หนุ่มเศรษฐีลึกลับ นิยาย บท 387

บทที่ 387 หลงเสน่ห์ผู้ชายเหี้ยๆ

หลังจากที่เย่หยุนเทาพูดคำเสแสร้งนั่นออกมา คนในตระกูลเย่หลายคนก็เริ่มประจบประแจงเขา

แต่เพราะอยู่ตรงหน้าโอหยางรั่วสุ่ย เขาจึงไม่ได้แสดงท่าทีลำพองใจเลยและพูดอย่างใจเย็นว่า : “มันไม่ได้มีอะไรน่าทึ่งเลย ครั้งหนึ่งตระกูลเย่ของพวกเราเป็นเพียงครอบครัวเล็กๆในเมืองปินเหอ ได้รับสายตาดูถูกเหยียดหยามจากผู้คนมากมาย นับตั้งแต่ตอนนั้นผมก็สาบานว่าจะทำงานหนัก เพื่อให้วันหนึ่งข้างหน้า ตระกูลเย่ของพวกเราจะสามารถยืนอยู่ในจุดสูงสุดหรือแม้แต่จุดสุดยอดของเจียงหนานทั้งหมด”

คำพูดนี้พูดด้วยน้ำเสียงที่ฮึกเหิมและกระตือรือร้น

คนในตระกูลเย่หลายคนขยี้ตา บ้าเอ๊ย วันนี้เย่หยุนเทากินยาผิดมาสินะ ถึงได้พูดได้อย่างมีระดับชนชั้นสูงขนาดนี้ แทบจะเหมือนฝึกซ้อมมายังไงยังงั้น รู้ๆกันอยู่ว่า หัวข้อตามปกติของเย่หยุนเทาไม่มีอะไรมากกว่าการกินดื่มเที่ยวเล่นสนุกสนานและป้อสาว

โอหยางรั่วสุ่ยก็ประหลาดใจเช่นกัน การได้เห็นเย่หยุนเทาในวันนี้ ทำให้เธอรู้สึกแตกต่างออกไปอย่างสิ้นเชิงจากที่เธอเคยรู้สึก

เย่หยุนเทาที่เคยเป็นนั้นมีลักษณะตามแบบฉบับของเพลย์บอยและหนุ่มเจ้าสำราญ แต่ว่าเย่หยุนเทาในตอนนี้กลับเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น เหมือนกับบุคคลที่ประสบความสำเร็จแล้วอย่างสูง

ลู่เสี้ยงหยางที่อยู่ถัดไปทนดูต่อไปไม่ไหวแล้ว เจ้าเย่หยุนเทาคนนี้แสดงเก่งเกินไป เจ้าหมอนี่อยากจะเอาชนะโอหยางรั่วสุ่ยสินะ? ตอนนี้ถึงได้ทำตัวเองให้ดูสวยงามต่อหน้าเธอ

“ฮ่าๆๆ” มีคนหนึ่งกลั้นขำไม่อยู่แล้วหัวเราะออกมา

เมื่อได้ยินเสียงหัวเราะ เย่หยุนเทารู้สึกร้อนตัวขึ้นมาบ้างแล้ว เขาลุกขึ้นยืนพร้อมกับตบที่ต้นขา เขาจ้องลู่เสี้ยงหยางอย่างโกรธเคืองแล้วด่าด้วยความไม่พอใจอย่างมากว่า : “เป็นเชี่ยไรวะ? สถานที่ระดับพรีเมียมอย่างนี้ แกมีสิทธิ์จะเอ่ยปากพูดงั้นเหรอ?”

ว้าว!

สายตาทุกคนต่างหันไปมองลู่เสี้ยงหยาง

ในตอนนี้เอง ทุกคนในตระกูลเย่ถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนอง ที่แท้ลูกเขยแต่งเข้าบ้านคนนี้ก็อยู่ด้วย

ใบหน้าของท่านย่าเย็นเยียบราวน้ำแข็ง เธอต้องการขับไล่ลู่เสี้ยงหยางเหลือบไรของตระกูลออกไปตั้งนานแล้ว แต่ว่าน่าเสียดายที่ตอนนี้เย่สวนหลงเสน์เจ้าหมอนี่และผูกพันกับเขาอย่างลึกซึ้งไปแล้ว

เย่ซวงจ้องไปที่ลู่เสี้ยงหยางแล้วกล่าวตำหนิอย่างแอบแฝงบางอย่างว่า “ที่แท้คุณอยู่ที่นี่ด้วยเหรอเนี่ย ถ้าไม่ใช่เพราะรัศมีของคุณโอหยาง ชั่วชีวิตของนายไม่มีทางจะได้กินข้าวในสถานที่ไฮโซโก้หรูแบบนี้หรอก ตอนนี้ยังไม่รับคุกเข่าลงและแสดงคำขอบคุณคุณโอหยางอีก”

โดยไม่รอให้ลู่เสี้ยงหยางแสดงท่าทีอะไร เย่เชี่ยนก็รับคำแล้วพูดต่อ “หยุนเทา วันนี้เจ้าคนหน้าด้านนี่ก็ตามมาด้วยเหรอ? คุณเองก็เช่นกัน โอกาสสำคัญขนาดนี้ ยังจะใจอ่อนพาเศษขยะมาด้วยได้ยังไง สิ่งนี้ไม่ส่งผลกระทบต่ออารมณ์ของคุณโอหยางไปแล้วเหรอ”

เย่หยุนเทาส่งเสียงคำรามในจมูก และพูดอย่างเดือดดาลว่า : “เจ้าหมอนี่ไม่รู้จักประเมินตนเลยแม้แต่นิด แล้วก็ไปรับรั่วสุ่ยด้วย แถมยังอยากจะเลี้ยงต้อนรับรั่วสุ่ย ผมเดาได้เลยว่าเขาจะต้องพารั่วสุ่ยไปกินที่แผงขายของข้างทาง โชคยังดีที่ผมหยุดเขาได้ทันเวลา เรื่องน่าเศร้าเช่นนั้นจึงไม่ได้เกิดขึ้น”

หลังจากพูดเช่นนี้จบ เขาค่อนข้างภาคภูมิใจในตัวเอง หากเทียบกับตัวเขาในตอนนี้แล้ว ลู่เสี้ยงหยางนั้นอ่อนแอกว่าเขาโดยสิ้นเชิง

ฮ่าๆ แต่ว่าก็ต้องขอบคุณเจ้าโง่ลู่เสี้ยงหยางคนนี้ ถ้าไม่มีเขาในฐานะกระเบื้องหินปูทาง แล้วตัวเขาจะได้แสดงความสามารถที่โดดเด่นได้อย่างไร

ลู่เส้ยงหยางยิ้มโดยไม่พูดอะไรสักคำ เตรียมพร้อมดูการแสดงละครของเย่หยุนเทาอย่างเงียบๆ เขาอยากดูว่าในวันนี้เย่หยุนจะสามารถตอแหลได้อย่างสมบูรณ์แบบหรือเปล่า

และเมื่อเห็นว่าลู่เสี้ยงหยางไม่พูดอะไร คนตระกูลเย่ก็ไม่สนใจแล้วเช่นกันที่จะโจมตีเขาอีกต่อไป และทำการพูดคุยหัวข้ออื่นๆทีละหัวข้อ แต่ทว่าหัวข้อเหล่านี้ก็ยังคงวนเวียนอยู่กับโอหยางรั่วสุ่ย ต่างชื่นชมเธอเป็นเสียงเดียว

เวลาต่อมา จู่ๆท่านย่าก็นึกอะไรออกบางอย่าง เธอมองเย่หยุนเทาแล้วพูดว่า : “หยุนเทา หลานมีเพื่อนหลายคนใช่ไหม? นัดพวกเขามาตอนนี้เลยสิ มานั่งสักครู่แล้วกินข้าวด้วยกัน”

ความคิดของท่านย่านั้นเรียบง่ายอย่างมาก เธอไม่อยากจะต้องเสียโอกาสได้มากินข้าวให้ห้องส่วนตัวระดับพรีเมียมที่สุดของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งไปโดยเปล่าประโยชน์

เนื่องจากช่วงระยะเวลาก่อนหน้านี้ การวางแผนที่พลาดเกือบจะทำให้ตระกูลเย่ต้องล้มละลาย ท่านย่าขอให้เย่หยุนเทาโทรเรียกเพื่อนของเขามากินข้าวก็เพราะต้องการใช้ห้องส่วนตัวระดับพรีเมียมที่สุดของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งแห่งนี้มาเสแสร้งแสดงละคร

เพื่อทำให้คนเหล่านั้นได้เห็นความแข็งแกร่งของตระกูลเย่ แม้แต่ห้องส่วนตัวระดับพรีเมียมที่สุดของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์ก็ยังเอามาได้แล้วยังต้องกังวลถึงความร่วมมือกับพวกเขาว่าจะไม่ทำเงินอีกงั้นเหรอ?

เย่หยุนเทาเข้าใจโดยทันทีแล้วหยิบมือถือออกมาทีละเครื่องโทรหาคนที่เขาประจบประแจงมาโดยตลอด แต่คนที่โทรหาก็ไม่ได้ให้ความสนใจเลย เดิมทีคนเหล่านี้ล้วนแต่ต้องการปฏิเสธคำเชิญของเย่หยุนเทา แต่เมื่อได้ยินว่า เป็นการกินข้าวที่ห้องส่วนตัวเย็นวี่เจียงหนานของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง พวกเขาก็เกิดความลังเล

ให้ตายเถอะ ห้องส่วนตัวธรรมดาของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง พวกเขายังจองไม่ได้เลย ไอ้เจ้าเย่หยุนเทาคนนี้กลับจองห้องส่วนตัวชั้นยอดของร้านได้ นี่มันเป็นเรื่องเหลือเชื่อจริงๆ

มันคือการยอมรับถึงความแข็งแกร่งโดยสิ้นเชิง

ไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธเย่หยุนเทา คนเหล่านี้ต่างตอบรับทีละคน แม้แต่น้ำเสียงในคำพูดของพวกเขายังเปลี่ยนเป็นมีความเคารพอย่างมาก

ล้อเล่นน่า ในเมืองปินเหอ คนที่สามารถจองห้องส่วนตัวเย็นวี่เจียงหนานได้มีไม่เกินฝ่ามือข้างหนึ่งอย่างแน่นอน

จากนั้นหลังจากที่วางสายสุดท้ายแล้ว เย่หยุนเทารู้สึกสบายใจอย่างมาก ให้ตายเถอะ พวกคนเมื่อกี้นี้ ปกแล้วไม่เคยที่จะสนใจตัวเขาเลย แต่พวกเขาที่เพิ่งจะอยู่ในสาย แทบจะแลบลิ้นเลียเขาอยู่แล้ว การแสดงนี้ถือว่าใช้ได้

ในไม่ช้าเสียงฝีเท้าก็ดังขึ้นที่ด้านนอกห้องส่วนตัวเย็นวี่เจียงหนาน แล้วเย่สวนก็เดินเข้ามา

เพิ่งจะมองเห็นเย่สวนครั้งแรก ถึงแม้จะเป็นโอหยางรั่วสุ่ยแต่แสงสว่างสดใสก็ส่องมาถึงตรงหน้า เย่สวนในวันนี้สวมชุดเดรสวันพีซแบบกระโปรงยาวสีขาวและสวมรองเท้าส้นสูงคริสตัลใสไว้ใต้เท้า รูปร่างของเธอจึงดูสูงและพื้นหลังของรองเท้าส้นสูงทำให้หุ่นดูเพรียวมากขึ้นอย่างชัดเจน

เส้นโค้งเว้าที่ประณีตสวยงามนี้ ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะอธิบายว่าเป็นรูปร่างของปีศาจ และยิ่งไปกว่านั้นยังมีอีกอย่างหนึ่งที่ใกล้เคียงความสมบูรณ์แบบคือใบหน้าของนางฟ้าที่สวยงามจนร่ำลือทั้งเมือง สิ่งนี้ทำให้โอหยางรั่วสุ่ยรู้สึกอิจฉาขึ้นมาเล็กน้อย

เย่สวนสวยเกินไปแล้ว

น่าเสียดายที่ยังมีข้อบกพร่องในความงาม นั่นก็คือเธอแต่งงานกับเศษสวะที่ไร้ความสามารถ เธอเป็นกะหล่ำปลีดีๆที่ถูกหมูกินไปเสียแล้ว

เมื่อคิดถึงตรงนี้แล้ว โอหยางรั่วสุ่ยก็จ้องไปที่ลู่เสี้ยงหยางโดยไม่รู้ตัว สีหน้าที่แสดงออกเต็มไปด้วยความไม่พอใจ

ลู่เสี้ยงหยางเห็นความไม่พอใจของเธอโดยบังเอิญ อดไม่ได้ที่จะรู้สึกมึนงง ให้ตายเถอะ เราก็นั่งของเราอยู่ดีๆ ไม่ได้ยั่วโมโหเธอเลย ทำไมสายตาของเธอถึงทำให้คนรู้สึกไม่มีความสุขได้ขนาดนี้

เชี่ย! อย่ามาดูถูกกันให้มากนัก

หลังจากที่เย่สวนนั่งลงแล้ว โอหยางรั่วสุ่ยก็พูดคุยอย่างมีความสุขขึ้นมาทันที

มองเห็นโอหยางรั่วสุ่ยพูดคุยอย่างอย่างตื่นเต้นกับเย่สวนแล้ว คนของตระกูลเย่หลายคนรู้สึกไม่พอใจ

เย่ซวงมองเย่สวนแล้วพูดพร้อมกับยิ้มเยาะว่า : “เย่สวน วันนี้เธอไม่ได้ให้เงินค่าขนมสักสามสี่ร้อยเหรียญกับลู่เสี้ยงหยางเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะหยุนเทา คุณโอหยางก็จะถูกลู่เสี้ยงหยางพาไปที่แผงขายของข้างทางกินอาหารขยะแล้ว”

อะไรนะ?

ได้ยินเช่นนี้แล้ว เย่สวนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย ลู่เสี้ยงหยางไม่ได้บอกกับตนเองไว้แล้วหรอกเหรอ? ว่าเขาจองร้านอาหารไว้แล้ว หลังจากรับโอหยางรั่วสุ่ยกลับมาแล้วก็จะพาทุกคนไปกินข้าวด้วยกันไม่ใช่เหรอไง?

หรือว่าเงินของลู่เสี้ยงหยางใช้ซื้อบ้านไปจนหมดแล้ว ดังนั้นจึงต้องพาโอหยางรั่วสุ่ยไปกินข้าวที่แผงขายของข้างทาง

ขณะที่คิดอยู่นั้น เธอมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางแวบหนึ่งโดยไม่รู้ตัว

ลู่เสี้ยงหยางยิ้มบางๆ ทันใดนั้นก็พูดคำพูดที่สะเทือนเลือนลั่นจนน่าตกใจว่า “เมียจ๋า คุณอย่าไปฟังเย่ซวงพูดพล่ามนักเลย ร้านที่ผมจองไว้ก็คือห้องส่วนตัวของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งเช่นกัน”

อะไรนะ? ห้องส่วนตัวของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งงั้นเหรอ?

คนทั้งหลายตระกูลเย่ต่างพากันตกตะลึง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ