แขกที่มากินแกงเนื้อแพะต่างพากันหวาดกลัวและวิ่งหนีกระจัดกระจาย คู่สามีภรรยาแก่และหนุ่มสาวไม่อาจทิ้งแผงลอยและเนื้อแพะที่ยังขายไม่เสร็จไปได้ จึงทำได้เพียงยืนตัวสั่นอยู่ตรงนั้น
อวี๋หวั่นปกป้องเด็กๆ ทั้งสามคนไว้ข้างหลัง นางเหยียนหรูอวี้เสียสติไปแล้วจริงๆ เด็กอยู่กันที่นี่นางก็ยังจะสู้ เด็กตัวเล็กเท่านี้ นางก็ยังไม่หวั่นเกรงจะทำให้พวกเขาหวาดกลัว!
เหล่าทหารองครักษ์กลัวโดนเด็กๆ ไม่กล้าทำร้ายคุณชายน้อย ส่งสายตาแลกเปลี่ยนกันไปมา จากนั้นพวกเขาก็ตัดสินใจแยกอวี๋หวั่นออกจากคุณชายน้อย แล้วจึงค่อยสั่งสอนสตรีผู้นี้อย่างโหดเหี้ยม
ความคิดของอวี๋หวั่นก็ไม่ได้แตกต่างจากพวกเขา ไม่ว่าอย่างไร พวกเขาก็ไม่ควรทำร้ายเด็กโดยไม่ตั้งใจ
ไม่รู้เพราะพวกเขาได้ยินความคิดของอวี๋หวั่นที่ต้องการ ‘ปล่อยพวกเขาไป’ หรือไม่ เด็กน้อยทั้งสามเกาะตัวอวี๋หวั่นแน่นไม่ยอมปล่อย!
เหยียนหรูอวี้ใกล้หมดความอดทน “ยังไม่รีบลงมืออีก!”
องครักษ์เดินเข้าไปหาเด็กน้อยกับอวี๋หวั่น พลันเหยียดแขนอันทรงพลังออกไป และกำลังจะสัมผัสตัวพวกเขา ทันใดนั้นร่างสีฟ้าเทาก็บินขึ้นมา เหาะสูงขึ้นไปในอากาศ และเตะเหล่าทหารองครักษ์ที่ล้อมรอบพวกเขาล้มกลิ้งลงกับพื้น!
ทุกอย่างเกิดขึ้นในเสี้ยววินาทีเท่านั้น ก่อนที่เหยียนหรูอวี้จะเห็นว่าเกิดสิ่งใดขึ้น ทหารองครักษ์ที่ส่งออกไปก็ล้มระเนระนาดอยู่ในตรอกแห่งนั้น และหมดสติไปไม่เหลือใครสักคน
เมื่อแขกที่ตกใจวิ่งหนีไปเห็นเหตุการณ์กลับตาลปัตร ก็แอบย่องออกมาเงียบๆ แน่นอนพวกเขาไม่กล้าเข้าไปใกล้นัก เพียงแต่ก้มแอบอยู่อีกฟากนึงของตรอกและชะเง้อหัวมองมาเท่านั้น
พวกเขาไม่รู้จักอวี๋หวั่นหรือเหยียนหรูอวี้ ทว่าพวกเขาได้ยินเหยียนหรูอวี้อ้างว่าตนเป็นมารดาของแฝดทั้งสาม ช่างน่าประหลาดยิ่งนัก ไม่ว่าจะมองอย่างไรพวกเขาก็คิดว่าสตรีผู้นั้นเหมือนมารดาของเด็กแฝดมากกว่า ท่าทางที่ปกป้องเด็กอย่างถึงที่สุดของนางไม่เหมือนกับคนที่แกล้งทำ
“ไม่ใช่ว่าเป็นแม่ใหญ่กระมัง?”
ผู้คนที่ชอบสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านคาดเดาเรื่องราวในหัวไปต่างๆ นานา สาวใช้ตกยากตั้งครรภ์กับนายท่านและได้ให้กำเนิดบุตรสามคนในเดือนสิบ ทว่าภรรยาหลวงกลับจะเอาตัวเด็กไป สาวใช้ไม่ยินยอมจึงพาบุตรของนางหนี ภรรยาหลวงจึงตามจับตัวกลับไป…
อวี๋หวั่นไม่รู้ว่าตนได้กลายเป็นสาวใช้ตกยากที่ ‘หอบบุตรชายหนี’ ในความคิดของทุกคนไปเสียแล้ว เธอจำได้ว่าคนผู้นั้นคืออิ่งสือซัน เธอเคยได้เห็นความเก่งกาจของอิ่งสือซันมาก่อน ทหารองครักษ์ที่เหยียนหรูอวี้ส่งมาไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของอิ่งสือซันได้แม้แต่น้อย
อวี๋หวั่นถอนใจเบาๆ ด้วยความโล่งอกพลันอ้าแขนที่ปิดตาเด็กๆ ออก
เหยียนหรูอวี้ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร นางได้พบกับเยี่ยนจิ่วเฉาโดยบังเอิญหนึ่งครั้งที่หอหยกขาว ในครั้งนั้นข้างกายเยี่ยนจิ่วเฉาก็มีเพียงลุงวั่น
เหยียนหรูอวี้ถามอย่างเย็นชา “เจ้าเป็นใคร กล้ามาวุ่นวานกับคนของจวนแม่ทัพ!”
“คนของข้าเอง มีอันใดรึ?”
เสียงใสชัดและเยียบเย็นแฝงด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่งดังมาจากอีกด้านหนึ่งของตรอกอย่างช้าๆ บุรุษผู้หนึ่งก้าวลงจากรถม้า สวมเสื้อคลุมสีเงินตัวยาว ใบหน้างดงามดั่งหยกสลักที่ประดับอยู่บนมงกุฎ ดวงตาสดใสเป็นประกายดั่งดวงดาว วางท่าโอหังยิ่งใหญ่ไม่มีผู้ใดเทียบเทียม
เขาเกิดมาหน้าตางดงามเกินกว่าผู้ใดจะละสายตาได้
แม้มองเพียงแวบเดียวก็รู้ได้ไม่ยากว่านั่นคือใบหน้าแม่พิมพ์ของเด็กแฝดทั้งสาม
ทุกคน ‘นายท่านที่นอนกับสาวใช้?!’
เหตุใดจึงไม่ใช่ชายอ้วนที่แต่งตัวบ้านๆ เล่า…
อิ่งสือซันเดินไปขวางกั้นสายตาของผู้คน
เหยียนหรูอวี้จ้องมองเยี่ยนจิ่วเฉาอย่างเหม่อลอย บุรุษรูปงามที่หาตัวจับยากผู้นี้ชื่อเสียงโด่งดังจนสตรีมากมายนับไม่ถ้วนอยากจะแต่งงานกับเขา ทว่าน่าเสียดายที่สตรีเหล่านั้นต้องผิดหวัง เพราะบุรุษผู้นี้เป็นของนาง
เหยียนหรูอวี้รวบรวมสติ พลันก้มหน้าลงแสดงให้เห็นความเจ็บปวดและอ่อนแอ “อวี้เอ๋อร์คารวะคุณชาย”
น้ำเสียงหวานหยาดเยิ้มของ ‘อวี้เอ๋อร์’ ทำให้อวี๋หวั่นขนลุกไปทั้งตัว
เยี่ยนจิ่วเฉารับการทักทายอย่างเฉยเมยและมองไปที่อวี๋หวั่นที่มีสีหน้าไม่สู้ดี
เหยียนหรูอวี้มองตามสายตาของเขา พลันรู้สึกเบิกบานใจ ทว่าภายนอกกลับตีหน้าเศร้าตำหนิตนเอง “ข้าไม่รู้ว่าคนผู้นั้นเป็นองครักษ์ของคุณชาย อวี้เอ๋อร์ล่วงเกินแล้ว ทว่าท่านองค์รักษ์อาจกำลังเข้าใจผิด สตรี…”
นางต้องการกล่าวว่าสตรีผู้นั้น แต่ทันใดนั้นนางก็นึกขึ้นได้ว่าอวี๋หวั่นเป็นผู้ที่ช่วยชีวิตเด็กทั้งสาม เยี่ยนจิ่วเฉาก็เคยพบนางที่หอหยกขาวมาก่อน
เหยียนหรูอวี้เปลี่ยนคำพูด “ข้าไม่กล้าปกปิดคุณชาย เมื่อวานนี้เด็กๆ หายตัวไป ข้าออกตามหาทั้งคืน ในที่สุดก็มาพบพวกเขาที่นี่ ข้าไม่คิดเลยว่าคนที่ลักพาตัวเด็กๆ ไปจะเป็นแม่นางอวี๋”
ลักพาตัว? ไม่ใช่แยกตัวมาหรือ? อวี๋หวั่นมองเหยียนหรูอวี้ ท่าทีของนางไม่เหมือนคนที่กำลังเสแสร้ง หรือว่า…
เยี่ยนจิ่วเฉากล่าวว่า “เจ้าหมายความว่านางลักพาตัวบุตรชายของคุณชายผู้นี้ไปหรือ?”
เมื่อเหยียนหรูอวี้ได้ยินน้ำเสียงที่อันตรายนั้น ก็รู้ทันทีว่าอวี๋หวั่นกำลังจะโชคไม่ดี นางเก็บกลั้นความดีใจไว้และกล่าวต่อเบาๆ “ใช่เจ้าค่ะ อวี้เอ๋อร์ไม่เข้าใจว่าเหตุใดแม่นางอวี๋ถึงทำเช่นนี้ เห็นว่านางเคยช่วยเด็กๆ ไว้ จึงคิดว่านางเป็นคนดี คาดไม่ถึงว่า…หรือว่าครั้งก่อนที่นางเข้าหาเด็กๆ เพราะมีจุดประสงค์อื่น?”
“จุดประสงค์อื่น?” เยี่ยนจิ่วเฉาเหล่มองด้วยสายตาอันตราย
สายตานั้นทำให้หัวใจของอวี๋หวั่นสั่นไหว รู้สึกถึงลางร้ายอย่างอธิบายไม่ถูก
เหยียนหรูอวี้กล่าวใส่ไฟด้วยน้ำเสียงสะอึกสะอื้น “นางไม่เพียงแต่ลักพาตัวเด็กไปเท่านั้น นางยังทำให้ท่านแม่ของข้าบาดเจ็บอีกด้วย ท่านแม่ของข้านอนสลบไม่รู้สึกตัวตลอดทั้งคืน…”
เยี่ยนจิ่วเฉามองอวี๋หวั่นและเอ่ยประชดประชัน “อดทนได้ดี เยี่ยมมาก เยี่ยมมาก!”
น้ำเสียงกัดฟันพูดของเขาทำให้หัวใจของเหยียนหรูอวี้แทบโบยบิน นางคิดว่าสตรีบ้านนอกจะถูกคุณชายเยี่ยนขุ่นเคือง และเกรงว่านางคงไม่รอดพ้นคืนนี้เป็นแน่!
เยี่ยนจิ่วเฉามองอวี๋หวั่นด้วยสายตาลึกซึ้ง และหันหลังเดินไปที่รถม้า “อิ่งสือซัน ไปจับตัวมาให้ข้า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หมอหญิงกับลูกลิงทั้งสาม [เล่ม2-3]