หลังจากสามารถแต่งเข้าจวนแม่ทัพ ครอบครัวของฮูหยินเหยียนก็ถือว่ามีฐานะและชื่อเสียงเช่นกัน ยามที่สกุลเหยียนถูกคุมขังทั้งครอบครัวในคดีที่ถูกใส่ความ แม้ครอบครัวของฮูหยินเหยียนจะไม่ได้ช่วยอะไรมากนัก แต่ก็ไม่ได้เข้าไปพัวพันด้วย ในช่วงหลายปีนี้ รากฐานครอบครัวนางยังคงมั่นคง หากจะต่อสู้เพื่อบุตรสาว ฮูหยินเหยียนก็ยังค่อนข้างมั่นใจ
“นายท่าน นั่งลงก่อนเถิด ข้าให้คนเตรียมกับแกล้มกับเหล้าไว้แล้ว” ฮูหยินเหยียนกล่าวทักทายตามปกติ นางต้องการเจรจากับเหยียนฉงหมิงอย่างดีที่สุด
เหยียนฉงหมิงไม่มีอารมณ์เช่นนั้น จึงเอ่ยอย่างตรงไปตรงมา “อวี้เอ๋อร์เล่า?”
ฮูหยินเหยียนกล่าว “อยู่ในห้องของข้า ทาสรับใช้ทำให้เสียเวลามาครึ่งวันตั้งแต่เช้า นางตกใจกลัวมาก ข้าจึงขอให้หมอสั่งยากล่อมประสาทให้ นางดื่มยาและหลับไปแล้ว”
“นางกลัวรึ?” เหยียนฉงหมิงแทบหัวเราะภรรยา อาจหาญกระทั่งจะใช้ดาบฆ่าคน จะถูกสาวใช้ที่มีวรยุทธ์คนเดียวทำตกใจกลัวได้?
ฮูหยินเหยียนเอ่ยถาม “ข้าอยากถามนายท่าน อวี้เอ๋อร์เป็นเลือดเนื้อที่ข้าอุ้มท้องมาสิบเดือน ทั้งยังเป็นบุตรสาวแท้ๆ ของท่าน นางทำเรื่องผิดที่ไม่อาจให้อภัยอันใด จนท่านต้องการส่งนางไปที่อารามชีหรือ?”
“วาจาเหล่านี้ นางเป็นคนบอกเจ้ารึ?” เหยียนฉงหมิงขมวดคิ้ว
ฮูหยินเหยียนกล่าว “อวี้เอ๋อร์ไม่ได้บอกอันใดกับข้า นางสับสนเสียยิ่งกว่าข้า ข้าอยากถามท่านที่เป็นบิดาว่าจิตใจแข็งดังหินผาเพียงใด? สิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อคืน นางกระทำผิด แต่นางกำลังฝันร้าย ท่านจะมิต้องการนางเพราะเหตุผลนี้ไม่ได้”
เหยียนฉงหมิงเอ่ย “เมื่อใดที่ข้าบอกว่าข้ามิต้องการนาง?”
ฮูหยินเหยียนเอ่ยด้วยความผิดหวัง “ท่านจะส่งให้นางไปอาศัยอยู่ที่อารามชี เช่นนี้หรือที่ท่านไม่ต้องการทอดทิ้งนาง?”
“ข้า…” คำพูดของเหยียนฉงหมิงหยุดชะงัก
ภาพเหยียนฉงหมิงที่ไม่อาจกล่าวสิ่งใดหักล้างอยู่ในสายตาของฮูหยินเหยียน ราวกับว่ายอมรับผิด ฮูหยินเหยียนกล่าวอย่างเจ็บปวด “สองสามปีที่ผ่านมา เกิดสิ่งใดขึ้นกับนางบ้าง นางต้องทนทุกข์ทรมานมากเพียงใด ข้ากับท่านไม่รู้ ถามนาง นางก็ไม่บอก แต่ถึงนางไม่ได้บอก ท่านจะทำเหมือนไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้นหรือ? นางเป็นเพียงดรุณีผู้หนึ่งที่จู่ๆ ก็ถูกบุรุษย่ำยี กระทั่งตั้งครรภ์ นางให้กำเนิดบุตรและเลี้ยงดูพวกเขาเพียงลำพังด้วยความยากลำบาก ความทรมานเหล่านี้ นายท่านเข้าใจมันหรือไม่? โชคดีที่บุรุษผู้นั้นมีฐานะ ต้องขอบคุณอวี้เอ๋อร์ สกุลเหยียนของเราจึงฟื้นกลับมารุ่งเรืองอีกครา ท่านอย่าลืมว่าที่ท่านได้ใช้ชีวิตอย่างสุขสบายเช่นทุกวันนี้ อวี้เอ๋อร์ต้องแลกมาด้วยสิ่งใด!”
“เจ้า…” เหยียนฉงหมิงกำหมัดแน่น มองนางด้วยสายตาเยือกเย็น “ข้าจะไม่เสวนากับเจ้า!”
กล่าวจบ เขาก็หันตัวเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามอง
อย่างไรเขาก็ต้องส่งบุตรสาวไป กระทำความผิดใหญ่หลวงเช่นนี้ หากเรื่องแพร่งพรายออกไปก็เพียงพอที่จะทำให้สกุลเหยียนไม่อาจฟื้นคืนได้อีก!
เมื่อเขาออกจากเรือนของฮูหยินเหยียน ก็พบกับเหยียนหรูอวี้ที่ได้ยินมาว่ากำลังหลับตรงทางเดินเสียได้
เหยียนหรูอวี้ได้ผลัดเปลี่ยนอาภรณ์ของนางกลับเรียบร้อย และไม่เพียงเท่านั้น นางยังแต่งเนื้อแต่งตัวด้วยสีสันสดใสมากกว่าเมื่อก่อน นี่เป็นการเปิดฉากท้าทายเหยียนฉงหมิงอย่างเปิดเผย
เหยียนฉงหมิงขมวดคิ้วและเอ่ยถามว่า “เจ้าจะทำอันใด?”
“คำพูดนี้ ข้าควรจะถามท่านพ่อมากกว่า”
“ตัวเจ้ากระทำอันใดลงไป ย่อมรู้ดีอยู่แก่ใจ! อย่าคิดจะดึงสกุลเหยียนทั้งหมดลงน้ำ!”
ถึงตอนนี้ สองพ่อลูกต่างไม่ไว้หน้ากัน
เหยียนหรูอวี้รู้สึกหนาวสะท้าน นางบีบนิ้วพลางเอ่ย “แม่หลินเล่า?”
“หาใช่กงการของเจ้า” เหยียนฉงหมิงเอ่ยโดยไม่ต้องคิด
เล็บของเหยียนหรูอวี้แทบจะจิกลงไปในเนื้อ ความเฉยชาปรากฏบนใบหน้าของนาง “ท่านพ่อทราบเรื่องทั้งหมดแล้วหรือ? เช่นนั้นท่านพ่อตัดสินใจจะทำอย่างไร? ละทิ้งข้า รอให้คุณชายเยี่ยนกลับมา ท่านจะพาข้าไปอยู่ต่อหน้าเขาแล้วก้มหน้ายอมรับความผิดรึ?”
ดวงตาเหยียนฉงหมิงสั่นไหว
เขารู้ดีว่าการกระทำเช่นนี้มีความเสี่ยงมาก แต่การเริ่มยอมรับความผิดของตนก่อนทำให้คนรู้สึกดีกว่าเสมอ หากรอให้คุณชายเยี่ยนค้นพบความจริงเสียก่อน ผลที่ตามมาคงจะเลวร้ายยิ่งกว่านี้
เหยียนหรูอวี้คลี่ยิ้มเย็นชา “ท่านพ่อคิดว่าการปัดความรับผิดชอบมาให้ข้าเพียงคนเดียวจะสามารถช่วยสกุลเหยียนทั้งหมดได้หรือ? ท่านพ่อไม่คิดหรือว่าคดีความอยุติธรรมของสกุลเหยียนถูกกลับคำพิพากษาเพราะเหตุใด? หากมิใช่เพราะสถานะของข้าในยามนี้ ฮ่องเต้จะทรงอภัยโทษ ‘ความผิด’ ให้สกุลเหยียนหรือ? นอกจากนั้น เรื่องนี้เดิมทีก็เป็นความผิดฐานหลอกลวงฮ่องเต้อยู่แล้ว แม้จะหลีกหนีจากการแก้แค้นของคุณชายเยี่ยนพ้น แต่จะหลีกหนีจากความโกรธแค้นของฮ่องเต้ได้หรือ?”
วาจานั้นแทงใจดำจนเหยียนฉงหมิงกล่าวอย่างโกรธเกรี้ยว “เช่นนั้นบอกสิว่าเจ้าจะทำเช่นไร! กระดาษไม่อาจห่อไฟ ไม่ช้าก็เร็ว…”
“ไม่ช้าก็เร็ว” เหยียนหรูอวี้ขัด “ข้าจะจัดการเรื่องนี้เอง จะไม่ปล่อยให้สกุลเหยียนตกที่นั่งลำบาก ท่านพ่อจะได้เป็นท่านโหวของท่านต่อไปได้ พุ่งทะยานขึ้นสู่ตำแหน่งสูงได้โดยไม่ต้องเปลืองแรง!”
“เจ้า…เจ้าไม่ได้โกหกพ่อ? เจ้าจัดการได้แน่หรือ?” เห็นได้ชัดว่าเหยียนฉงหมิงทำให้ความมั่นใจและแผนที่เหยียนหรูอวี้วาดไว้สั่นคลอน
เหยียนหรูอวี้กล่าวอย่างเฉยเมย “จะเป็นท่านโหวที่ผู้คนนับพันเคารพนับถือ หรือวิญญาณอาฆาตภายใต้เครื่องประหาร ท่านพ่อเลือกเองเถิด”
กล่าวจบ เหยียนหรูอวี้ก็เดินไปข้างหน้า
ยามเดินผ่านไหล่เหยียนฉงหมิง เท้านางพลันหยุดชะงัก “แล้วก็ ส่งตัวแม่หลินกลับมา”
…
หลังเกิดเรื่องราวเหล่านี้ เหยียนหรูอวี้ก็เริ่มกังวลเกี่ยวกับเหตุการณ์ทางด้านเยี่ยนจิ่วเฉามากขึ้น แต่เดิมนางหวังว่าสกุลเหยียนจะปกป้องคุ้มครองนางบ้าง แต่ยามนี้นางแจ่มแจ้งแล้ว ว่าเมื่อใดที่นางหมดประโยชน์ บิดาของนางไม่ลังเลและพร้อมจะทอดทิ้งนางได้ทุกเมื่อ
เมื่อคิดเช่นนี้ ก็พลันลูบท้องแบนราบของตน จะเกิดอะไรขึ้น หากตอนนั้นเด็กทั้งสองคนรอดชีวิต? ชะตาชีวิตของนางจะแตกต่างจากวันนี้หรือไม่?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]