บทที่ 286 สาวสวย หารือกันหน่อย
เมื่อได้ยินประโยคของจางกุ้ยจู๋ ลู่เสี้ยงหยางโมโหจนรู้สึกขบขัน นี่มันบ้าอะไรกัน ไร้ยางอายทั้งครอบครัว ถึงกับกล้าคิดที่จะรวบรถของตน
หลิวจิ้งเอ่ยด้วยสีหน้าดำทะมึน “พี่สะใภ้ รถคันนั้นเป็นน้ำพักน้ำแรงของลู่เสี้ยงหยาง ไม่ได้มาจากบ้านเราเอง”
“อะไรนะ? เขาซื้อเองงั้นเหรอ? เธอคิดจะโกหกใครกัน? ไอ้ไก่อ่อนนี่เนี่ยนะ เขาจะมีปัญญาซื้อรถราคาสิบกว่าล้านได้ยังไง? เหอะ หลิวจิ้ง ฉันว่าเธอไม่คิดที่จะยอมเงินให้กับเรามากกว่า ก็เลยตั้งใจสร้างเรื่องนี้ขึ้นมาล่ะสิ” จางกุ้ยจู๋เอ่ยอย่างดุเดือด
หลิวจิ้งส่ายหน้า เอ่ยด้วยน้ำเสียงราบเรียบ “ฉันไม่มีเหตุผลที่จะต้องโกหกเธอ แม้แต่รถที่ลูกสาวของฉันเย่สวนใช้อยู่ ลู่เสี้ยงหยางก็เป็นคนซื้อเช่นเดียวกัน
เย่สวนพยักหน้า “ใช่ค่ะ คุณป้า”
คำพูดเหล่านี้ จางกุ้ยจู๋และครอบครัวไม่มีทางเชื่อ พวกเขาสรุปเองว่านี่เป็นการร่วมแสดงละครของหลิวจิ้งและเย่สวน
“พอได้แล้ว ฉันไม่สนว่ารถนั่นจะเป็นของใคร ตอนนี้เราขาดอยู่อีกยี่สิบห้าล้าน เพื่อที่จะกลับไปสร้างบ้านที่ชนบท หลิวจิ้ง เธอต้องหาทางช่วยเราให้ได้ ไม่เช่นนั้น เธอก็ผิดสัจจะที่ให้ไว้ต่อหน้าหลุมศพของพ่อกับแม่” จางกุ้ยจู๋เอ่ยอย่างหยิ่งทะนง ราวกับออกคำสั่งต่อหลิวจิ้ง
หลิวจิ้งลำบากใจ เงินที่เล่นไพ่นกกระจอกทุกวันนี้ก็มาจากเย่สวนทั้งนั้น เธอเกรงใจหากต้องเอ่ยปากเอาเงินจากเย่สวน
เมื่อเห็นว่าหลิวจิ้งเงียบไป หลิวต้าจู้ไม่สามารถนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เขามัดมือชกด้วยหลักคุณธรรมทันที “หลิวจิ้ง อย่าลืมนะ เธอเคยให้คำมั่นเอาไว้ตอนคุณแม่ป่วยหนัก ว่าจะดูแลเราทั้งครอบครัว หากเธอทำไม่ได้ แม่ไม่ได้ไปสู่สุคติแน่ เช่นนั้นเธอจะถูกกล่าวหาว่าอกตัญญู”
ได้ได้ยินคำพูดของหลิวต้าจู้ ภายใต้ความลำบากใจ เธอได้แต่พยักหน้ารับ “ก็ได้ ฉันจะลองหาทางดู”
“แม่…..ท่าน” เมื่อเห็นว่าแม่ของตนตอบตกลงรับปาก เย่สวนโมโหจนแทบจะเป็นลม ครอบครัวหลิวต้าจู้มักใช้วิธีนี้ทุกครั้งไป ทำไมแม่ของเธอถึงได้ไม่ใจแข็งหัดปฏิเสธไปบ้าง
หากอยู่ในห้องโถงต่อไป เกรงว่าตนเองจะหัวใจวายตายไปเสียก่อน เย่สวนลากลู่เสี้ยงหยางกลับขึ้นมายังห้องนอน ด้วยการปิดประตูเสียงดัง
…..
วันที่สอง เย่สวนและลู่เสี้ยงหยางเดินทางมาที่สถาบันหลงเสิน
เมื่อเข้ามาในห้องเรียน ก็ได้พบกับเหล่านักเรียนมากมายจับกลุ่มกัน จับจ้องที่ไปโทรศัพท์มือถือ กำลังรับชมอะไรบางอย่าง
ลู่เสี้ยงหยางหยุดลงที่ที่นั่งของตน เพิ่งได้นั่งลง เพื่อนร่วมโต๊ะอย่างจางสู้เอียงไปทางเขาพร้อมเอ่ย “พี่หยาง พี่ได้เห็นดาวประจำสถาบันรึยัง?”
อะไรนะ? ดาวประจำสถาบัน?
ลู่เสี้ยงหยางมีสีหน้าฉงน “ไม่เคยได้ยินเรื่องนี้เลย”
จางสู้หัวเราะอย่างมีความสุข “ลองดูนี่สิ”
เขาเอ่ยพลางยื่นโทรศัพท์เข้ามา ลู่เสี้ยงหยางเลื่อนดูที่หน้าจอโทรศัพท์
ให้ตาย ที่แท้สถาบันได้คัดเลือกดาวทั้งหมดหกคน ประกอบไปด้วยชั้นปีหนึ่งสามคนและปีสองอีกสามคน
เย่สวนเองก็ได้รับการคัดเลือกด้วย เธอเป็นหนึ่งในดาวที่อยู่ชั้นปีหนึ่ง
ที่เหลืออีกสองคน ลู่เสี้ยงหยางไม่รู้จัก ส่วนดาวประจำสถาบันชั้นปีที่สองมีอยู่สองคนที่ลู่เสี้ยงหยางรู้จัก
คนแรกคือดาวประจำชั้นของเขากงหยู่หนิง คนที่สองคือหวังเสว่
เย่สวน หวังเสว่และกงหยู่หนิงเป็นสาวงามที่ยากที่จะได้พบเห็น ถูกคัดเลือกให้เป็นดาวประจำสถาบันก็สมควรแล้ว แน่นอน ที่เหลืออีกสามคนก็มีความงาม ที่หาได้ยากยิ่งเช่นเดียวกัน
ฮ่าฮ่า ลู่เสี้ยงหยางปลื้มปริ่ม หากคนพวกนี้รู้ ว่าดาวประจำสถาบันของภรรยาของเขาเอง คงทำให้พวกเขาอิจฉาตาร้อนไปตามๆ กัน
ในขณะที่ลู่เสี้ยงหยางส่องดาวประจำสถาบันบนหน้าจอ ฉินหยุนเฟยเดินผ่านเขาพอดี จึงเหลือบมองไปที่หน้าจอโทรศัพท์แวบหนึ่ง ก่อนที่จะหัวเราะออกมาอย่างเย็นชา “ลู่เสี้ยงหยาง ไก่อ่อนอย่างแก ก็ได้แค่เลียหน้าจอเท่านั้นแหละ ฮ่าฮ่า ต่อให้หนึ่งในดาวของสถาบันเป็นภรรยาของแก แกก็ไม่มีโอกาสแม้แต่ลูบไล้มือของเธอ”
คำพูดที่แดกดัน เขารู้ดี ว่าเย่สวนเป็นภรรยาของเขา น่าเสียดายที่หลายปีมานี้ไอ้หมอนี่ ไม่มีโอกาสแม้ลูบไล้มือของเธอด้วยซ้ำไป แดกดันเสียจริง ฮ่าฮ่าฮ่า
คำเหยียดหยามของฉินหยุนเฟย เพื่อนร่วมชั้นต่างหัวเราะไปตามๆ กัน
บ้าเอ๊ย ไอ้หน้าละอ่อนทั้งหลายนี่ทำไมถึงได้วอนนัก
ลู่เสี้ยงหน้าสีหน้าเย็นชาขึ้นมา ในขณะที่เขาคิดที่จะตอกกลับ เสียงออดเริ่มการเรียนการสอนดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ