“พอแล้วละ ช่างมันเถิด” เหยียนหรูอวี้ดึงแขนเสื้อของคุณหนูหลี่
คุณหนูหลี่เอ่ยอย่างเย็นชา “ช่างมันอันใดเล่า? ท่านน่ะ ใจดีเกินไปแล้ว! ข้าไม่รู้ว่าม้าดีโดนคนขี่ คนดีโดนคนแกล้ง ท่านเป็นถึงบุตรีแห่งจวนแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ ยอมให้หญิงในหมู่บ้านวางอำนาจบาตรใหญ่กดขี่ท่าน หากใครรู้เข้า ท่านจะเอาหน้าไปไว้ที่ใด?”
เหยียนหรูอวี้เอ่ยเสียงเบา “หน้าของข้ามิได้สำคัญ พวกท่านไม่ต้องทำลายมิตรภาพเพียงเพราะข้าก็พอ”
“ผู้ใดจะมีมิตรภาพกับนาง!” คุณหนูหลี่มองอวี๋หวั่นอย่างเยือกเย็น “เจ้าจะยอมคุกเข่าด้วยตัวเอง หรือจะให้คุณหนูอย่างข้าคนนี้บีบให้เจ้าคุกเข่า?”
อวี๋หวั่นตอบรับสายตาของนาง “ข้าแนะนำว่าเจ้าควรทำตัวใจดีกับข้า”
“พอแล้ว อย่าทะเลาะกัน” เหยียนหรูอวี้ยังคงโน้มน้าว
ทว่าการโน้มน้าวไม่ได้ผล กลับเป็นเหมือนน้ำมันที่ราดลงบนกองไฟ ยิ่งทำให้ความโกรธของคุณหนูหลี่ลุกโชน
คุณหนูหลี่เกิดในครอบครัวทหาร นางเฝ้าดูพี่ชายฝึกศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก นางจึงได้เรียนรู้มาเล็กน้อย และมีฝีมืออยู่เหมือนกัน นางจับไหล่ของอวี๋หวั่นและใช้เท้ากระทุ้งด้านหลังเข่า หมายจะทำให้อวี๋หวั่นคุกเข่าลงกับพื้น ทว่าทันใดนั้นอวี๋หวั่นก็ยื่นมือมาจับข้อมือของนาง
ก่อนที่ทุกคนจะรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น คุณหนูหลี่ก็โซซัดโซเซล้มลงกับพื้นเสียแล้ว
คุณหนูหลี่หกคะเมนต่อหน้าสาธารณะ ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นสีเขียวคล้ำด้วยความโกรธ!
เหยียนหรูอวี้ขมวดคิ้ว “แม่นางอวี๋ เจ้าทำไม่ถูกต้อง ไยเจ้าต้องลงไม้ลงมือกับคุณหนูหลี่?”
อวี๋หวั่นถามกลับ “ข้าไม่ควรทำอันใด แล้วยืนอยู่เฉยๆ รอให้ตนเองถูกทุบตีหรือ?”
คุณหนูหลี่มองไปยังเพื่อนของนางอย่างเย็นชา “เจ้าสองคนมัวทำอันใดอยู่? ไยไม่ช่วยข้าจัดการนาง!”
เมื่อคุณหนูหลี่ออกคำสั่ง คุณหนูหูกับคุณหนูจั่วก็เดินเข้าไปหมายจะจับกุมตัวอวี๋หวั่นไว้ ทว่าคุณหนูหลี่ยังไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของอวี๋หวั่น แล้วพวกนางจะเป็นได้อย่างไร?
อวี๋หวั่นกระดิกนิ้วเชิญชวน ทั้นใดนั้นทั้งสองก็ล้มคะมำลงทีละคน
เหยียนหรูอวี้ลอบบีบนิ้วตนเอง หากเป็นเช่นนี้คงไม่อาจจัดการนางได้ ไม่ได้เรื่องสักคน!
“ข้าบอกแล้วว่าอย่าทำให้นางขุ่นเคือง” เหยียนหรูอวี้คุกเข่าลงพยุงคุณหนูหลี่ให้ลุกขึ้น
คุณหนูหลี่เค้นเสียงลอดไรฟัน “ข้าก็แค่ประมาทไปหน่อย จนตกหลุมพรางของนางเท่านั้นละ! นางจะเก่งไปได้อีกสักเท่าไร? สู้กับองครักษ์แห่งคฤหาสน์รองเจ้ากรมของพวกเราได้รึ?”
ดวงตาของเหยียนหรูอวี้เปล่งประกาย ใช่แล้ว นางจะลืมได้อย่างไรว่าคุณหนูหลี่ออกมาพร้อมกับองครักษ์?
คุณหนูหลี่ให้สาวใช้ไปตามองครักษ์ที่ประจำอยู่ ณ ร้านขายผ้ามาสิบกว่าคน เดิมทีพวกเขามาดูแลพวกนางท่องเที่ยวที่ทะเลสาบ ทว่าคุณหนูหลี่โกรธอวี๋หวั่นมากจนไม่อาจยั้บยั้งอารมณ์ จึงสั่งให้พวกเขาลงมือจัดการเธอ
คุณหนูหลี่ชี้ไปที่อวี๋หวั่นอย่างโหดเหี้ยม “ไปจับตัวเด็กผู้หญิงที่ไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงผู้นี้มาให้ข้า!”
“คุณหนู…” ผู้นำองครักษ์สีหน้ากระอักกระอ่วน หมัดของพวกเขาใช้เพื่อจัดการกับเหล่าร้าย มิใช่ใช้เพื่อรังแกเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ
คุณหนูหลี่ชี้ที่ใบหน้าแดงบวมของนาง “ไม่เห็นรึว่านางทำร้ายข้าจนเป็นเช่นนี้ แล้วยังมีคุณหนูหูและคุณหนูจั่วอีกที่ถูกนางทำร้าย! ยังไม่รีบไปจับตัวนางมาให้ข้าอีก!”
เพียงแค่การทะเลาะวิวาทกันของเหล่าสตรี ผู้นำองครักษ์ไม่อยากจับนาง
คุณหนูหลี่โกรธจัด ดึงกระบี่ที่เอวของเขาออกมา “จะจับรึไม่? หากไม่จับข้าจะกลับไปรายงานท่านพ่อ ว่าเจ้ากับผู้หญิงคนนี้รวมหัวกันรังแกข้า!”
ผู้นำองครักษ์ปวดหัว วันธรรมดาคุณหนูไม่เคยทำตัวไร้เหตุผลเช่นนี้ วันนี้เกิดอะไรขึ้น?
เหยียนหรูอวี้หลุบตาลง
คุณหนูหลี่เร่งรัดอีกครา องครักษ์ไม่มีทางเลือก จำต้องไปจับกุมตัวอวี๋หวั่น
อวี๋หวั่นอาจมีกำลังมาก แต่อีกฝ่ายหาใช่โจรกระจอก ทว่าเป็นองครักษ์ที่ถูกฝึกมาอย่างดี หากต่อสู้กันจริงๆ อวี๋หวั่นไม่มีทางเอาชนะได้ เวลานั้นมีรถม้าหรูหราสวยงามคันหนึ่งเคลื่อนมาหยุดอยู่ที่ด้านข้างพวกเขา
เมื่อหันไปมอง ก็เห็นสารถีชายหนุ่มวัยยี่สิบต้นๆ รูปร่างสูงใหญ่ ดูแข็งแรงกำยำ ดวงหน้าคมเข้มหล่อเหลา แม้จะเป็นคนขับรถ ทว่ากลับแผ่กลิ่นอายสูงส่งสง่างามที่เป็นเอกลักษณ์ ยิ่งกว่าคุณชายในครอบครัวสกุลขุนนางเสียอีก
“เอ่อ…” คุณหนูหลี่งงงวย
คนอื่นอาจจะจำเขาไม่ได้ ทว่าอวี๋หวั่นกับเหยียนหรูอวี้จำเขาได้ทันที
อิ่งสือซัน องครักษ์ส่วนตัวของเยี่ยนจิ่วเฉา
หลังจากอิ่งสือซันหยุดรถ ก็กระโดดลงมาและเหยียดแขนเรียวยาวออกไปเปิดผ้าม่านรถม้า
ด้านในรถม้า มีชายหนุ่มผู้สง่าผ่าเผยอย่างมิมีผู้ใดเทียบในชุดสีขาว ใบหน้างดงามราวกับหยกอยู่ หากอิ่งสือซันเป็นเอกบุรุษคณิกา ชายคนนี้ก็คงเป็นเทพบุตรแห่งน่านฟ้า ทันทีที่เขาปรากฏตัว ผู้คนต่างตกตะลึงจนแทบหยุดหายใจ
เหยียนหรูอวี้นำก้าวไปด้านหน้า “อวี้เอ๋อร์คารวะคุณชายเยี่ยน”
ทุกคนต่างตกใจ ว่าอย่างไรนะ? เขาก็คือคุณชายเยี่ยน?
ได้ยินว่าคุณชายผู้นี้นิสัยดุร้าย แต่เกิดมางามล่มเมืองถึงเพียงนี้ พวกนางคิดว่าข่าวลือนั่นเกินจริงไปเสียหน่อย ทว่าเมื่อได้เห็นแล้ว ก็รู้สึกเพียงว่าความงามของพวกนางมิได้สักหนึ่งหรือสองในสิบของเขาเลย
เยี่ยนจิ่วเฉามิได้สนใจเหยียนหรูอวี้ พลางเดินไปหาอวี๋หวั่นอย่างเงียบๆ
อวี๋หวั่นไม่ได้มองเขา
เยี่ยนจิ่วเฉาเลิกคิ้ว
ดวงตาของคุณหนูหลี่กลิ้งกลอกไปมา “คุณชายเยี่ยน! ท่านต้องปกป้องพวกเรานะเจ้าคะ! นางรังแกคนอื่น ล่วงเกินคุณหนูเหยียนไม่พอ ยังทำร้ายข้ากับคุณหนูหูและคุณหนูจั่วอีก!”
เยี่ยนจิ่วเฉาเหลือบมองคนทั้งสามคนเล็กน้อย “ลงมือไม่เบาเลยนะ…”
คุณหนูหลี่พยักหน้าเหมือนโขลกกระเทียม!
เยี่ยนจิ่วเฉาหันศีรษะและมองไปที่อวี๋หวั่น “เจ้าทำรึ?”
“ใช่”
“มือข้างใด?” เยี่ยนจิ่วเฉาถามเสียงทุ้ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]