ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาโทสะพลุ่งพล่านในทันใด!
ในฐานะหนึ่งในสี่ราชาศักดิ์สิทธิ์ผู้ยิ่งใหญ่ ฐานะของเขานับว่าสูงส่ง แต่ไหนแต่ไรไม่เคยต้องเผชิญกับความอัปยศอดสู โดยเฉพาะความอัปยศอดสูที่เกิดจากเด็กสามขวบคนหนึ่ง!
อันที่จริงราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาเข้าใจผิดไปเรื่องหนึ่ง เด็กสามขวบไม่ได้ทำให้เขาขายหน้า คนที่ทำให้เขาขายหน้าตัวจริงคือทารกอายุสามวันต่างหาก
ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาเดือดดาลจนเจ็บหน้าอก กระนั้นเขาก็เข้าใจว่าตนเองไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเด็กคนนั้น แน่นอนว่าถ้าหากเขารู้ว่าราชาศักดิ์สิทธิ์ตัวน้อยไม่ใช่เด็กสามขวบ หากแต่เป็นทารกแรกเกิด เขาย่อมไม่มีทางคิดเช่นนี้
เด็กทารกมักจะชอบนอนไม่ใช่รึ!
รอให้นางหลับ แล้วค่อยลงมือก็ได้นี่?
น่าเสียดายที่ข้อมูลและเหตุผลที่ผิดพลาดทำให้ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาพลาดโอกาสในการถล่มจวนคุณชาย เขาอาศัยจังหวะที่ทุกคนไม่ทันตั้งตัวหนีไป…
ทุกคนล้วนแต่ตื่นตะลึง
เจ้าไม่ใช่ราชาศักดิ์สิทธิ์ที่แข็งแกร่งที่สุดหรอกหรือ? เป็นอะไรไป สู้ไม่ได้แล้วจึงหนี? ศักดิ์ศรีของยอดฝีมือไปไหนแล้วเล่า
หดหัวเป็นเต่าในกระดองเช่นนี้ก็ได้หรือ? คนเผ่าศักดิ์สิทธิ์ทำงานตามใจตนเองเช่นนี้หรือ?
หน่วยกล้าตายและองครักษ์ของจวนคุณชายต่างอ้าปากค้างด้วยความตกใจ เดิมทีคิดว่าจะเกิดสงครามนองเลือด พวกเขาจึงเตรียมตัวเตรียมใจไว้แล้ว กลับกลายเป็นว่าอยู่รอดปลอดภัย เป็นไปได้อย่างไรกัน!
อิ่งลิ่วมุมปากกระตุก “ราชาศักดิ์สิทธิ์คนนี้ออกจะ…ไร้เดียงสาไปสักหน่อยไหม…”
ความจริงที่เกิดขึ้นก็คือ ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาสู้ราชาศักดิ์สิทธิ์ตัวน้อยไม่ได้ จึงเผ่นหนีไป อย่างไรเสีย ทันทีที่เขาออกไป ราชาศักดิ์สิทธิ์น้อยก็ผล็อยหลับไป
ถ้าหากราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพากลับมามองในตอนนี้ ก็จะพบว่าตนเองสามารถเหยียบจวนคุณชายจนแบนราบเป็นหน้ากลองได้
แต่เขากลับหนีเตลิดไปจนไม่เห็นเงาแล้ว!
อันที่จริง นี่ไม่ใช่เพราะราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาไม่แข็งแกร่งพอ ในตอนนั้นมารดาของโจวจิ่นใช้พลังของตนผนึกพลังของหลัวช่าวิญญาณได้ ก็ย่อมเป็นที่ประจักษ์แล้วว่าเผ่าศักดิ์สิทธิ์แข็งแกร่งเพียงใด อีกทั้งราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาอาวุโสกว่ามารดาของโจวจิ่นหลายปี ฝึกฝนมากว่ายี่สิบปี พลังย่อมเหนือชั้นกว่ามาก
ราชาศักดิ์สิทธิ์ตัวน้อยนั่นต่างหากที่ประหลาด
ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาไม่เคยพบเด็กที่…น่ากลัวเช่นนี้มาก่อน
สิ่งที่น่ากลัวมิได้อยู่ที่ความแข็งแกร่งเพียงอย่างเดียว แต่เพราะ…เขาเพียงคิดว่าเจ้าเด็กนั่นจงใจให้เขาสำแดงพลัง
จนถึงขีดสุด ก็รู้สึกหนาวเหน็บขึ้นมาจับใจ
ราวกับว่าทั้งระดับสี่ห้าหกเจ็ดแปดที่เพิ่มขึ้นมายังไม่หนำใจ เป็นเด็กที่โหดเหี้ยมกระไรเช่นนี้
นั่นนับเป็นการดูหมิ่นราชาศักดิ์สิทธิ์!
แน่นอนว่า ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาก็มิได้รู้สึกครั่นคร้ามเท่าไรนัก เขาคิดว่าทั้งหมดล้วนมาจากพลังของไข่มุกวิญญาณ ไข่มุกวิญญาณหล่อเลี้ยงเด็กคนนี้ ทำให้พลังเหลือล้นผิดธรรมชาติทั้งที่อายุเพียงสามขวบ
เมื่อมองจากมุมนี้ ทำให้เข้าใจได้ว่าไข่มุกวิญญาณมีพลังมากกว่าครั้นอยู่ในเผ่าศักดิ์สิทธิ์
“เหตุใดแต่ไหนแต่ไรมาไม่เคยมีคนเผ่าศักดิ์สิทธิ์ที่แปลกประหลาดถึงเพียงนี้มาก่อน”
ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาไม่ยอมรับเด็ดขาดว่ามีคนนอกเผ่าซึ่งเกิดจากลูกหลานของคนเผ่าศักดิ์สิทธิ์ แต่มีพรสวรรค์
มากกว่าคนเผ่าศักดิ์สิทธิ์โดยกำเนิด เป็นไปได้มากว่าคนเผ่าศักดิ์สิทธิ์รับพลังจากไข่มุกวิญญาณร่วมกัน ทำให้พลังของไข่มุกวิญญาณถูกแบ่ง แต่เจ้าเด็กนั้นได้รับพลังจากไข่มุกวิญญาณแต่เพียงผู้เดียว จึงทำให้แข็งแกร่งเช่นนี้
ชายสวมผ้าคลุมกำลังพักฟื้นอยู่ในห้อง เมื่อเห็นว่าราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพากลับมามือเปล่า ในใจของเขาก็มิได้รู้สึกตกใจสักเท่าไร เขาเชื่อมั่นในพลังของราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพา แต่ลึกๆ ในใจก็รู้ว่าราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาอาจมิได้ช่วงชิงของจากอีกฝ่ายมาง่ายๆ
ชายสวมผ้าคลุมตั้งสติ แล้วออกไปต้อนรับเขา มือขวาประคองหัวไหล่ซ้าย “ราชาศักดิ์สิทธิ์ ท่านกลับมาแล้ว จวนคุณชายมิได้ต่อกรด้วยง่ายๆ ใช่ไหมขอรับ? อันที่จริงท่านอย่าได้โมโหไป ข้าเคยบอกไปแล้ว ว่าเจ้านั่นแปลกประหลาด ไม่อาจเอาชนะได้ง่ายๆ”
ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาเหลือบมองชายสวมผ้าคลุม แล้วพูดด้วยโทสะว่า “หากเจ้าทำได้อย่างที่พูด ป่านนี้จบเรื่องไปตั้งนานแล้ว!”
ชายสวมผ้าคลุมตระหนักดีว่าตนเองนำพาหายนะ ทำให้ราชาศักดิ์สิทธิ์บูรพาต้องปราชัย อับอายขายหน้า เขาทำได้เพียงกล่าวโทษตนเอง
ราชาศักดิ์สิทธิ์แค่นเสียงขึ้นจมูก “หึ! ไม่ใช่เพราะเจ้านั่นแปลกประหลาดหรอก หากแต่เป็นเพราะพวกเขามีไข่มุกวิญญาณในครอบครอง ข้าประมาทพลังของไข่มุกวิญญาณไป!” เขาคิดว่าที่เจ้าเด็กนั่นสามารถจัดการเขาได้ ต้องเป็นเพราะเซ่นไหว้ไข่มุกวิญญาณ ถึงใช้พลังของไข่มุกวิญญาณได้มากเช่นนั้น
ในวันที่เขาได้ไข่มุกวิญญาณกลับมา เจ้านั่นก็จะเป็นเพียงเด็กที่ถูกเขากระทืบคาเท้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]