หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3] นิยาย บท 8

หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2] – บทที่ 8.2 ไข่ล้ำค่าสามฟอง (2)
บทที่ 8 ไข่ล้ำค่าสามฟอง (2)
โดย
Ink Stone_Romance
อวี๋หวั่นไม่เพียงแต่เอ่ยด้วยความตั้งใจ ทว่ายังได้พิจารณาอย่างจริงจังแล้ว ในสายตาของคนภายนอก หมู่บ้านเหลียนฮวาเป็นหนึ่งในหมู่บ้านที่ห่างไกล และมีผู้คนอาศัยอยู่น้อยที่สุด แต่ในสายตาของอวี๋หวั่น เธอกลับมองว่าพวกเขาอยู่ในที่ที่อุดมสมบูรณ์ หากไม่ได้พัฒนาให้ดี ก็นับว่าเสียของ

และไม่ได้ขัดแย้งกับธุรกิจเต้าหู้แต่อย่างใด กลับได้พัฒนาอย่างหลากหลายและทำให้ธุรกิจของพวกเขายิ่งเติบโต

อวี๋หวั่นมองไปที่ภูเขาที่ทอดยาวไม่มีที่สิ้นสุด “หลี่เจิ้ง ข้าต้องการให้หมู่บ้านของเรากลายเป็นหมู่บ้านอันดับหนึ่งในตำบลเหลียนฮวา!”

หลี่เจิ้งตกใจแทบอ้าปากค้าง

หลี่เจิ้งตกใจกับคำพูดของอวี๋หวั่น ทุ่งหญ้าอุดมสมบูรณ์ของพวกเขาถูกทำลายจนหมด ไม่นานท้องของพวกเขาก็จะหิว ทว่าอาหวั่นบอกเขาว่าพวกเขาจะกลายเป็นหมู่บ้านที่ร่ำรวยที่สุดในตำบลเหลียนฮวา จะเป็นไปได้จริงหรือ?

ครอบครัวอวี๋รู้เรื่องที่เด็กน้อยทั้งสามแยกจากครอบครัวแล้ว เมื่อคืนนางเจียงพาเด็กน้อยไปทานอาหารเย็นที่บ้านหลังเก่า

เถี่ยตั้นน้อย เด็กหญิงตัวเล็กและเด็กชายทั้งสามนั่งอยู่ที่โต๊ะอาหารและกินขนมถ้วยฟูน้ำตาลทรายแดง ป้าสะใภ้ใหญ่เป็นคนทำอาหารเช้า นางทำอาหารไม่เก่งเท่าลุงใหญ่ แต่อาหารมื้อนี้ก็ใช้ใจทำ ขนมถ้วยฟูน้ำตาลทรายแดงโรยด้วยงาและฝังอินทผลัมที่คว้านเม็ดออก

เด็กน้อยทั้งสามนั่งอยู่บนม้านั่งตัวเล็ก กินกันอย่างอย่างเอร็ดอร่อย บางครั้งอวี๋หวั่นก็ป้อนโจ๊กคำเล็กๆ ให้พวกเขา

อวี๋หวั่นมองพวกเขาที่กำลังกินอาหาร พลันรู้สึกอิ่มอกอิ่มใจมากกว่าตัวเองกินเสียอีก

เถี่ยตั้นน้อย “ท่านพี่ไม่ป้อนข้าบ้าง”

อวี๋หวั่น “เจ้าอายุเท่าไรแล้ว?”

เถี่ยตั้นน้อยซึมเศร้า “ท่านพี่ไม่รักข้าแล้ว”

อวี๋หวั่น “…”

หลังอาหารค่ำ อวี๋หวั่นบอกครอบครัวเรื่องการวางแผนจะไปรักษาขาลุงใหญ่ที่เมืองหลวง

คนสกุลอวี๋ไม่มีความเห็น แต่การแข่งขันใหญ่ถูกระงับ โรงงานก็ปิดชั่วคราว หากจะลองเสี่ยงโชคไปรักษาที่เมืองหลวงดูก็ดีกว่าการอยู่บ้านเฉยๆ

“หมอที่ไปหาคราวก่อน เขาเคยเป็นหมอทหารมาก่อน จึงรักษาอาการบาดเจ็บได้ดีมาก” อวี๋หวั่นจำหมอผู้นั้นที่เป่าจือถังได้ เขาดูมีความมั่นใจในระดับหนึ่ง

“ไปเถิด” ป้าสะใภ้ใหญ่กล่าว

ลุงใหญ่ลังเลที่จะเอ่ย

อวี๋หวั่นเข้าใจสิ่งที่เขากังวล หลังจากผิดหวังมาครั้งแล้วครั้งเล่า เธอก็ไม่กล้าให้ความหวังอีก

แต่อวี๋หวั่นก็ไม่อยากยอมแพ้

หากไม่ใช่เพราะลุงใหญ่ คนที่ต้องขาเป๋ก็คงเป็นเธอ เธอไม่ได้กำลังรักษาการบาดเจ็บของลุงใหญ่ ทว่ากำลังรักษาแผลใจของตนเอง

“เช่น…เช่นนั้นก็ไปกันเถิด” ลุงใหญ่กล่าว

อวี๋ซงไปที่บ้านของซวนจื่อเพื่อขอยืมรถเกวียนวัว อวี๋หวั่นประคองลุงใหญ่ขึ้นไป

เมื่อเห็นอวี๋หวั่นขึ้นรถ เด็กน้อยทั้งสามก็รีบปีนขึ้นไปด้วย

อวี๋หวั่นกล่าวด้วยความเจ็บปวด “ก็ได้ หากข้าพบท่านพ่อของเจ้า ข้าจะส่งพวกเจ้ากลับไป”

เด็กจ้ำม่ำที่ดูสับสน “…”

สายเกินไปแล้วหรือไม่ที่จะลงจากรถตอนนี้?

พวกเขาเปลี่ยนรถม้าอีกคันในตำบล และอวี๋ซงก็ขับรถเกวียนวัวกลับไป อวี๋หวั่น อวี๋เฟิง ลุงใหญ่และเด็กน้อยทั้งสามนั่งรถม้าไปยังเป่าจือถังในเมืองหลวงด้วยกัน

ไม่ได้มาหนึ่งเดือน ธุรกิจของเป่าจือถังก็ดูรุ่งเรืองขึ้น

“เจ้านั่งรออยู่ที่รถม้า ข้าจะไปต่อแถว” อวี๋เฟิงเอ่ย หลังจากต่อแถวยาวเหยียด ดูเหมือนว่า กว่าจะถึงคราวพวกเขาคงเป็นช่วงบ่ายไปแล้ว

อวี๋หวั่นค้นของที่เอว “อาหารที่ป้าสะใภ้ใหญ่เตรียมไว้ ข้าลืมไว้ที่รถเกวียนวัว อีกประเดี๋ยว ท่านลุงอยากกินอะไรหรือไม่? ข้าจะไปซื้อมาให้”

“ข้าไม่หิว” ลุงใหญ่ไม่มีความอยากอาหาร

สารถีกล่าว “ในตรอกตรงนั้นมีบ้านขายแกงข้นเนื้อแพะรสชาติดีเลยล่ะ!”

“ซู้ดด~” เด็กจ้ำม่ำทั้งสามน้ำลายไหล

ลุงใหญ่ยิ้ม “เช่นนั้นก็เอาแกงข้นเนื้อแพะแล้วกัน”

ยามนี้พวกเขามีเงินพอสำหรับแกงข้นเนื้อแพะสองสามชามแล้ว แม้ว่าพวกเขาจะยากจน ทว่าพวกเขาก็ไม่อาจทนทรมานเด็กๆ ได้

อวี๋หวั่นกระโดดลงจากรถม้าและอุ้มเด็กน้อยทั้งสามลงมา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]