บทที่ 386 เย็นวี่เจียงหนาน
ฟังคำขู่ของเย่หยุนเทาแล้ว ลู่เสี้ยงก็ยิ้มแล้วเอ่ยถามว่า “คุณมีความสามารถทำให้ผมตายได้งั้นเหรอ?”
ในขณะที่พูด เขายังกำหมัดแน่นไปด้วย
เปลือกตาเย่หยุนเทากระตุก เป็นการแจ้งเตือนว่า เขาไม่สามารถเอาชนะลู่เสี้ยงหยางได้ ก่อนหน้านี้เขาคิดว่าลู่เสี้ยงหยางสามารถรังแกได้ง่าย และเขาก็เคยเลือกทำแบบนั้นมาก่อน ผลสุดท้ายเขาถูกลู่เสี้ยงหยางตีจนฟันร่วงเต็มพื้น
เชี่ย! แม่งเอ๊ย ฉันจะมาจัดการแกทีหลัง
เย่หยุนเทาไม่กล้าที่จะบุ่มบ่ามไปชั่วครู่ เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความอัปยศมาสู่ตนเอง เขาทำท่าทางดูถูกดูแคลนลู่เสี้ยงหยางแล้วพูดพร้อมกับยิ้มร่ากับโอหยางรั่วสุ่ย : “รั่วสุ่ย ผมจัดเตรียมการเลี้ยงต้อนรับคุณไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้เราไปกันเถอะ”
โอหยางรั่วสุ่ยส่ายหัวและกล่าวขอโทษขึ้นมาว่า : “ขอโทษด้วยนะคะ หยุนเทา เย่สวนนัดฉันไว้ก่อนแล้ว ถ้างั้นพวกเราไว้คราวหน้านะคะ”
เย่หยุนเทาพูดอย่างไม่สนใจเลยแม้แต่น้อยว่า “ไม่เป็นไร โทรเรียกเย่สวนมาด้วยก็หมดเรื่องแล้วนิ ทุกคนล้วนแต่เป็นครอบครัวเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องมองว่าเป็นคนนอก”
พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ไม่ง่ายเลยที่โอหยางรั่วสุ่ยจะปฏิเสธได้อีกครั้งและมีสีหน้าลังเลเล็กน้อย
เย่หยุนเทาฉวยโอกาสหยิบมือถือออกมาและอธิบายเรื่องนี้ให้เย่สวนฟัง
เย่สวนเองก็ยากจะปฏิเสธเช่นกัน แต่ทำได้เพียงแค่ตอบตกลง
จากนั้นเย่หยุนเทาก็ตรงเข้าไปฉวยเอากระเป๋าของโอหยางรั่วสุ่ยมาจากมือของลู่เสี้ยงหยางแล้วยัดมันเข้าไปในรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ของเขา จากนั้นเขาก็พูดเชื้อเชิญโอหยางรั่วสุ่ยด้วยความเป็นสุภาพบุรุษสุดๆว่า : “รั่วสุ่ยขึ้นรถเถอะครับ คุณนั่งรถสปอร์ตขยะของลู่เสี้ยงหยาง มันจะลดคุณค่าตัวคุณนะ”
ลู่เสี้ยงหยางขับรถBMW M8 ถึงแม้ว่าจะเป็นซีรี่ส์รถสปอร์ต แต่เมื่อเทียบกับรถสปอร์ตอย่างเฟอร์รารี่แล้วรถสปอร์ตระดับกลางย่อมเทียบไม่ได้อย่างแน่นอน
หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง โอหยางรั่วสุ่ยก็พยักหน้าและเข้าไปในรถนั่งในรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ของเย่หยุนเทา
แน่นอนว่าไม่ได้เป็นเพราะเธอดูถูกรถ BMW M8ของลู่เสี้ยงหยาง แต่เพราะเธอไม่ต้องการให้ตัวเองเป็นสาเหตุทำให้ลู่เสี้ยงหยางและเย่หยุนเทามีความบาดหมางกันต่อไป ท้ายที่สุดแล้วถึงยังไงก็อยากให้ลู่เสี้ยงหยางมีชีวิตที่ดี
ถึงแม้ว่าในใจของเธอจะดูถูกพฤติกรรมเกาะผู้หญิงกินของลู่เสี้ยงหยาง แต่ท้ายที่สุดแล้ว ลู่เสี้ยงหยางก็เป็นสามีของเพื่อนที่ดีที่สุดของเธอ ถ้าลู่เสี้ยงหยางต้องอับอาย อย่างนั้นแล้วเย่สวนก็ต้องอับอายไปด้วย
เมื่อเห็นโอหยางรั่วสุ่ยนั่งอยู่บนรถสปอร์ตเฟอร์รารี่ของตัวเองแล้ว เย่หยุนเทาก็ยกนิ้วกลางให้ลู่เสี้ยงหยางแล้วเท้าก็เหยียบคันเร่งทันที รถเฟอร์รารี่บินตรงออกไปราวกับลูกศร
ลู่เสี้ยงหยางยิ้มและไม่พูดอะไร ในสายตาของเขา เย่หยุนเทาเป็นเพียงแค่ตัวตลกนิสัยไม่ดีคนหนึ่งเท่านั้นเองไม่ว่าเขาจะแสร้งทำยังไงก็ไม่มีผลต่ออารมณ์ของเขา
เช่นนี้จึงเปรียบได้ว่ามนุษย์เราจะต้องสนใจต่อการเสแสร้งของมดตัวนึงงั้นเหรอ?
สี่สิบนาทีต่อมา ลู่เสี้ยงหยางลงจากรถ
สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกประหลาดใจคือ สถานที่ที่เย่หยุนเทาเชิญโอหยางรั่วสุ่ยมากินข้าวครั้งนี้ คาดไม่ถึงว่าได้จองไว้ที่ร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง
ฮ่าๆ งานเลี้ยงรวมตัวของตระกูลเย่ครั้งล่าสุดเองก็จัดที่ร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง เขาจำได้ว่า เย่หยุนเทาทำท่าทางเสแสร้งสั่งไวน์แดงขวดละหนึ่งล้าน ผลสุดท้ายอาหารมื้อนั้นมีราคาหลายสิบล้าน ทำให้เขานิ่งอึ้งไปทั้งตัว
คิดไม่ถึงเลยว่า หมอนี่ยังไม่เข็ดหลาบยังคิดจะกลับมาสร้างภาพที่นี่อีก
ที่นี่เป็นถิ่นของเขา ถ้าหากตัวเขาไม่ทำอะไรสักหน่อยก็ต้องขอโทษเจ้านายของตัวเองจริงๆ
ก่อนหน้านี้โอหยางรั่วสุ่ยเคยมาที่ปินเหอ ย่อมที่จะรู้จักร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งว่าเป็นร้านอาหารระดับสูงสุดของเมืองปินเหอ ตอนนี้เธอรู้สึกประทับใจขึ้นมาไม่น้อย ดูเหมือนว่าเธอจะมีน้ำหนักในใจของคนตระกูลเย่อยู่มาก ดังนั้นพวกเขาถึงได้จองร้านอาหารที่นี่เพื่อเลี้ยงต้อนรับเธอ
เย่หยุนเทาเชี่ยวชาญในการสังเกตสีหน้าและคำพูดและรู้ความคิดของโอหยางรั่วสุ่ย ดังนั้นจึงยิ้มแล้วพูดว่า : “รั่วสุ่ย พวกเราจองห้องส่วนตัวของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งเอาไว้ให้คุณ บรรยากาศด้านในเงียบสงบมาก ถึงเวลาพวกเราจะได้คุยกันสบายๆ”
“อะไรนะคะ? คุณจองร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งงั้นเหรอ?” ดูเหมือนโอหยางรั่วสุ่ยจะแปลกใจเล็กน้อย เพราะห้องส่วนตัวของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง จะต้องมีบัตรVIPของทางร้านเท่านั้นถึงจะสามารถจองได้ และบัตรVIPของร้านมีจำนวนจำกัด ใครสามารถถือบัตรVIPนี้ได้ จะต้องเป็นชนชั้นสูงของเมืองปินเหออย่างแน่นอน
จากความเข้าใจของเธอเกี่ยวกับตระกูลเย่ ไม่น่าจะมีใครในตระกูลที่มีคุณสมบัติที่ว่านี้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ