ทุกคนล้วนสัมผัสได้ถึงพลังของบุรุษหนุ่มผู้นี้ กระนั้นก็ไม่มีผู้ใดเชื่อในสิ่งที่ตนเองเห็น โดยเฉพาะเยี่ยนไหวจิ่ง ลูกตาของเขาแทบถลนออกมา
“เป็น…เป็นไปได้อย่างไร…” เยี่ยนไหวจิ่งพูดไม่ออก
“นั่นสิ เป็นไปได้อย่างไรกัน” จวินฉางอันก็มิได้ตกใจน้อยไปกว่ากัน ก่อนหน้านี้เขานึกถึงความเป็นไปได้ต่างๆ นานา ทว่ากลับไม่มีบุรุษผู้นี้อยู่แม้แต่น้อย
ดวงตาของอวี๋หวั่นเป็นประกาย “เยี่ยนจิ่วเฉา…”
เขามาแล้ว ราวกับเทพจากสรวงสวรรค์ลงมาปัดเป่าหายนะ เป็นเหมือนกับครั้งก่อนๆ แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว เขาแข็งแกร่งกว่าเดิม แข็งแกร่งพอที่จะยืนอยู่เหนือราชาศักดิ์สิทธิ์ทั้งปวง
ในใจของเซียวเจิ้นถิงกู่ร้อง บัดนี้เด็กน้อยที่พวกเขาคอยปกป้องได้เติบโตขึ้นแล้ว เขายืนอยู่เบื้องหน้าของทุกคน กลายเป็นผู้ที่ปกป้องคนอื่น
ยามที่ฝูงชนตั้งสติได้ การโจมตีที่รุนแรงของเยี่ยนจิ่วเฉายังคงไม่หยุดลง พลังภายในจากวิชาอายุวัฒนะพุ่งลงใส่ร่างของเทพศักดิ์สิทธิ์ เยี่ยนจิ่วเฉาไม่เว้นจังหวะให้เขาโจมตีกลับ และไม่เบาแรงแม้ว่าเขาจะถูกตอกติดกำแพงไปแล้ว ทุกกระบวนท่าล้วนแต่มุ่งเอาชีวิต ทุกการโจมตีเปี่ยมไปด้วยพลังมหาศาล
ในที่สุดเทพศักดิ์สิทธิ์ก็ตระหนักได้ว่าตนไม่เหลือโอกาสรอดชีวิต เขาเริ่มเผาไหม้ตนเอง
“แย่แล้ว! เขาจะระเบิดตัวเอง!” เซียวเจิ้นถิงขมวดคิ้วแน่น
เทพศักดิ์สิทธิ์ระเบิดตนเอง มิได้รุนแรงน้อยไปกว่าหลัวช่าวิญญาณ มีคนราวสามหมื่นคนอยู่ในบริเวณนั้น ไม่ว่าจะเป็นมิตรหรือศัตรู เกรงว่าทุกคนคงจะต้องตายอยู่ที่นี่พร้อมกัน
กระนั้นแล้ว คนเผ่าศักดิ์สิทธิ์มิได้มีสีหน้าหวาดหวั่นแต่อย่างใด ราวกับว่าตั้งแต่ที่พวกเขาก้าวเข้าสู่สนามรบ ก็เตรียมตัวเตรียมใจสังเวยชีวิตของตนเองไว้แล้ว “ถอยทัพ! ถอยทัพให้หมด!” เซียวเจิ้นถิงตะโกนลั่น
ทหารต้าโจวต่างเร่งรีบหนีกันจ้าละหวั่น แต่นั่นก็ไร้ประโยชน์ เพราะทันทีที่เทพศักดิ์สิทธิ์ระเบิดตนเอง ก็จะไม่เหลือผู้ใดให้วิ่งหนีอีกต่อไป
เพียงแต่ว่า สิ่งที่เทพศักดิ์สิทธิ์คาดไม่ถึงก็คือ วินาทีที่เขากำลังจะระเบิดตัวเองนั้น เยี่ยนจิ่วเฉาก็เปลี่ยนพลังภายในของตนเป็นใบมีด แล้วปักลงไปบนจุดตันเถียนของเขาอย่างแรง ในตอนนั้นเอง วิชาอายุวัฒนะในจุดตันเถียนของเขาก็แยกออกราวสายฟ้า กระจายไปทั่วร่าง และทำลายเส้นลมปราณของเขากลายเป็นผุยผง
เขาไม่อาจระเบิดตัวเองได้อีก ทำได้เพียงแหลกสลายไป!
กองทัพเผ่าศักดิ์สิทธิ์เดือดดาลยิ่งนัก
ผู้บัญชาการทัพกวัดแกว่งกระบี่ในมือ ตวาดลั่นด้วยโทสะว่า “ล้างแค้นให้เทพศักดิ์สิทธิ์!”
“ล้างแค้นให้เทพศักดิ์สิทธิ์!”
“ล้างแค้นให้เทพศักดิ์สิทธิ์!”
“ล้างแค้นให้เทพศักดิ์สิทธิ์!”
ทัพใหญ่ของเผ่าศักดิ์สิทธิ์เริ่มฮึกเหิม ตะโกนเสียงดังกึกก้องด้วยความโกรธแค้น
ทันใดนั้นสีหน้าของเซียวเจิ้นถิงก็ซับซ้อนขึ้นมา มิน่าเล่ากองทัพของเผ่าศักดิ์สิทธิ์จึงได้ชื่อว่าเกรียงไกรยากแก่การเอาชนะ ในยามที่ยอดฝีมือซึ่งแข็งแกร่งที่สุดถูกสังหารไปแล้ว พวกเขายังคงรักษาวินัยและความองอาจ เมื่อมองจากมุมนี้ นี่ไม่ใช่สิ่งที่ทหารทั่วไปจะทำได้
คนเหล่านั้น เดิมทีสามารถรบได้หนึ่งต่อร้อย ทว่าในตอนนี้พวกเขากำลังฮึกเหิม กำลังรบย่อมเพิ่มขึ้นอีกหลายเท่า
และมิได้ด้อยไปกว่ายามที่มีหุ่นเชิดคอยเสริมทัพแม้แต่น้อย หากต้องสู้กันขึ้นมาจริงๆ เกรงว่ากำลังรบสองหมื่นคนของตน จะไม่เพียงพอที่จะเอาชนะอีกฝ่ายได้…
แต่ว่าพวกเขาถอยมาหลายครั้งแล้ว ในครั้งนี้มีขุมกำลังที่ยิ่งใหญ่อย่างเยี่ยนจิ่วเฉา ถ้าหากพวกเขาไม่บุกสักครั้ง ต่อให้พวกเขาเอาชีวิตรอดไปได้ เหล่าทหารกล้าก็คงภูมิใจไม่ออกไปชั่วชีวิต…
ดังนั้น พวกเขายอมสู้จนตัวตาย แต่จะไม่หนีโดยเด็ดขาด!
เซียวเจิ้นถิงกำดาบยาวในมือแน่น เขาจับเชือก แล้วควบม้านำทัพไป “บุก! จัดการพวกลูกเต่านั่นเสีย!”
ผู้บัญชาการทัพหัวเราะเย็นเยียบ พวกเขาออกมาแล้ว ก็ไม่คิดว่าจะมีชีวิตรอดกลับไป ในเมื่อไม่อาจปกป้องเทพศักดิ์สิทธิ์ พวกเขาก็ยินดีรับโทษประหาร แต่ถ้าก่อนตาย พวกเขาได้ลากทหารต้าโจวสองหมื่นชีวิตมาสังเวย ก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว
นี่จะกลายเป็นโศกนาฏกรรมครั้งใหญ่ พลรบต้าโจวมิใช่ไม่กลัว แต่เซียวเจิ้นถิงได้บุกออกไปแล้ว ผู้สำเร็จราชการ
ก็กำลังแบกรับศึกสำคัญ พวกเขาก็ไม่มีเหตุผลให้ถอย
“พี่น้องทั้งหลาย! ไปสู้กับพวกมัน! บุก!”
“เอาชนะเผ่าศักดิ์สิทธิ์ให้ได้!”
ทหารแห่งทัพต้าโจวเดินทัพเข้าไปด้วยความองอาจ
“ไม่สำเหนียกตัวเองเอาเสียเลย!” ผู้บัญชาการทัพพูดด้วยความเย่อหยิ่ง แล้วมองไปยังเยี่ยนจิ่วเฉาซึ่งลอยอยู่
กลางอากาศ เยี่ยนจิ่วเฉาแลดูประหนึ่งเทพเจ้าซึ่งกำลังมองลงมายังโลกมนุษย์ สายตาของเขาเย็นเยียบและเฉียบคม ไร้ซึ่ง…ความเกรงกลัว
นี่มันอะไรกัน กองทัพฝั่งเขากำลังจะถูกถล่ม ไฉนเขาจึงมีท่าทางนิ่งเฉยเช่นนี้ เขาคงไม่ได้คิดว่าด้วยพลังของตนเองจะสามารถเอาชนะกำลังรบเจ็ดพันคนของกองทัพเผ่าศักดิ์สิทธิ์ได้กระมัง
อ่า จะทำเช่นนั้นได้เห็นจะมีวิธีเดียว…ระเบิดตัวเอง
แต่การระเบิดร่างของตนเองนั้นมิได้แบ่งแยกมิตรหรือศัตรู กองทัพของเผ่าศักดิ์สิทธิ์จะไม่ได้ตายเพียงฝ่ายเดียว
เหล่าทหารของต้าโจวก็ต้องถูกฝังไปพร้อมกัน
เขาคนนี้คงไม่ได้โง่เขลาเบาปัญญาถึงเพียงนั้น ทว่าท่าทางสบายใจไร้กังวลนี่คืออะไรกัน
เขาไม่สนใจความเป็นความตายของทหารต้าโจวเลยหรือ? เขาคิดจะตายไปพร้อมกับกองทัพของเผ่าศักดิ์สิทธิ์ หรือว่าเขาอยากจะเป็นเพียงผู้ชมสงครามในครั้งนี้กัน?
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ผู้บัญชาการทัพจึงรู้สึกสังหรณ์ใจแปลกๆ
หวูดดดด
เสียงสัญญาณดังขึ้นจากบนเส้นขอบฟ้าอันไกลสุดลูกหูลูกตา
ตามมาด้วยเสียงระลอกคลื่น
ท่ามกลางฝูงชน ไม่รู้ผู้ใดร้องขึ้นว่า “กองทัพเรือเมืองเยี่ยน!”
ในคลองขุดห่างออกไปหลายหลี่ กองทัพเรือแห่งเมืองเยี่ยนกำลังเคลื่อนเข้ามา!
ผู้บัญชาการทัพไม่เข้าใจ พวกเขาไม่ได้สู้รบกันทางน้ำสักหน่อย นำกองทัพเรือมามีประโยชน์อันใด อยู่ห่างออกไปตั้งหลายหลี่ ต่อให้กองทัพเรือยิงเกาทัณฑ์หรือหรือยิงหินมาก็คงทำอะไรไม่ได้
ยามที่พวกเขาสู้รบกันขึ้นมา ไม่ว่าจะยิงเกาทัณฑ์หรือยิงหิน ก็ล้วนแต่เป็นการโจมตีไม่เลือกหน้า!
ผู้ที่คิดแผนนี้…สมองพังไปแล้วหรืออย่างไร
ผู้บัญชาการทัพอยากหัวเราะให้ฟันร่วง ทว่าทันใดนั้นเอง เขาก็หัวเราะไม่ออก
ด้านหลังของเรือรบแห่งเมืองเยี่ยน มีร่างสูงใหญ่กำยำกลุ่มหนึ่งทะยานขึ้นกลางอากาศ ดูประหนึ่งพญาอินทรีสยายปีก บินพุ่งมายังบรรดาทหารของกองทัพเผ่าศักดิ์สิทธิ์ซึ่งกำลังส่งเสียงร้องด้วยความฮึกเหิม ในชั่วพริบตาเดียวกระบวนทัพของเผ่าศักดิ์สิทธิ์ก็แตกกระสานซ่านเซ็นไม่เป็นรูปเป็นร่าง
พวกเขามีกันเพียงไม่กี่ร้อยคน เมื่อเทียบกับกองทัพเผ่าศักดิ์สิทธิ์ซึ่งมีถึงเจ็ดพันคน เพียงแค่นับจำนวนก็ไม่อาจเทียบกันได้ กระนั้นกำลังรบของเขาก็ทำให้ทุกคนกลัวจนตัวสั่น!
บุรุษที่เป็นหัวหน้านั้นสวมชุดเกราะสีดำ ผมเผ้าสยาย ดวงตาสีแดงก่ำดุจโลหิต เหน็บขวดนมใบเล็กเอาไว้ที่เอว
กองกำลังที่โจมตีกองทัพเผ่าศักดิ์สิทธิ์ คว้าหมับเข้าที่ทหารในกองทัพเผ่าศักดิ์สิทธิ์ซึ่งลอบสังหารอวี๋หวั่น แล้วฉีกออกเป็นสองซีก!
พลังรุนแรงกดลงทั่วทั้งสนามรบ จนทุกคนรู้สึกอกสั่นขวัญแขวน
อวี๋หวั่นถอนหายใจอย่างโล่งอก
ซิวหลัว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]