แม้เด็กน้อยทั้งสามจะกินของไม่อร่อยเข้าไป สมองน้อยๆ จะพร่ามัว ทว่าก็ไม่ได้เลวร้ายไปเสียทั้งหมด อาการท้องผูกที่พวกเขาเป็นมาสามวันได้หายไปในที่สุด
“เอาละ ไม่ต้องส่งแล้ว ข้าไปละ” ซั่งกวนเยี่ยนขึ้นไปในรถม้า
อวี๋หวั่นนำพริกป่าหนึ่งตะกร้า เต้าหู้เหม็นสองไหและหน่อไม้ดองหนึ่งไหไปไว้บนรถม้าเรียบร้อย จึงเอ่ยกับซั่งกวนเยี่ยน “พระชายาเดินทางปลอดภัยนะเจ้าคะ”
เด็กทั้งสามมองอวี๋หวั่นอย่างอาลัยอาวรณ์
อวี๋หวั่นบีบแก้มเล็กๆ ของพวกเขาทั้งสามคน และเอ่ยด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน “หากมีเวลา ข้าจะไปเยี่ยมพวกเจ้า”
เด็กๆ หันมองซั่งกวนเยี่ยนพร้อมกัน
ซั่งกวนเยี่ยนเอ่ยอย่างริษยา “พวกเขาอยู่ที่จวนสกุลเซียว เจ้ามาหาได้ทุกเมื่อ”
เหล่าเด็กน้อยดีอกดีใจ
อวี๋หวั่นยกมุมปาก มองดูรถม้าเคลื่อนจากไป
เมื่อเทียบกับสวี่เสียนเฟย ที่แม้อ้าปากพูดหรือปิดปากเงียบตนก็ไม่คู่ควรกับบุตรชายของนาง ซั่งกวนเยี่ยนน่ารักกว่าหลายเท่านัก
หมู่บ้านเหลียนฮวากว้างใหญ่ถึงเพียงนี้ ข่าวที่ซั่งกวนเยี่ยนมาพักอาศัยในหมู่บ้านก็แพร่กระจายออกไป ในไม่ช้า แม้นางจะอาศัยอยู่ในบ้านของลุงวั่น คิดแล้วก็คงเป็นคนสกุลวั่น แต่บรรดาแม่ๆ ป้าๆ ก็อดจะสงสัยใคร่รู้ไม่ได้ อวี๋หวั่นก็ไม่อาจพูดอะไรมาก ตอบเพียงนางเป็นมารดาแท้ๆ ของคุณชายวั่น
“คุณชายวั่นมีแม่ด้วย…” ป้าไป๋ตกตะลึง
อวี๋หวั่นมุมปากกระตุก หรือพวกท่านคิดว่าเขาเป็นลูกไม่มีแม่?
ตัวตนของซั่งกวนเยี่ยนถูกเปิดเผย เด็กน้อยทั้งสามก็ไม่อาจปกปิดได้เช่นกัน
“มีลูกแล้วด้วย…” ป้าไป๋ยังคงมีสีหน้าประหลาดใจ
จะว่าไปคุณชายวั่นผู้นี้ก็มีความสามารถ การศึกษาสูง หน้าตาดี มีน้ำใจ บรรดาแม่ๆ ป้าๆ ต่างแอบคิดในใจ ว่าหากได้บุรุษที่แสนดีเช่นนี้มาเป็นลูกเขยได้ ก็คงเป็นเรื่องน่ายินดียิ่ง
ทว่าเขากลับมีลูกแล้ว คิดว่าคงต้องแต่งงานไปแล้ว บรรดาแม่ๆ ป้าๆ ต่างทำหน้าเหมือนคนอกหัก แยกย้ายกลับบ้านอย่างหมดอาลัยตายอยาก
แต่ถึงคุณชายวั่นจะมีลูก อาหวั่นก็ยังไม่มีนะ!
แม้ไม่อาจเอาคุณชายวั่นมาเป็นลูกเขยได้ แต่สามารถแต่งอาหวั่นมาเป็นลูกสะใภ้ได้!
บรรดาแม่ๆ ป้าๆ กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง!
……………
ณ จวนสกุลเหยียน เหยียนหรูอวี้ลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ แสงภายนอกลอดผ่านม่านโปร่งส่องกระทบใบหน้า ทำให้นางหลับตาหลบแสงโดยสัญชาตญาณ พร้อมกับยกมือขึ้นบดบัง
“คุณหนูตื่นแล้วหรือ?” สาวใช้ผู้หนึ่งเปิดม่านออก และนำไปเกี่ยวไว้กับตะขอผ้าม่าน
เหยียนหรูอวี้ไม่ได้สติไปครู่หนึ่ง มองไปที่นางด้วยความสงสัย “เจ้าเป็นใคร?”
สาวใช้น้อมกาย และตอบว่า “บ่าวคือสี่เชว่”
“ผู้ใดให้เจ้ามา? ไฉ่ฉินกับไฉ่จูเล่า?” เหยียนหรูอวี้จำไม่ได้ว่ามีสาวใช้ผู้นี้อยู่ในบ้านของนาง
สี่เชว่กล่าว “ตอบคุณหนู พี่ไฉ่ฉินและพี่ไฉ่จูไม่สบายจากลมหนาว ไม่สะดวกมารับใช้ในสองสามวันนี้ นายท่านจึงให้บ่าวมาดูแลรับใช้คุณหนูแทน”
เหยียนหรูอวี้ขมวดคิ้วประหลาดใจ “แม่หลินเล่า?”
สี่เชว่หลุบตาลง “แม่หลินขอลาเจ้าค่ะ”
คนรอบกายนาง ไม่สบายและลางานทั้งหมดภายในคืนเดียว หากบอกว่าไม่มีอะไรผิดปกติ ใครเล่าจะเชื่อ?
“ท่านพ่อของข้าอยู่ที่ใด? ข้าอยากพบเขา” เหยียนหรูอวี้เอ่ยเสียงเย็นชา
สี่เชว่กล่าวว่า “นายท่านไปศาลแล้วเจ้าค่ะ”
เหยียนหรูอวี้เอนกลับลงไปบนเตียง “เช่นนั้นรอท่านพ่อกลับมา เจ้าค่อยมาบอกข้า”
สี่เชว่ไม่เอ่ยสิ่งใด
ในเวลานี้ คนรับใช้หญิงชราผู้หนึ่งมาที่หน้าประตู เอ่ยด้วยสายตามองตรงไม่ไหวติง “เก็บของเสร็จแล้ว เชิญคุณหนูไปได้เจ้าค่ะ”
“ไปที่ใด?” เหยียนหรูอวี้ขมวดคิ้ว นางจำไม่ได้ว่ามีแผนการเดินทางใดในวันนี้ แต่ในวันพรุ่งนี้มีพิธีปักปิ่น[1]ของบุตรีข้าราชบริพารที่นางถูกเชิญให้เข้าร่วม
คนรับใช้หญิงชราเหลือบมองสี่เชว่
สี่เชว่เอ่ยอย่างใจเย็น “นายท่านให้คุณหนูไปอยู่ที่อารามชีสักระยะเจ้าค่ะ”
เหยียนหรูอวี้สงสัยว่านางได้ยินผิด สาวใช้ผู้นี้กล่าวอันใด? ท่านพ่อจะส่งนางไปที่สำนักชีหรือ? ไปทำอันใด? คัดลอกพระไตรปิฎก ท่องพุทธวจนหรือ? เพื่อใคร?!
สี่เชว่กล่าว “คุณหนู บ่าวรอล้างหน้าล้างตาให้คุณหนู อาหารเช้าเตรียมพร้อมแล้ว หลังทานเสร็จ จะมีคนมารับท่านไปวัดเจ้าค่ะ”
“ข้าไม่ไป!” เหยียนหรูอวี้เอ่ยอย่างเย็นชา ในครอบครัวขุนนาง มีเพียงสตรีที่ทำผิดเท่านั้นที่จะถูกส่งไปสำนักชี นางไปสถานที่เช่นนั้นไม่ได้เด็ดขาด!
“นี่เป็นคำสั่งของนายท่าน” สี่เชว่กล่าวเคร่งขรึม
เหยียนหรูอวี้ยกมือฟาดตบหน้านาง “หญิงต่ำต้อยคนหนึ่ง กล้าชักสีหน้าใส่คุณหนูอย่างข้ารึ!”
สี่เชว่ถูกตบจนมุมปากแตก นางยกมือขึ้นปาดเลือดที่มุมปาก และเอ่ยด้วยสีหน้านิ่งไร้อารมณ์ “บ่าวเพียงแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น นายท่านกล่าวแล้ว คุณหนูก็ต้องไปเจ้าค่ะ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]