หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 56

ส่วนใหญ่ในหมู่คนเหล่านี้ไม่ได้ปฏิบัติปี้กู่ ทว่าไม่กินสิ่งใดสิบวันครึ่งเดือนก็ยังไม่มีปัญหา แต่ไม่มีปัญหาเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ถูกคนยั่วให้น้ำลายไหลก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ไม่นานโจวจิ่นก็ได้ยินเสียงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ดังขึ้นรอบตัว

เยี่ยนเสี่ยวซื่อโผล่หัวเล็กออกมาจากกระโจม เมื่อเห็นของกิน ดวงตาก็เป็นสีเขียว

นางเดินเข้ามา

ประมุขมารเขย่าม้านั่งเล็กออกมาจากแหวนเฉียนคุนให้นางนั่ง และถือร่มกันแดดขนาดใหญ่ไว้ข้างหลังนางไม่ให้ถูกแสงอาทิตย์

ทุกคนต่างไม่มีคำพูด

สหาย เจ้าคงย้ายบ้านทั้งหลังมาเลยกระมัง

ในสายตาประมุขมาร อุปกรณ์เช่นนี้ก็มีไว้ให้เยี่ยนเสี่ยวซื่อได้พักผ่อนตอนกลางวัน หากใช้นอนตอนกลางคืนจริงๆ ก็ลำบากเยี่ยนเสี่ยวซื่อเกินไป

เยี่ยนเสี่ยวซื่อนั่งลงข้างประมุขมาร

ประมุขมารยื่นขาแพะย่างให้นาง

นางกัดกินอย่างดื่มด่ำ

ริมฝีปากแดงฟันขาวของนางกัดลงคำหนึ่ง แก้มเล็กเคี้ยวตุ่ย ไขมันเอ่อล้นออกจากมุมปาก ชวนให้ทุกคนรู้สึกหิวขึ้นมา

ประมุขศักดิ์สิทธิ์เหลือบมองประมุขมารด้วยความสับสน

อันที่จริงเขาก็มีอุปกรณ์ที่ใช้เก็บของ ทว่าภายในบรรจุด้วยอาวุธ อาวุธศักดิ์สิทธิ์และยารักษา ไม่ได้มีของใช้ในโลกีย์มากมายเช่นนี้

ในสายตาของเขา สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผู้บำเพ็ญไม่ต้องการ แต่เยี่ยนเสี่ยวซื่อชอบมันมาก

“เจ้าก็มานั่งสิ” เยี่ยนเสี่ยวซื่อเห็นประมุขศักดิ์สิทธิ์ยืนอยู่ จึงเขยิบไปด้านข้าง แบ่งม้านั่งครึ่งหนึ่งให้เขา

ประมุขมารเขย่าเก้าอี้ตัวใหม่ออกมาในหนึ่งวินาที!

ทุกคนถูกเยี่ยนเสี่ยวซื่อกินยั่วน้ำลาย หากเป็นเพียงกลิ่นของอาหารก็ไม่ลำบากนัก แต่เยี่ยนเสี่ยวซื่อกินอย่างหอมหวนเกินไป ไม่เคยเห็นสิ่งที่กินได้เช่นนั้น แม้แต่ผู้บำเพ็ญบางคนที่เบื่ออาหารก็หายเป็นปลิดทิ้งทันที

เพียงแต่พวกเขาไม่กล้าบากหน้าไปขอกิน หากเรื่องแพร่ออกไปพวกเขาจะกลายเป็นอะไร? ขอทานหรือคนพาลละ? เป็นคนพาลไม่เป็นไร แต่พาลเพราะเนื้อหนึ่งชิ้นเหมาะสมหรือ?

ยังต้องการศักดิ์ศรีอยู่หรือไม่?

“สหายท่านนี้ ไม่เห็นหรือว่าทุกคนกำลังจดจ่อกับการล่าสมบัติ? พวกเจ้าทำเช่นนี้ไม่เหมาะสมกระมัง?” ผู้บำเพ็ญเฒ่าคนหนึ่งกล่าว

เขาถูกยั่วน้ำลายที่สุด เพราะเขานั่งอยู่ใต้ลมของเยี่ยนเสี่ยวซื่อ กลิ่นจึงไหลเข้าจมูกเขาโดยตรง!

ปากที่แทะเนื้อของเยี่ยนเสี่ยวซื่อชะงัก

“เจ้ากินเถอะ ไม่เป็นไร” ประมุขมารเอ่ยเบาๆ

“โอ้” เยี่ยนเสี่ยวซื่อก้มลงกินต่อ

ประมุขมารมองเยาะเย้ยผู้บำเพ็ญเฒ่า “เราทำสิ่งใดไม่ค่อยเหมาะสม? ไม่ให้พวกเจ้าเอาสมบัติ? หรือไปฆ่าคนวางเพลิงที่ใด? เจ้าอยากกินก็พูดตรงๆ สิ ไยต้องอ้อมค้อมเช่นนี้?”

ยามได้ยินประโยคหน้า ผู้บำเพ็ญเฒ่าโกรธอยู่บ้าง ทว่าประโยคสุดท้ายถึงกับทำให้เขาหูตั้ง “เจ้า เจ้าจะแบ่งให้ข้าหรือ?”

ประมุขมารหยิบไก่ฟ้าย่างเดินไปหาเขา ยกมุมปากเอ่ย “แน่นอน…ไม่!”

เขายั่วเย้าผู้บำเพ็ญเฒ่าอย่างไม่ปรานี และจากไปโดยไม่หันกลับมามอง

ผู้บำเพ็ญเฒ่าแทบจะอกแตก!

“เด็กปากไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม! เจ้าอยากให้ข้าขายหน้า! รังแกคนเกินไปแล้ว! ระวังเถอะ!”

ผู้บำเพ็ญเฒ่าหยิบอาวุธศักดิ์สิทธิ์กระบองลูกตุ้มออกมาโจมตีใส่ประมุขมาร

ประมุขมารไม่แม้แต่ยกเปลือกตา สะบัดแขนเสื้อส่งไอมารด้วยหลังมือตบผู้บำเพ็ญเฒ่าจนกระเด็น

ทุกคนผงะตะลึง

แม้ผู้บำเพ็ญเฒ่าจะเป็นผู้บำเพ็ญธรรมดาๆ แต่ก็บรรลุถึงระดับสูงจนน่าทึ่ง ไม่เช่นนั้นคงไม่กล้ามาเพียงลำพัง ทั้งๆ ที่ระดับของเขาอยู่เหนือบุรุษชุดดำผู้นี้ แต่กลับถูกอีกฝ่ายล้มลงอย่างง่ายดาย

นี่ นี่ก็เกินไป…

“เขาเป็นเผ่ามาร!”

มีเสียงคนตะโกนดังมาจากฝูงชน

ทุกคนเริ่มตระหนักขึ้นมาตามๆ กัน พลังเมื่อครู่นี้ดูไม่คุ้นเลยจริงๆ แต่ถ้าแยกแยะให้ดี พลังนั้นมิใช่ไอมารหรอกหรือ?

“มีคนเผ่ามารบุกเข้ามา! ทุกคนรีบฆ่ามันเร็ว!”

ฝูงชนรีบรุดไปข้างหน้าล้อมทั้งสามไว้

เยี่ยนเสี่ยวซื่อวางขาลูกแพะที่กินไปครึ่งหนึ่ง มองประมุขมารอย่างงุนงง “ท่านพี่เสี่ยวเจา เจ้าเป็นคนเผ่ามารหรือ?”

ร่างกายทรงพลังวางอำนาจของประมุขมารแข็งทื่อ

ยามที่กลุ่มคนรุมเข้าหาเขา เขาไม่หวาดกลัวแม้แต่น้อย ไม่มีสิ่งใดมากไปกว่าการฆ่าฟัน หลายปีที่ผ่านมาเขายังเผชิญการฆ่าฟันน้อยไปหรือ?

ทว่าคำพูดเดียวของเยี่ยนเสี่ยวซื่อทำให้หัวใจของเขาเต้นรุนแรง

เมื่อครู่ประมาทไปจริงๆ ทำให้คนมองเห็นตัวตนมารของเขา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]