หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 6

ต้าเป่าตื่นขึ้นจากฝันร้าย เมื่อคิดว่าความเกรียงไกรและภาพลักษณ์อันเป็นที่นับหน้าถือตาต้องถูกเด็กผู้หญิงคนหนึ่งทำลายจนป่นปี้ เขาก็แทบทนไม่ไหว

เขาหยิบขวดนมออกมา

เยี่ยนเสี่ยวซื่อกำลังเคลิ้มหลับไปพร้อมจุกนมในปาก เมื่อจุกนมถูกดึงออกไป นางก็ตื่นขึ้นมา

“อุว้า!” นางอ้าปากร้องหานม แต่ต้าเป่าไม่ยอมให้นางกิน

เยี่ยนเสี่ยวซื่อมองต้าเป่าตาละห้อย ปากเล็กเบะเล็กน้อย “อุแว้!”

ร้องไห้ซะแล้ว!

ต้าเป่ากำขวดนมแน่น ไม่ให้ไม่ให้ไม่ให้!

หนึ่ง สอง สาม!

ต้าเป่าหยิบขวดนมกลับมาป้อนใส่ปากเยี่ยนเสี่ยวซื่อ

เขาถอนหายใจออกมา

ประเสริฐนัก เขาทนได้ตั้งสามวินาที!

นับเป็นความก้าวหน้าครั้งใหญ่

หลังจากที่เยี่ยนเสี่ยวซื่อหลับไป ต้าเป่าก็ออกมาจากปีกของนกหลวนศักดิ์สิทธิ์

หลังจากนั้นต้าเป่าก็พบว่าเสี่ยวเป่าและเอ้อร์เป่าก็นั่งพิงปีกของนกหลวนศักดิ์สิทธิ์แล้วผล็อยหลับไป ที่นี่ไม่ได้มี

เพียงเขาและเยี่ยนเสี่ยวซื่อ แต่ยังมีน้องชายอีกสองคนของเขาด้วย

ต้าเป่าจับน้องสาวใส่ลงในกระเป๋า

นกหลวนศักดิ์สิทธิ์เห็นว่าเยี่ยนเสี่ยวซื่อหนักเหลือเกิน จึงกางปีกที่ไม่ถูกเสี่ยวเป่าและเอ้อร์เป่ากดไว้ออกมา แตะไหล่ของต้าเป่าเบาๆ ราวกับกำลังบอกว่าตนจะช่วยอุ้มน้องสาวให้

ปกติแล้วเด็กอายุเพียงสี่ขวบแบกเด็กอ้วนอายุแปดเดือนไม่ไหวหรอก ต้าเป่ามีพละกำลังมากกว่าเด็กปกติ ทว่าประเด็นคือเยี่ยนเสี่ยวซื่อก็ไม่ใช่เด็กทั่วไป จะแบกนางก็ต้องใช้พละกำลังมากกว่าปกติเช่นกัน

ต้าเป่ารู้ดีว่านกหลวนศักดิ์สิทธิ์มีเจตนาดี

เขาคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเดินไป ส่งน้องชายทั้งสองให้นกหลวน

น้องสาวเป็นของเขา ส่วนน้องชายจะทำอะไรก็แล้วแต่เจ้า

นกหลวนศักดิ์สิทธิ์ “…”

ชายชรา “…”

ลำเอียงขนาดนี้เชียวรึ!

น้องชายและน้องสาวหลับไปแล้ว ต้าเป่าก็เริ่มนึกถึงแผนการหลบหนีออกจากที่นี่ ตามหลักแล้วพวกเขาจะกลับ

ไปทางเดิมก็ดี แต่เมื่อมีนกยักษ์เพิ่มขึ้นมาอีกตัวหนึ่ง เขาจะทำอย่างไรจึงจะไม่ถูกคนเห็นได้นะ

สำนักบัณฑิตมีผู้คนตั้งมากมาย ไม่มีที่ให้พวกเขาหลบซ่อนกระมัง?

โอ้ จะว่าไปซ่อนตัวก็ไม่เลวเหมือนกัน

ขณะที่ต้าเป่าคิดว่าจะจัดการกับนกหลวนอย่างไรดี ชายชราผมขาวก็ยิ้มเย็นเยียบพร้อมกล่าวว่า “เจ้าคงไม่ได้คิดว่าจะหนีอย่างไรหรอกใช่ไหม? อย่าเปลืองแรงเปล่าเลย นกหลวนศักดิ์สิทธิ์บินออกมาแล้ว หมายความว่าดินแดนศักดิ์สิทธิ์ถูกเปิดออกแล้ว เส้นทางที่พวกเจ้าเข้ามานั้นไม่เหลืออยู่แล้ว จะพูดอย่างโหดร้ายกว่านั้นก็คือพวกเจ้ากลับไปไม่ได้แล้ว หากพวกเจ้าฉลาดละก็ ควรจะรีบเข้าไปในดินแดนศักดิ์สิทธิ์ตั้งแต่ก่อนที่ประตูยังไม่ปิด ไม่เช่นนั้น ประเดี๋ยวประตูปิดแล้ว พวกเจ้าก็จะตายอยู่ในห้องลับแห่งนี้”

ต้าเป่าเหลือบมองเขา หยิบปากกาขึ้นมา แล้วเขียนว่า ‘เหตุใดอยู่ๆ ท่านก็หวังดีขึ้นมา ท่านจะหลอกให้พวกข้าแกะโซ่ให้ท่าน แล้วพาท่านออกไปด้วยใช่ไหมเล่า?’

ชายชราแทบสำลัก เจ้าเป็นเด็กอายุสี่ขวบจริงๆ หรือ? ฉลาดเฉลียวเช่นนี้ไม่เหนื่อยบ้างหรืออย่างไร?

แต่จะว่าไป นั่นไม่ได้เรียกหลอกลวงนะ เรียกว่ารับมืออย่างชาญฉลาดต่างหากเล่า!

“แค่กๆๆ!” ชายชราผมขาวกระแอม แล้วพูดด้วยสีหน้าเป็นมิตรว่า “เหตุใดพวกเจ้าพูดกับข้าเช่นนี้เล่า ทำอย่างกับข้าเป็นคนเลวร้ายอย่างไรอย่างนั้น เจ้าลืมแล้วหรือ เมื่อครู่ตอนที่นกหลวนศักดิ์สิทธิ์บินออกมา ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดภาษาเฟิ่งได้ คิดว่ามันจะทำร้ายพวกเจ้า จึงจะให้พวกเจ้าทิ้งข้าไว้แล้วหนีไป!”

ต้าเป่าขบคิดอย่างหนัก

ชายชรา: เหอะๆๆ

ต้าเป่าเขียนว่า ‘ท่านคิดจะหลอกล่อนกหลวนศักดิ์สิทธิ์ออกไป ทันทีที่พวกข้าไป ประตูก็จะปิดลง นกหลวนศักดิ์สิทธิ์ก็จะเข้ามาอีกไม่ได้ใช่ไหมเล่า เหอะๆๆ’

ส่วนสุดท้าย เขายังวาดภาพเอาไว้ด้วย

ชายชราซึ่งถูกพูดแทงใจดำก็รู้สึกว่าหัวใจของเขาเริ่มแย่แล้ว เจ้าเด็กบ้าอะไรกัน ทำไมฉลาดเช่นนี้ แม้แต่เรื่องที่ประตูจะปิดทันทีที่ผู้ที่ชะตากำหนดเดินออกไปก็ยังเดาออก

ไม่สิ แม้แต่เรื่องที่ตนหลอกพวกเขาก็ยังรู้

สรุปแล้วเขาถูกขังนานเกินไป จนสมองของเขาเกรอะกรัง หรือว่าเด็กคนนี้ฉลาดเกินเด็ก ไม่ว่าอย่างไรก็หลอกเขาไม่ได้?

ทันใดนั้นเอง ชายชราก็นึกเรื่องหนึ่งออก เขาจึงถามต้าเป่าด้วยความแปลกใจว่า “ช้าก่อน เจ้าพูดได้ไม่ใช่หรือ? เจ้าเขียนเช่นนี้ ไม่เหนื่อยหรือ?”

ต้าเป่าตวัดปากกาเขียนว่า ‘ท่านมีภรรยากี่คน’

ชายชราผมขาวซึ่งไม่เคยแต่งงานทำหน้าถมึงทึง “เกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย!”

ต้าเป่าเขียนว่า ‘เช่นนั้นข้าจะเขียนหรือพูด เกี่ยวอะไรกับท่านด้วย’

ชายชรา “…”

เขาถูกเจ้าเด็กนี่ตอกหน้าจนแทบหน้าหัก ในที่สุดเขาก็เข้าใจว่า เขาสู้เจ้าเด็กนี่ไม่ได้จริงๆ ครึ่งชีวิตก่อนหน้านี้เขา ทำเรื่องเลวร้ายมามาก ตอนที่อาจารย์ปู่จับเขาขังไว้ที่นี่เพื่อรอผู้ที่ชะตากำหนด เขายังหัวเราะเย็นชา นี่นับเป็นการลงโทษหรือ? เขาคิดว่าตนเองเพียงหาที่สงบๆ ฟื้นฟูร่างกาย นอนพักสักร้อยปีก็พอแล้ว แต่ที่ไหนได้ เขากลับต้องรออยู่ในนี้อยู่นาน

หลังจากเสวนากับเจ้าเด็กพวกนี้เพียงพักเดียว เขาก็รู้สึกว่าตนเองถูกยั่วโมโหนับครั้งไม่ถ้วน!

แต่สิ่งที่ทำให้เขาประหลาดใจก็คือ ต้าเป่าเดินเข้ามาปลดโซ่ของเขาออก

ต้าเป่าปลดตรวนข้อเท้าออกก่อน เขาไม่ได้ลงมือด้วยซ้ำ เขาเพียงเข้าใกล้ ตรวนของเขาก็หลุดออกเอง

ชายชรามองต้าเป่าด้วยความตกตะลึง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]