หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 62

บทที่ 62 อาหวั่นเคยมีลูก (2)
Ink Stone_Romance
อวี๋หวั่นปรายตามองเขา

นายท่านฉินพ่ายแพ้ราบคาบ “เอาละ แม่ครัวมือหนึ่งทั่วหล้าที่ฮ่องเต้ทรงประทานฉายาให้ อย่างไรก็ไม่อาจละเลยได้”

อวี๋หวั่นพึงพอใจกับห้องนี้ยิ่ง ทั้งกว้างขวางและสว่างไสว ไม่มีการตกแต่งที่ซับซ้อน ทว่าเรียบหรูสะอาดตา ทุกอย่างเหมาะสมลงตัว

“เจ้ามาเพียงเท่านี้รึ? หน่อไม้ของข้าเล่า?” นายท่านฉินกวาดตามองขึ้นลงที่ด้านหลังของอวี๋หวั่น

อวี๋หวั่นวางห่อผ้าลงบนโต๊ะ “หน่อไม้จะพร้อมเมื่อถึงสิ้นเดือน ที่ข้ามาหาท่านวันนี้ เพื่อแสดงอะไรบางอย่าง”

“อันใดรึ?” นายท่านฉินเลิกคิ้ว

อวี๋หวั่นเปิดห่อผ้าออกและยื่นม้วนหนังสือให้เขา

นายท่านฉินรู้สึกว่าหนังสือม้วนนี้ดูคุ้นเคยอย่างบอกไม่ถูก เขารับมันมาด้วยความประหลาดใจ เมื่อดึงแถบผ้าแพรไหมออกเพื่อคลี่ดู ก็ต้องตกตะลึงในทันที “‘แม่ครัวมือหนึ่งทั่วหล้า’? นี่ นี่มิใช่อักษรลายพระหัตถ์อันล้ำค่าของฮ่องเต้หรอกหรือ?”

“ท่านอยากได้หรือไม่?” อวี๋หวั่นถาม

อยากได้! อยากได้แน่นอน! กระทั่งฝันก็ยังอยากได้! นี่เป็นอักษรลายพระหัตถ์ของฮ่องเต้เชียวนะ หากนำกลับไป ก็สามารถทำให้เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ต้องเข้าเยี่ยมคำนับแล้วใช่รึไม่?

นายท่านฉินกลืนน้ำลาย ต่อต้านความอยากที่หมายจะนำม้วนหนังสือใส่ลงในกระเป๋า “สิ่ง… สิ่งนี้คงไม่อาจมอบให้ผู้ใดได้กระมัง…”

อวี๋หวั่นกล่าว “ใครบอกว่าจะให้? ขาย ข้าจะขายให้ท่าน”

นายท่านฉิน “???”

มอบให้ไม่ได้ แต่ขายได้อย่างนั้นหรือ…นายท่านฉินอยากจะผ่าสมองของดรุณีผู้นี้ออกมาดู ว่าแท้จริงเป็นเช่นไรกันแน่

นายท่านฉินกล่าวอย่างเคร่งขรึม “หากฮ่องเต้ทราบเรื่อง ข้าเกรงว่ามันจะไม่ดีกระมัง…”

อวี๋หวั่น “ห้าร้อยตำลึง”

นายท่านฉิน “ตกลง!”

หนึ่งในสี่ชั่วยามต่อมา อวี๋หวั่นก็เดินทางออกจากหอจุ้ยเซียนพร้อมกับธนบัตรเงินร้อยตำลึงห้าใบ

ตามความสัมพันธ์ของเธอกับนายท่านฉิน หากจะยืมเงินห้าร้อยตำลึงก็ยืมได้ ไม่จำเป็นต้องขายลายพระหัตถ์ฮ่องเต้ ทว่าประการแรก เธอไม่ชอบเป็นหนี้ใคร ประการที่สอง ลายพระหัตถ์ฮ่องเต้นำมาดื่มกินได้หรือ? พวกเขาต่างเป็นคนยากจนไร้การศึกษา และเด็กๆ ก็ซุกซน หากเผลอทำพังโดยไม่ตั้งใจ คงต้องโดนโทษหมิ่นเบื้องสูงใหญ่โตเป็นแน่ ไม่สู้ขายไปดีกว่าหรือ เมื่อไม่เห็นก็ไม่ต้องลำบากใจ

อวี๋หวั่นขึ้นไปนั่งบนรถม้า

สารถีรถม้าเอ่ยว่า “แม่นางอวี๋ เราจะกลับไปที่หมู่บ้านหรือไม่?”

อวี๋หวั่นมักจะเช่ารถม้าจากร้านนี้ จนเธอคุ้นเคยกับสารถีรถม้า

อวี๋หวั่นครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตอบไปว่า “ยังไม่กลับหมู่บ้าน ไปที่จวนสกุลเซียวก่อน”

เข้าเมืองมาแล้ว จะไม่ไปเยี่ยมเด็กทั้งสามได้อย่างไร? แต่วันนี้รีบร้อนเดินทาง มิได้นำขนมที่ลุงใหญ่ทำมาด้วย อวี๋หวั่นให้สารถีจอดรถที่หน้าร้านขนมแห่งหนึ่ง เพื่อซื้อขนมกุ้ยฮวาหนึ่งกล่อง ขนมโก๋ชั้นหนึ่งกล่อง และถังหูลู่สามไม้

“ราคาเท่าใดหรือ?” อวี๋หวั่นถาม

“หกสิบสี่อีแปะ” เถ้าแก่เนี้ยตอบ

ข้าวของในเมืองราคาแพง อวี๋หวั่นนำกระเป๋าเงินออกมา และกำลังจะหยิบเงิน จู่ๆ ก็มีขอทานคนหนึ่งวิ่งออกมา พร้อมกับกระชากกระเป๋าเงินของอวี๋หวั่นไป!

สายตาของอวี๋หวั่นเปลี่ยนเป็นเย็นชา กล้ามาชิงเงินจากเธอไปต่อหน้าต่อตา คงอยากตายแล้วสินะ!

“เก็บไว้ให้ข้าก่อน ข้าจะรีบกลับมา” อวี๋หวั่นอธิบายเสร็จ ก็รีบวิ่งไล่ตามขอทานผู้นั้นไป

ในซอยเปลี่ยวบรรยากาศเงียบสงัด จ้าวเหิงรีบสาวเท้าเดินอย่างเร่งรีบ พร้อมกับยาสองสามซองในมือ หลังจากเขาย้ายออกจากหมู่บ้านเหลียนฮวา ก็ตัดขาดจากอดีตทั้งหมดและย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังเก่าในเมืองหลวง

แม้บ้านหลังนี้จะทรุดโทรม ทว่าอยู่ไม่ไกลจากที่ที่เขาเรียน สะดวกต่อการดูแลนางจ้าวอย่างยิ่ง

เช้าวันนี้หลังเลิกเรียน เขาไปซื้อยามาจากร้านขายยาและกำลังรีบกลับไปต้มให้นางจ้าวดื่ม แต่ทันใดนั้นก็มีชายรูปร่างสูงใหญ่สองคนเดินเข้ามาหาและขวางเขาไว้

เขาไปทางซ้าย พวกเขาก็ไปทางซ้าย

เขาไปทางขวา พวกเขาก็ไปทางขวา

นี่คงหมายหัวเขาเสียแล้ว

จ้าวเหิงเป็นเพียงนักเรียนผู้ร่างกายอ่อนแอไร้เรี่ยวแรง ไม่อาจเอาชนะพวกเขาได้ เขาเก็บกดความกลัวที่พลุ่งพล่านอยู่ภายในใจ และเอ่ยถามคนทั้งสอง “ขอถามท่านผู้กล้า มีเรื่องอันใดหรือ?”

ชายฉกรรจ์คนหนึ่งกล่าวว่า “นายของข้าต้องการพบเจ้า”

จ้าวเหิงสงสัย “นายของเจ้าคือ…”

ทั้งสองไม่ตอบคำถาม นำถุงกระสอบคลุมหัวและพาตัวเขาไป

เมื่อถุงกระสอบถูกเปิดออก จ้าวเหิงก็ถูกกดให้นั่งลงบนเก้าอี้แล้ว ด้านหน้าของเขาเป็นฉากกั้นรูปทิวทัศน์ สองด้านของฉากกั้นมีชายฉกรรจ์แข็งแกร่งสองคนที่เพิ่งจับตัวเขามายืนอยู่

จ้าวเหิงตกใจกับท่าทางนี้จนขาอ่อนแรงลงเล็กน้อย

ด้านหลังฉากกั้น คนสนิทของสวี่ส้าวเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงองอาจ “เจ้าก็คือจ้าวเหิงรึ?”

หัวใจของจ้าวเหิงกระตุกวูบหนึ่ง “…ใช่ ข้าคือจ้าวเหิง ข้าขอถาม ท่านคือ…”

“เจ้าไม่จำเป็นต้องรู้ว่าข้าเป็นใคร ข้าเชิญเจ้ามาในวันนี้ เพราะมีคำถามที่ต้องการจะถามเจ้า เพียงแค่เจ้าตอบอย่างตรงไปตรงมา ข้ารับรองว่าจะไม่ทำให้เจ้าต้องลำบาก”

“ถามเรื่องใด?” จ้าวเหิงถาม

“นำภาพให้เขา”

หลังจากชายฉกรรจ์คนหนึ่งเดินไปหลังฉากกั้น เขาก็หยิบภาพจากมือคนสนิทของสวี่ส้าว และนำมากางออกต่อหน้าจ้าวเหิง

มันคือภาพของสตรีผู้หนึ่ง ผู้หญิงในภาพวาดแต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดา หน้าตาน่าเกลียดอัปลักษณ์ มีผื่นแดงขนาดใหญ่บนใบหน้า และกำลังตั้งครรภ์ท้องแก่ใกล้คลอด

เพียงแค่มองภาพนั้น จ้าวเหิงก็พลันรู้สึกคลื่นไส้ในใจ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]