หากเยี่ยนไหวจิ่งมิได้หลบได้อย่างรวดเร็ว ก็คงถูกหินก้อนนั้นอัดจนเละเป็นเนื้อบดไปแล้ว เขามองไปยังโพรงใหญ่บนเรือ ก็พูดขึ้นด้วยความโกรธเกรี้ยว “เยี่ยนจิ่วเฉา! นี่มันเรือของทางการ!”
เยี่ยนจิ่วเฉา “อ้าว”
ขณะที่เยี่ยนไหวจิ่งกำลังคิดว่าในที่สุดอีกฝ่ายก็ริษยาขึ้นมา เยี่ยนจิ่วเฉาก็วางอวี๋หวั่นลงบนเก้าอี้ แล้วโบกมือให้อิ่งสือซัน อิ่งสือซันก็ดันเครื่องยิงหินเข้ามา
เยี่ยนจิ่วเฉานำหินก้อนใหญ่ที่สุดใส่ลงบนเครื่องด้วยตนเอง เล็งไปยัง…ศีรษะของเยี่ยนไหวจิ่ง จากนั้นก็ทุบเครื่องนั้นอย่างแรง
“เยี่ยนจิ่วเฉา!!!” เยี่ยนไหวจิ่งกระโดดหลบอย่างทุลักทุเล พื้นดาดฟ้าเรือด้านหลังเขาหักออกเป็นสองซีก
เรือของทางการซึ่งประดับประดาสวยสดและพรั่งพร้อมด้วยยุทโธปกรณ์ไม่อาจทนรับการโจมตีของกองทัพเรือเยี่ยนจิ่วเฉาได้ ภายในเวลาเพียงชั่วประเดี๋ยวเดียว ทั้งเรือของทางการและเรือหรูของเหยียนหรูอวี้ก็ถูกกองทัพเรือโจมตีเสียจนยับเยิน
บัดนี้เยี่ยนไหวจิ่งกลายเป็นลูกหมาตกน้ำต่อหน้าต่อตาผู้คน
“คุณชาย เหยียนหรูอวี้หนีไปแล้ว” อิ่งสือซันมองลงไปบนผิวน้ำ “จะให้ข้าน้อยไปจับนางหรือไม่ขอรับ?”
เยี่ยนจิ่วเฉาพูดค่อนแคะ “จับนางแล้วอย่างไร? ให้นางหนีไป”
หากไม่ให้นางหนี นางก็จะไม่รู้ซึ้งถึงความสิ้นหวัง
อิ่งสือซันเหลือบมองเหยียนหรูอวี้ด้วยความเห็นอกเห็นใจ เขาคิดในในว่าสตรีผู้นี้ช่างน่าเวทนายิ่งนัก เป็นหมากในกระดานอยู่ดีๆ กลับออกไปรนหาที่ตาย ครั้งนี้เป็นอย่างไรเล่า? ลักพาตัวคุณชายน้อย จับแม่นางอวี๋ไป ทั้งยังหลบหนีไปต่อหน้าต่อตาคุณชาย ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วจะต้องตายอย่างไร
อวี๋หวั่นเผชิญกับเรื่องชวนอกสั่นขวัญแขวนมาตลอดทั้งคืน หลังจากที่เยี่ยนจิ่วเฉาปรากฏตัว เธอก็รู้สึกโล่งใจราวกับยกภูเขาออกจากอก เมื่อสมองปลอดโปร่ง ก็เริ่มง่วงนอนขึ้นมา เธอนั่งอยู่บนเก้าอี้เพียงครู่เดียวก็ผล็อยหลับไป
ไม่รู้ว่าเธอเริ่มเชื่อใจผู้ชายคนนี้ตั้งแต่เมื่อไร
เยี่ยนจิ่วเฉาอุ้มเธอเข้าไปในห้องพร้อมกับเด็กน้อยทั้งสาม แล้ววางพวกเขาลงบนเตียงนุ่ม
เด็กน้อยทั้งสามคนกลิ้งเข้าไปซุกในอ้อมกอดของอวี๋หวั่นทันทีราวกับรู้สึกตัวอยู่
แม่ลูกกำลังหลับสบาย
เยี่ยนจิ่วเฉาใช้ปลายนิ้วจิ้มไปบนท้องของลูกชาย เด็กทั้งสามถูกท่านพ่อปลุกให้ตื่น พวกเขาลืมตาขึ้นมองท่านพ่อด้วยสีหน้างุนงง
เยี่ยนจิ่วเฉาบอกว่า “ข้าอยากนอนด้วย”
เด็กทั้งสามคนเข้ามากอดอวี๋หวั่นทันที แล้วหันมาจ้องท่านพ่อเขม็ง
เยี่ยนจิ่วเฉาพูดว่า “ข้าช่วยนางกลับมา ไม่เช่นนั้นพวกเจ้าก็คงไม่ได้พบนางอีก”
เด็กทั้งสามครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ในที่สุดก็ขยับก้น แล้วแบ่งที่ว่างให้เยี่ยนจิ่วเฉาครึ่งเตียง
แน่นอนว่าเยี่ยนจิ่วเฉามิได้อยากนอนจริงๆ เขาเพียงล้มตัวลงนอนข้างๆ มองไปยังสี่คนแม่ลูกเงียบๆ เด็กน้อยทั้งสามนอนหงายกรนเบาๆ อวี๋หวั่นนอนตะแคงข้าง หันหน้าเข้าหาเด็กๆ เธอกำลังหลับสบาย ลมหายใจสม่ำเสมอ
ต่อให้ไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นแม่ลูกกัน แต่ในเมื่อพึ่งพากันถึงเพียงนี้ จะเรียกว่าเลือดข้นกว่าน้ำได้หรือไม่?
เยี่ยนจิ่วเฉาใช้มือดันตัวเองขึ้น เอนกายเข้าไปใกล้ใบหูของอวี๋หวั่น กระซิบว่า “ลูกของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ พวกเขาอยู่ในอ้อมกอดของเจ้าแล้ว”
ในความฝัน อวี๋หวั่นรู้สึกมีความสุขเหลือเกิน
……
หลังจากที่เรือถูกโจมตี เหยียนหรูอวี้ก็ตกลงในน้ำ โชคดีที่นางว่ายน้ำเป็น นางดำลงใปใต้น้ำเพื่อช่วยแม่หลินที่ตกลงไปในน้ำเช่นเดียวกัน ในขณะที่มือของนางกำลังจะยื่นไปคว้าแม่หลินนั้นเอง ก็มีหินก้อนหนึ่งพุ่งตรงมากระแทก กระโหลกศีรษะแตกต่อหน้าต่อตา เหยียนหรูอวี้กลัวจนเกือบลมจับ
นางว่ายน้ำไปสุดกำลัง ไม่รู้ว่าว่ายมานานเท่าไร ในที่สุดก็ถึงฝั่ง
นางตรงเข้าเมืองหลวง เดิมทีคิดว่าจะไปหาสวี่ส้าว แต่กลับพบว่าเรือนของสกุลสวี่ถูกทหารจากทางการล้อมเอาไว้หมดแล้ว
นางทำได้เพียงแอบกลับไปจวนสกุลเหยียน
…………………..
“นายท่าน นายท่านแย่แล้วขอรับ!” พ่อบ้านของจวนสกุลเหยียนคนหนึ่งวิ่งหัวหกก้นขวิดเข้ามาในห้องของเหยียนฉงหมิง
เหยียนฉงหมิงกำลังนอนกลางวัน แต่กลับถูกพ่อบ้านทำเสียงดังโหวกเหวกจนตื่น เขาขมวดคิ้วด้วยความไม่พอใจ “มีอะไร? เอะอะโวยวายอะไร?”
พ่อบ้านใบหน้าซีดเผือด “คะ…คุณชายเยี่ยนกลับเมืองหลวงมาแล้วขอรับ”
เรื่องที่ก่อนหน้านี้คุณชายเยี่ยนกลับเมืองเยี่ยนไปไหว้หลุมศพเยี่ยนอ๋องนั้นแพร่สะพัดออกไปทั่วเมืองหลวง เขากลับมาก็กลับมาสิ มีอันใดน่าแปลกใจ?
เหยียนฉงหมิงกล่าวโทษพ่อบ้านที่ร้องแร่แห่กระเฌอ พ่อบ้านกลับพูดว่า “ไม่ใช่ขอรับ นายท่าน เกิดเรื่องใหญ่แล้ว! คุณชายเยี่ยนบอกกับคนอื่นๆ ว่า…ว่า…”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]