท่านแม่ ท่านจำได้ไหมว่าตอนที่ท่านเพิ่ง

เกิด ท่านชอบกินนมของใครมากที่สุด’

ในตอนนั้นท่านแม่ตอบ “ใครจะจำเรื่องตอนที่เพิ่งเกิดได้เล่า แม่ยังจำเรื่องตอนอายุเจ็ดขวบไม่ได้เลย!”

เช่นนั้นก็หมายความว่าไม่เพียงน้องเล็กจะจำไม่ได้แล้ว ตนเองก็จะจำประสบการณ์ที่น่าอับอายช่วงนี้ไม่ได้ด้วย

เรื่องนี้ทำให้ต้าเป่ารู้สึกสบายใจขึ้นมา และทำให้เขาไม่รู้สึกอิดออดที่จะป้อนนมน้องเล็กแล้ว อย่างไรเสียทุกครั้งที่เห็นน้องหิว เขาก็จะรู้สึกปวดใจ

เยี่ยนเสี่ยวซื่อยังคงดื่มนมต่อไป สายตาเป็นประกายจ้องมองไปยังต้าเป่า

ใต้หล้ามีพี่ชายตั้งมากมาย แต่พี่ชายคนเดียวที่ป้อนนมให้นางก็คือคนนี้ นางจะจดจำพี่ชายไปตลอดชีวิต!

“ฮัดชิ่ว!”

ทันใดนั้นต้าเป่าก็จามออกมาเสียงดัง…

ตกดึก ทุกคนล้วนเข้าสู่ห้วงนิทรา

อยู่ๆ อิ่งสือซันก็สัมผัสได้ถึงกลิ่นอายซึ่งทั้งแปลกประหลาดและคุ้นเคย คุ้นเคยก็เพราะกลิ่นอายนี้เหมือนกับคุณ

หนูเล็กมาก ส่วนที่บอกว่าแปลกประหลาดก็เพราะในกลิ่นอายนี้มีจิตสังหารเจือปนอยู่ด้วย

ยามที่คุณหนูเบื่อๆ ก็จะขึ้นไปรื้อนั่นทำลายนี่ แต่พลังของนางก็มิได้ระคนจิตสังหาร นางเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง ยังควบคุมพลังและร่างกายของตนไม่ได้ด้วยซ้ำไป

จิตสังหารนี้ เห็นได้ชัดว่าจะมาฆ่าคน!

“อิ่งลิ่ว!” อิ่งสือซันเรียกอิ่งลิ่วซึ่งหลับไปทั้งที่กำลังสวมเสื้อผ้าอยู่ จากนั้นก็หยิบกระบี่ขึ้นมาแล้วรุดออกไป

อิ่งลิ่วลืมตาตื่นขึ้น ทันใดนั้นก็สัมผัสได้ถึงพลังซึ่งพุ่งมาจากเส้นขอบฟ้า เขาสัมผัสได้ว่าจิตวิญญาณของตนกำลังสั่นระรัว

น่ากลัวเหลือเกิน!

เขารีบออกไป และพบว่าหน่วยกล้าตายและองครักษ์ทั้งหมดของจวนคุณชาย กำลังล้อมเรือนของเยี่ยนอ๋อง และเรือนของอวี๋หวั่นกับเยี่ยนจิ่วเฉาไว้

ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาเข้ามาในจวนคุณชายแล้ว

เขามิได้ตามหาเรือนของอวี๋หวั่นโดยตรง ขอเพียงสัมผัสได้ถึงราชาศักดิ์สิทธิ์ตัวน้อย เขาก็รู้แล้วว่าอีกฝ่ายอยู่ที่ใด

เขาตรงเข้าไปยังเรือนหลัก

เมื่ออิ่งสือซันเห็นเงาของเขา ก็เข้ามายืนขวางอย่างไม่ขลาดกลัว

ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาจำอิ่งสือซันได้ทันที ไม่ใช่เพียงเพราะอิ่งสือซันเป็นครึ่งหน่วยกล้าตายที่แข็งแกร่ง แต่ยังเป็น

เพราะอิ่งสือซันยังหนุ่มแน่น เป็นเพียงครึ่งหน่วยกล้าตายแต่มีพลังถึงระดับนี้ ทำให้อดรู้สึกทึ่งไม่ได้ ยิ่งไปกว่านั้นยังอายุน้อยต่อให้ถูกส่งไปฝึกในค่ายหน่วยกล้าตายตั้งแต่เกิด ก็คงอายุประมาณยี่สิบปี หลายปีมานี้สามารถเพิ่มระดับพลังจากครึ่งหน่วยกล้าตาย…ไปถึงซิวหลัวระดับสูงสุดเชียวหรือ?

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]