หนุ่มเศรษฐีลึกลับ นิยาย บท 305

บทที่ 305 แอบอ้างผลงานคนอื่น สนุกไหม?

พฤติกรรมของลู่เสี้ยงหยาง ทำให้ทุกคนสับสนว่า ไอ้หมอนี่มันกำลังคิดอะไรกัน?

ไม่รู้ว่าเม็ดยาที่ปรุงคืออะไร ยังกล้าโยนลงไปในตู้ปลา จะใช้การกระทำเพื่อพิสูจน์ตนเองเหรอ?

แต่น่าเสียดาย มันไม่ได้ผล ไม่ว่าจะทำยังไงมันก็ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ เขาก็เป็นเขยแต่งเข้าที่ไร้ค่าอยู่ดี

หวังเจี้ยนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ แล้วพูดว่า “เดี๋ยวปลาทองในตู้มันจะตายหมดเลย พวกเราคอยดูก็แล้วกัน”

“ฮ่า ๆ ๆ!” คนส่วนใหญ่หัวเราะเสียงดังขึ้นมา จ้องมองไปที่ตู้ปลา

โจ่ฉินขมวดคิ้วจนเกือบเป็นเส้นตรง ถึงตอนนี้แล้วลู่เสี้ยงหยางยังมีความสงสัยในคำพูดของเธออยู่?

หันไปมองลู่เสี้ยงหยางทันที ด้วยใบหน้าที่เรียบเฉย พูดอย่างจริงจังว่า “ลู่เสี้ยงหยาง โปรดเข้าใจน่ะว่าเราสองคนฐานะต่างกัน ยาที่ฉันปรุงออกมามันมากกว่าข้าวที่นายกินเสียอีก นายเอาความมั่นใจมาจากไหน มาสงสัยคำพูดของฉัน? ”

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มแต่ไม่ตอบ ตอนนี้จะพูดอะไรก็คงไม่มีใครใส่ใจ และไม่มีใครเชื่อ ฉะนั้นก็รอดูผลการกระทำเป็นให้มันพูดแทนแล้วกัน และมันไป๋หมินหมินเจะมีผลสรุปในไม่ช้านี้

โจ่ฉินมองพฤติกรรมของลู่เสี้ยงหยาง ทำให้เธอรู้สึกว่า ลู่เสี้ยงหยางไม่เห็นอาจารย์อย่างเธออยู่ในสายตาเลย

ในมือถือไม้พลาสติกที่ใช้ลงโทษนักเรียน เดินไปหาลู่เสี้ยงหยางด้วยใบหน้าที่เย็นชา อยากจะลงโทษเขา

และในขณะนั้นเอง ไม่รู้ว่าใครอุทานขึ้นมา “โอ้สวรรค์ อาจารย์ท่านรีบมาดู มันเกิดอะไรขึ้นกับปลาทองในตู้ปลา?”

เมื่อได้ยินคำพูดนั้น โจ่ฉินรีบหันกลับไปมอง ชั่วพริบตาเดียวที่เธอมองไปที่ตู้ปลา ร่างกายของเธอก็แข็งทื่อ ดวงตาคู่งามเบิกกว้าง ไม่อยากจะเชื่อ

ช่วงเวลานั้น สิ่งที่เธอเห็นจากสายตามันเป็นเช่นนี้

สิ่งที่เห็นคือ ตู้ปลาที่ลู่เสี้ยงหยางโยนยาจู้หลิงลงไปนั้น ปลาทองทุกตัวกระโดดโลดเต้นอย่างสุดขีด กระโดดชนกระจกตู้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง จนได้ยินเป็นเสียงตูม ๆๆ เหมือนว่ามีคนเอาฆ้องไปทุบกระจกตู้

แม่งฉิบหาย! เป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?

นักเรียนทุกคนต่างตกตะลึงไปตามๆกัน ลู่เสี้ยงหยางเจ้าหมอนี่ เอายาจู้หลิงโยนลงในตู้ปลา สามารถทำให้ปลาทองกระฉับกระเฉงได้ถึงเพียงนี้เลย

เมื่อสักครู่ ยาจู้หลิงของดาวห้องที่ใส่ลงในตู้ปลา แค่ทำให้เหล่าปลาทองกระโดดโลดเต้นเท่านั้น

แต่ตอนนี้ ปลาทองเหล่านี้ในตู้ เหมือนกับเป็นบ้าไปแล้ว กระโดดชนกระจกตู้ทั้งแนวนอนและแนวตั้ง

“โอ้?! ” กงหยู่หนิงร้องด้วยความตกใจ จนปากเล็กของเธอกลายเป็นตัวโอ จนสามารถยัดพุทราเม็ดใหญ่เข้าไปในปากเธอได้เลย

หรือว่าลู่เสี้ยงหยางปรุงยาจู้หลิงสำเร็จแล้วใช่ไหม และสรรพคุณของเขาก็เหนือกว่าของเธอเสียอีก

โอ้สวรรค์ ไอ้หมอนี่มันรู้เคล็ดลับปรุงยา เขาเป็นใครกันแน่?

“เห้ย ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ได้?” ไป๋หมิ่นหมิ่นขยี้ตาอย่างไม่หยุด สงสัยว่าตนเองฝันไปหรือเปล่า ลู่เสี้ยงหยางที่เป็นแค่เขยแต่งเข้าที่ไร้ประโยชน์ มีฝีมือการปรุงยาที่สูงขนาดนี้

เพลี้ยง!

ใบหน้าของฉินหยุนเฟยเปลี่ยนเป็นสีเขียวแล้วก็กลายเป็นสีม่วง ไม่อาจยอมรับเรื่องที่น่ากลัวเรื่องนี้ได้ อารมณ์ตกใจสุดขีดนี้ ทำให้สองขาอ่อนแรง นั่งลงไปที่เก้าอี้ หายใจเร็วและหอบ จนทำให้เขาต้องอ้าปากเพื่อที่จะหายใจให้ทัน

“ไอ๊หยา เหมือนเห็นผีเลย” หวังเจี้ยนร้องด้วยความตกใจ จนเกือบจะฉี่ลาด

หากลู่เสี้ยงหยางมีเคล็ดลับในการปรุงยา แล้วก็ยาที่เขาปรุงออกมานั้น ดีกว่ายาที่ฉินหยุนเฟยปรุง ต่อไปอนาคตของเขาต้องรุ่งเรืองอย่างแน่นอน

แต่เสียดาย ที่ตอนแรกตนเองไม่ได้อยู่ข้างลู่เสี้ยงหยาง

จางสู้ ฟ้านเจา และเซียวมู่ไป๋ พวกเขาอึ้งก่อนใคร แต่หลังจากนั้นก็ได้ยิ้มออกมา มองไปที่ลู่เสี้ยงหยางด้วยความจริงใจ

แม่งฉิบหาย ลู่เสี้ยงหยางนี่เก่งจริง ๆ อยู่ในสภาวะเช่นนี้ยังสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้ ทำให้ทุกคนในห้องต่างมองไปที่เขา

ขณะนี้ ลู่เสี้ยงหยางยิ้มยียวน มองที่โจ่ฉิน แล้วพูดว่า “อาจารย์ ตอนนี้ท่านยังรู้สึกว่ายาจู้หลิงที่ผมปรุงนี้มีปัญหาอยู่หรือไม่?”

โจ่ฉินละอายใจจนพูดอะไรไม่ออก ก้มศีรษะลงไม่กล้ามองหน้าลู่เสี้ยงหยาง เหมือนดังกับว่า ภรรยาที่เลี้ยงชายอื่นอยู่ด้านนอก แล้วโดนสามีจับได้ยังไงอย่างนั้นเลย รู้สึกว่าในใจมีพายุถาโถมกระหน่ำอย่างแรง และกำลังคิดจะว่าจะอธิบายยังไงดี

เธอได้แต่ถามตนเองว่ายาจู้หลิงที่เธอนั้นปรุงขึ้นมา หากใส่ลงไปในตู้ปลา ก็ไม่สามารถทำให้เกิดผลที่น่าตื่นเต้นได้ขนาดนั้น

ถ้าหากเธอวิเคราะห์ไม่ผิด ยาจู้หลิงของลู่เสี้ยงหยาง มีสรรพคุณมากกว่ายาจู้หลิงขอเธอถึงสามเท่า

ห๊า!

เมื่อคิดถึงจุดนี้ โจ่ฉินสูดลมหายใจเย็นเข้าลึกๆ รู้สึกได้แค่ว่ามีลมเย็นพัดจากฝ่าเท้าแล้วขึ้นไปสู่หน้าผาก

ลู่เสี้ยงหยางยังอายุน้อยขนาดนี้ ฝีมือการปรุงยาช่างน่ากลัวยิ่งนัก เธอไม่กล้าคิด ว่าในอนาคตฝีมือจะน่ากลัวขนาดไหน

เมื่อเห็นว่าโจ่ฉินไม่พูดอะไร ลู่เสี้ยงหยางจึงกวาดสายตามองไปที่คนอื่น ๆ

เมื่อเขาจ้องมองไป ทุกคนต่างก้มหน้าลงไป ไม่มีใครกล้าสู้หน้าลู่เสี้ยงหยางเลยสักคน

จางสู้ ฟ้านเจา และเซียวมู่ไป๋ เฝ้าดูด้วยความตื่นเต้น แม่งฉิบหาย มันช่างยอดเยี่ยมมาก เมื่อกี้เจ้าพวกโง่เง่าเต่าตุ่นพวกนี้ยังประชดประชันลู่เสี้ยงหยางอยู่ แต่ว่าตอนนี้แม้แต่มองหน้าลู่เสี้ยงหยางก็ยังไม่กล้ามองเลย

สุดท้ายสายตาลู่เสี้ยงหยางไปหยุดอยู่ที่ฉินหยุนเฟย แล้วพูดด้วยเสียงเรียบ ๆ ว่า “เมื่อกี้นายได้พูดว่า หากฉันปรุงยาจู้หลิงได้สำเร็จแล้ว นายก็จะกินโต๊ะทดลองที่อยู่ตรงหน้านายใช่ไหม? ฉันดูแล้วตอนนี้นายเริ่มกินได้เลย”

เซียวมู่ไป๋อดไม่ได้ จึงหัวเราะออกมา ฮ่า ๆ แล้วพูดว่า “น้องหยุนเฟย เริ่มแสดงได้แล้ว”

ฟ้านเจาก็พูดต่อไปว่า “นายจะใช้มีดตัดให้มันเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้วค่อยกิน หรือจะกินมันลงไปทั้งโต๊ะ? ”

จางสู้พูดตรง ๆ ว่า “หากเขากินโต๊ะทดลองนี้หมดทั้งโต๊ะ ก็แน่นท้องตายกันพอดีเลย!”

ได้ยินคำพูดเหล่านี้ คนส่วนใหญ่ก็ไม่กล้าหัวเราะ แต่หากกลั้นหัวเราะไม่ได้ ก็ได้แต่แอบหัวเราะ

ไป๋หมิ่นหมิ่นเห็นเจ้าชายรูปงามตนเองเสียเปรียบ รู้สึกไม่พอใจ จ้องตาเขม็งไปที่ลู่เสี้ยงหยาง แล้วพูดว่า “นายอย่าทำเกินไป มันก็แค่ปรุงยาจู้หลิงได้แค่เม็ดเดียว มีอะไรดีล่ะ? ฉินหยุนเฟยกับดาวห้อง เขาสองคนก็ปรุงสำเร็จเช่นกัน เขาสองคนยังได้แสดงออกมาขนาดนี้ คิก ๆ เป็นกบในกะลาจริง ๆ ”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้ หน้าลู่เสี้ยงหยางก็บึ้งลงทันที ไป๋หมิ่นหมิ่นช่างโง่เง่าเต่าตุ่น เสือกไปสักทุกเรื่อง?

“เธอนี่ชอบเลียแข้งเลียขาฉินหยุนเฟยขนาดนี้เชียวเหรอ แข้งขาของเขาหอมหวานมากเหรอ?” ลู่เสี้ยงหยางมองไปที่ไป๋หมิ่นหมิ่น แล้วพูดประชดไปแบบไม่ไว้หน้า

“นาย!” ไป๋หมิ่นหมิ่น พูดได้แค่คำเดียว ก็สำลักจนพูดอะไรไม่ออก

“ฮึ่ม” ลู่เสี้ยงหยางพูดผ่านลำคอ มองไปที่ฉินหยุนเฟย แล้วพูดขึ้นว่า “นายเป็นเต่าหดหัวเหรอ? แพ้แล้วก็ได้แต่หลบอยู่ข้างหลังผู้หญิง”

คำพูดนี้ทำให้ฉินหยุนเฟยโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ เขาลุกขึ้นแล้วพูดว่า “แม่งฉิบหาย แกไอ้เขยแต่งเข้าสมควรตาย เกาะผู้หญิงกิน ยังมีหน้ามาว่าคนอื่น เชื่อหรือไม่ว่ากูสามารถฆ่าแกให้ตายได้”

ลู่เสี้ยงหยางทำหน้าเยือกเย็นแล้วพูดว่า “ใครฆ่าใครมันก็ไม่แน่หรอก ก่อนอื่น เพื่อไม่ให้คนอื่นหาว่านายเป็นคนพูดจากลับกลอก แล้วก็ดูหมิ่นนาย นายก็กินโต๊ะทดลองนี้ให้หมดเลย”

นี่!

ฉินหยุนเฟยอยากตายให้มันรู้แล้วรู้รอด เมื่อสักครู่ที่เขาพูดจาพร่ำเพรื่อ พนันกับลู่เสี้ยงหยาง ตอนนี้คนตั้งเยอะมองดูอยู่ ทำให้เขารู้สึกอับอายเสียหน้าเป็นอย่างมาก

คนถ่อยหวังเจี้ยนจ้องมอง คิดอะไรได้ในพริบตาเดียว หัวเราะแล้วพูดว่า “ลู่เสี้ยงหยาง นายอย่าทำเป็นหยิ่งยโส แอบอ้างผลงานคนอื่น สนุกนักหรือไง? เฮอ ๆ ตู้ปลาที่นายโยนยาจู้หลิงลงไปนั้น ก่อนหน้านั้นดาวห้องก็ได้ใส่ยาจู้หลิงของเธอลงไปก่อน ฉันสงสัยว่า อาจจะเป็นสรรพคุณของยาจู้หลิงของเธอ นายมันคนเล่ห์เหลี่ยม ตั้งใจโยนยาจู้หลิงลงไปที่ตู้ปลานั้น เพื่อจะได้ยืมสรรพคุณในตัวยาจู้หลิงของดาวห้อง”

อืม?

เมื่อได้ยินดังนั้น คนส่วนใหญ่ตาลุกวาวขึ้นมาทันที

แม่งฉิบ คำพูดนี้มีเหตุผล ลู่เสี้ยงหยางอาศัยสรรพคุณยาของดาวห้อง ยังกล้ามาแสร้งที่นี่

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ