บทที่ 267 วิชานรกอมตะ
ลู่เสี้ยงหยางได้แต่วาดฝัน สิ่งสำคัญที่สุดในตอนนี้ อันดับแรกคือการเปิดดานเถือน ถึงจะฝึกวิชานรกอมตะได้ มีเพียงทางนี้เท่านั้น เขาจึงจะเป็นผู้ที่แข็งแกร่งได้
“ต่อจากนี้ ฉันจะบอกวิชาเปิดดานเถือนให้กับแก แกต้องตั้งใจฟังให้ดี จำเอาไว้ ฉันจะพูดแค่รอบเดียว ไม่พูดเป็นครั้งที่สอง” เทพเทียนหัวเอ่ยอย่างเคร่งครัด
ลู่เสี้ยงหยางหยักหน้า อย่างไร้คำพูด แต่ก่อนที่ตาแก่นี่สอนวิชาให้กับเขา ก็เป็นเช่นนี้ไม่ผิดเพี้ยน ไม่ว่าเรื่องอะไรก็จะพูดแค่รอบเดียวเท่านั้น ไม่เคยพูดซ้ำเป็นครั้งที่สองเลย
เทพเทียนยกน้ำชาขึ้นจิบ ก่อนที่จะเอ่ยเสียงเรียบ “การเปิดดานเถียน สิ่งสำคัญ คือการกลั้นลมหายใจ เพ่งสมาธิไปที่ดานเถียน จำเอาไว้ให้ดี จิตใต้สำนึกของคนเราเป็นเพียงภาพลวงตา ที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า แต่เมื่อฝึกจิตไปจนถึงจุดสูงสุด ก็สามารถเป็นอาวุธที่แหลมคมที่สุดได้”
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้ารับ ด้วยดวงตาร้อนผ่าว นี่คงเป็นอย่างที่ในหนังว่า การจู่โจมทางจิตใจ
ตอนนี้คนส่วนน้อยเท่านั้นที่เข้าถึงความสามารถพิเศษ จิตใจของพวกเขานั้นต้องแข็งแกร่ง เพียงแค่จิตใต้สำนึกก็สามารถทำให้ผู้อื่นตกอยู่ภายใต้การสลบไสลได้
“ในระหว่างที่เปิดดานเถียน สิ่งที่แกต้องทำก็คือ การเพ่งสมาธิ รวบรวมและควบคุมลมปราณที่อยู่ในร่างกายของแก เปิดช่องว่างสำหรับลมปราณในดานเถียน จากนั้นใช้วิชาที่ร่ำเรียนมา ทำให้ปราณแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ภายใต้การหมุนเวียนเช่นนี้ ศิลปะการต่อสู้ก็จะไปถึงขีดสุด” เทพเทียนหัวอธิบายอย่างชัดเจนให้ลู่เสี้ยงหยางได้เข้าใจ
หลังจากที่ลู่เสี้ยงหยางได้ยินเช่นนั้น ในที่สุดเขาก็เข้าใจ แท้ที่จริงแล้วร่างกายของเราทุกคนมีปราณที่ล้ำค่าซุกซ่อนอยู่ แต่ ไม่ใช่ทุกคนที่จะมีจิตใจแข็งแกร่ง ที่จะรวบรวมและควบคุมปราณเหล่านี้
โดยส่วนใหญ่แล้ว ร้อยละ99คนประชากรไม่สามารถสัมผัสถึงการมีอยู่ของปราณได้ อย่าว่าแต่รวบรวมและควบคุมเลย
เช่นนั้น ผู้ที่สามารถควบคุมปราณ เป็นผู้บำเพ็ญจิตนั้น หายากยิ่ง
แต่ลู่เสี้ยงหยางเชื่อมั่นในตนเอง
ยังไงซะเขาก็เคยบำเพ็ญจิตกับเทพเทียนหัวมาก่อน และได้ผลลัพธ์เล็กๆ น้อยๆ มีพื้นฐานที่ค่อนข้างดี
“โอเค ฉันพูดไปหมดแล้ว เริ่มเลยแล้วกัน” จบประโยคเทพเทียนหัว เขาส่งสัญญาณมือไปทางลู่เสี้ยงหยาง
ลู่เสี้ยงหยางพยักหน้า ก่อนที่จะเดินขึ้นไปยังชั้นสองของคฤหาสน์อย่างสนอกสนใจ ที่นี่ เป็นที่ที่เขาเอาไว้ฝึกศิลปะการต่อสู้ในอดีต
หากพูดอย่างเข้มงวดแล้วละก็ ที่นี่เป็นห้องลับขนาดใหญ่
หลังจากที่สู่เสี้ยงหยางเดินเข้าห้องลับ ชายหนุ่มขัดสมาธินั่งลงที่เตียงหิน ดุจดั่งเกจิเข้าฌานรวบรวมสมาธิ สัมผัสปราณในร่างกาย
แต่ในหัวของลู่เสี้ยงหยางขาวโพลน สัมผัสอะไรไม่ได้เลยแม้แต่น้อย
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ชั่วพริบตาได้ผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืน
ในระหว่างนี้ ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้ออกจากห้องลับเลยแม้ครึ่งก้าว เขาฝึกสัมผัสถึงการมีอยู่ของปราณอย่างตั้งใจ
ที่สุด เมื่อเข้าใกล้หัวค่ำ ลู่เสี้ยงหยางลืมตาขึ้น ความตั้งใจไม่ทำให้ผิดหวัง ภายใต้ความพยายามกว่าหลายสิบชั่วโมง ในที่สุดเขาก็สามารถสัมผัสถึงปราณอันล้ำค่าที่ซุกซ่อนอยู่ภายในร่างกาย
ฮ่าฮ่า ต่อจากนี้ก็ต้องควบคุมปราณเหล่านี้ให้ไปยังดานเถียน เพื่อเปิดดานเถียน
ลู่เสี้ยงหยางดีใจอย่างเก็บซ่อนไม่อยู่ ก่อนที่จะเข้าสู่ขั้นตอนต่อไปอย่างรวดเร็ว
ต่อจากนี้ การรอคอยให้ดานเถียนเปิด ในระหว่างนี้ การสัมผัสถึงปราณ เป็นเรื่องที่ยากที่สุด โดยส่วนใหญ่ร้อยละ99มักจะตายที่จุดนี้
หากพูดยากหน่อย ต้องการฝึกศิลปะการต่อสู้ ขึ้นอยู่กับอาจารย์ท่านเมตตาหรือไม่ หากอาจารย์ปู่ท่านไม่ปรานี ต่อให้คลำทางทั้งชาติก็สูญเปล่า
หลังจากที่ดานเถียนได้ถูกเปิดอย่างราบรื่น ลู่เสี้ยงหยางหยิบวิชานรกอมตะที่เทพเทียนหัวให้เอาไว้อย่างใจจดใจจ่อ เพื่อเริ่มฝึกฝนวิชา
แต่ไม่พูดไม่ได้เลย วิชานรกอมตะนี่สมแล้วที่เป็นวิชาที่สูงที่สุดของสำนักจิ่วโยว การปฏิบัติที่ถูกจดบันทึกเอาไวค่อนข้างซับซ้อนและล้ำลึก เขาไม่เข้าใจเลยแม้แต่น้อย
ลู่เสี้ยงหยางส่ายหน้า ความรู้ทางด้านการปฏิบัติของเขาน้อยเสียเหลือเกิน เสมือนกับนำบทเรียนของระดับอุดมศึกษาให้กับชั้นปฐมศึกษา ซึ่งพวกเขาไม่มีทางเข้าใจได้
ต่อให้เป็นเช่นนั้น ลู่เสี้ยงหยางก็ไม่ยอมแพ้ เขาจดจ่ออยู่กับนรกอมตะอย่างมุ่งมั่น
เวลาผ่านไปอีกหนึ่งวัน
ลู่เสี้ยงหยางใช้ชีวิตอยู่ในห้องลับกว่าสองวันสองคืน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ