หนุ่มเศรษฐีลึกลับ นิยาย บท 388

บทที่ 388 ภัยคุกคาม

คำพูดของลู่เสี้ยงหยางทำให้หลายๆคนในห้องส่วนตัวพากันแปลกใจอยู่ครู่หนึ่ง

ต่อมา จนเมื่อพวกเขามีสติกลับคืนมาแล้ว ขณะตอนที่มองดูลู่เสี้ยงหยาง บนหน้าก็แสดงออกถึงถ้อยคำเย้ยหยันมากมาย

เจ้าหมอนี่มันขี้โม้จริงๆ อยากให้ตัวเองมีความสำคัญมากถึงขั้นกล้าคุยโวอย่างไร้ยางอายว่าเขาก็จองห้องส่วนตัวที่ร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งด้วยเช่นกัน

แต่คนปกติทั้งหมดต่างรู้กันว่าถ้าหากต้องการจองห้องส่วนตัวของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง คุณต้องมีบัตรVIP

เศษสวะอย่างลู่เสี้ยงหยาง มีสิทธิ์อะไรถึงได้ครอบครองบัตร VIPของร้านล่ะ?

เย่หยุนเทาหัวเราะชอบใจเสียงดังและพูดเยาะเย้ยว่า “ไอ้หนู แกช่วยโม้ให้มันเหมือนจริงหน่อยได้ไหม? ฉันว่าพวกเราทุกคนในครอบครัวต่างก็รู้ว่าแกมีความสามารถมากแค่ไหน แกเป็นแค่เศษสวะเกาะผู้หญิงกินคนหนึ่ง อย่ามาพูดโม้อย่างไม่มีความละอาย โอเคไหม?”

ลู่เสี้ยงหยางไม่พูดอะไร

เย่ซวงก็พูดโจมตีตามมาว่า : “อย่ามาพูดว่าจองห้องส่วนตัวที่ร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง คนอย่างนายจะเชิญทุกคนไปกินข้าวซักมื้อที่โซนธรรมดาข้างนอกยังทำไม่ได้เลย นายคิดว่าการพูดไร้สาระโดยไม่ใช้สมองคิดและพูดเพ้อเจ้อจะทำให้นายรู้สึกได้ถึงการมีตัวตนงั้นเหรอ? น่าขำชะมัดเลย”

เย่เชี่ยนเองก็ยิ้มแล้วพูดใส่สีตีไข่ลงไปอีกว่า “นี่คงไม่ใช่สไตล์ของพี่เขยมาตลอดเลยใช่ไหม? ฮ่าๆ เย่สวนเธอชอบประเภทนี้เหรอ ไม่มีทาง”

สีหน้าการแสดงออกบนใบหน้าของท่านย่ามืดมนถึงขีดสุด เพราะกลัวว่าลู่เสี้ยงหยางจะส่งผลกระทบต่อสภาวะอารมณ์ของโอหยางรั่วสุ่ย จึงพูดกับโอหยางรั่วสุ่ยทันทีว่า : “คุณโอหยางลู่เสี้ยงหยางยากจนขนาดไหน เป็นคนนิสัยยังไงหนูก็รู้ เขาชอบทำตัวโดดเด่น ที่เขาคุยโม้เมื่อกี้นี้ หนูมองว่าเป็นเรื่องตลกก็พอ หนูอย่าได้เอามาใส่ใจ”

โอหยางรั่วสุ่ยถอนหายใจอยู่ในใจแล้วพยักหน้า ไม่ได้เจอมาหลายปี ลู่เสี้ยงหยางไม่เพียงแค่นิสัยไม่เปลี่ยน ยิ่งไปกว่านั้นยังพูดจาขี้โม้หนักยิ่งกว่าเดิม ไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมเย่สวนถึงได้ยังเลี้ยงดูขยะเช่นนี้เอาไว้ ถ้าเปลี่ยนเป็นเธอ เธอหย่าไปนานแล้ว

ยังมีผู้ชายดีๆของเมืองปินเหออีกมากที่ยังรอเย่สวนอยู่นะ

ทันใดนั้นเย่สวนก็เกิดความสงสัยในสิ่งที่ลู่เสี้ยงหยางพูด มันไม่ใช่เรื่องจริงสินะ? ถ้าเปลี่ยนเป็นก่อนหน้านี้ เธอไม่ลังเลเลยที่จะคิดว่าลู่เสี้ยงหยางกำลังโกหกและพูดจามั่วซั่วเพราะอยากทำตัวโดดเด่น แต่ว่าแม้แต่วิลล่า888บนยอดเขาหลงซานลู่เสี้ยงหยางยังสามารถซื้อได้ การจองห้องส่วนตัวของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง น่ากลัวว่าจะสามารถทำได้เช่นกัน

แต่ทว่าการจองห้องส่วนตัวของที่นี่ จำเป็นจะต้องมีบัตรVIPของร้านอาหาร แต่ตัวเธอไม่เคยเห็นบัตร VIP บนตัวลู่เสี้ยงหยางมาก่อนเลย

ลู่เสี้ยงหยางยังคงไม่พูดอะไร เขาหยิบมือถือออกมาแล้วส่งข้อความออกไป

และในเวลาเดียวกัน ด้านนอกของห้องส่วนตัวเย็นวี่เจียงหนานมีเสียงความวุ่นวายดังขึ้น

ทุกคนเงยหน้าขึ้นก็มองเห็นชายหนุ่มแต่ละคนสวมชุดสูทใส่รองเท้าหนังเป็นประกายส่องสว่างเดินอย่างเร่งรีบเข้ามา

คนเหล่านี้ล้วนแต่เป็นคนที่ได้รับเชิญให้มาทางโทรศัพท์จากเย่หยุนเทาเมื่อสักครู่นี้

และเมื่อเข้าในภายในห้องส่วนตัวแล้ว คนเหล่านี้ต่างพากันตกตะลึงว่า ที่แท้ห้องส่วนตัวระดับไฮเอนด์ของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งมีหน้าตาเช่นนี้เอง

ฮ่าๆ วันนี้ต้องขอขอบคุณเย่หยุนเทาที่ให้พวกเขานับได้ว่าเป็นบุคคลที่ได้เปิดโลกกว้างแล้ว

เย่หยุนเทามองไปที่คนเหล่านี้ เพราะเป็นการจงใจเสแสร้ง ดังนั้นเขาจึงวางฟอร์มอย่างมาก เขาลุกขึ้นมา ทักทายคนเหล่านี้อย่างสบายๆแล้วนั่งแยกตัวออกมา

พูดตามตรง ถึงแม้ว่าคนเหล่านี้จะเป็นลูกชายคนโตของครอบครัวที่ร่ำรวย แต่ก็เป็นครั้งแรกที่ได้มายังสถานที่ระดับไฮเอนด์ขนาดนี้ ดังนั้นตอนที่นั่งลงเก้าอี้ ทุกคนต่างระมัดระวังราวกับว่ามีสว่านอยู่บนเก้าอี้ เมื่อทิ้งน้ำหนักนั่งลงไปแล้วจะเจาะเข้ามาในบั้นท้ายของพวกเขา

หลังจากประหลาดใจเช่นนั้นอยู่หลายวินาที ถังจวิ้นหนึ่งในกลุ่มก็ไม่สามารถยับยั้งความอยากรู้อยากเห็นในใจเอาไว้ได้และพูดอย่างระมัดระวังว่า : “คุณชายหยุนเทา พวกเราต่างรู้กันว่า การจองห้องส่วนตัวระดับไฮเอนด์ของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง มันเป็นเรื่องยากอย่างมาก คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะมีความสามารถนี้”

เมื่อได้ยินคำพูดนี้แล้ว เพื่อนหลายคนที่เพิ่งจะเดินเข้ามาล้วนมองไปที่เย่หยุนเทาและหวังว่าจะได้รับคำตอบจากเขา

หางของเย่หยุนเทาแทบจะชี้ขึ้นไปบนฟ้าแล้ว เขาพูดอย่างเรียบๆว่า : “จองห้องส่วนตัวเย็นวี่เจียงหนานของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งอาจจะเป็นเรื่องที่ยากมากสำหรับคนนอก แต่สำหรับผมเย่หยุนเทาแล้ว เพียงแค่พูดเรื่องนี้ประโยคเดียว ห้องส่วนตัวเย็นวี่เจียงหนานสามารถเปิดให้ผมได้ตลอดเวลาเพราะผมกับเจ้าของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งนั้นเราต่างมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันอย่างยิ่ง ต่อจากนี้ถ้าหากพวกคุณต้องการจองก็โทรหาผมได้โดยตรง ผมสามารถช่วยพวกคุณจองได้”

อะไรนะ?

ทันทีที่พูดคำนี้ออกมา ถังจวิ้นและคนอื่นๆก็ประหลาดใจจนอ้าปากค้าง ดวงตาแทบจะถลนออกมา

เจ้าของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่ง จะต้องเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ไม่เป็นสองรองใครอย่างแน่นอน เพียงแค่ไอออกมาโดยไม่ตั้งใจ เมืองปินเหอก็เกิดแผ่นดินไหวได้แล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าเย่หยุนเทาจะมีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับเขา ดูเหมือนว่านับแต่นี้ตระกูลเย่จะผงาดขึ้นมาแล้ว

ในอดีตพวกเขาเหล่านี้ดูถูกดูแคลนตระกูลเล็กๆอย่างตระกูลเย่อยู่ในใจ แต่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว พวกเขาทุกคนต้องการสร้างความสัมพันธ์กับเจ้าของเจ้าของร้านอาหารรอยเอิลเบอร์หนึ่งผ่านทางเย่หยุนเทา

ด้วยการมีวิสัยทัศน์เช่นนี้ ถังจวิ้นรอให้คนเอ่ยปากทีละคน : “คุณชายหยุนเทา ตอนนี้ตระกูลถังของพวกเรายังมีสัญญาความร่วมมือมูลค่าหนึ่งร้อยล้านที่ยังไม่ได้ลงนาม ถ้าคุณไม่รังเกียจ ตระกูลถังของพวกเราตัดสินใจที่จะร่วมมือกับตระกูลเย่ของคุณ”

“ฮ่าๆ คุณชายหยุนเทา พวกเราตระกูลปี้เองก็มีสัญญาความร่วมมือมูลค่า80ล้านเหรียญนะครับ คุณสามารถพิจารณาความร่วมมือได้นะครับ”

“เดี๋ยวๆ คุณชายหยุนเทา ตระกูลจูของเราเองก็มีสัญญาความร่วมมือมูลค่า150ล้าน”

…….

ในเวลานี้ คนเหล่านี้ที่ปกติวางตัวสูงส่งเหนือมวลชนและพวกคุณชายที่ร่ำรวยนี้ไม่เคยมองเย่หยุนเทาอยู่ในสายตา ทุกคนเริ่มพูดจาประจบสอพลอเย่หยุนเทาอย่างไม่อาย

ใบหน้าของเย่หยุนเทาเต็มไปด้วยความตื่นเต้น และนึกสงสัยว่าเขากำลังฝันไป ก่อนหน้านี้เป็นเขาทั้งนั้นที่จะต้องไปคอยเลียหน้าเลียตาขอร้องใครสักคน แต่ตอนนี้มันกลับกันแล้ว ฮ่าๆ มันเจ๋งมากที่ได้เห็นคนเหล่านี้พูดจาอย่างเคารพนบนอบเช่นนี้

เขาโบกมือทันทีและรังเกียจที่จะขอความคิดเห็นของหญิงชราแล้วเขาก็ตกปากรับคำทั้งหมด

ถึงแม้ว่าท่านย่าจะไม่พอใจกับสไตล์การทำงานข้ามหน้าข้ามตาเช่นนี้ของเย่หยุนเทา แต่ว่าเย่หยุนเทาที่กำลังยิ้มแย้มและสนทนานั้นอยู่ในระหว่างการเซ็นสัญญาความร่วมมือหลายร้อยล้านเหรียญให้กับตระกูลเย่ เธอจึงรู้สึกปลื้มใจอีกครั้ง

ดูเหมือนว่าเย่หยุนเทาหลานชายคนโตคนนี้จู่ๆก็เริ่มมีความคิดความอ่านขึ้นมาแล้ว ต่อจากนี้ภายใต้การดูแลของเขา ตระกูลเย่จะต้องก้าวไปที่จุดสูงสุดอันใหม่

เหอะๆ เนื่องจากตอนนี้ตระกูลเย่ได้ปรากฏคนที่สามารถเป็นผู้นำได้แล้ว ถ้าอย่างนั้นการมีอยู่ของเย่สวนก็ไม่มีความจำเป็นอีกต่อไป

หญิงชราเริ่มครุ่นคิดอย่างรวดเร็วว่าควรจะเตะเย่สวนออกจากบริษัทอีกรอบอย่างไรดี

ท้ายที่สุดแล้วก่อนหน้านี้เพื่อใช้ประโยชน์เย่สวนจึงยอมให้ตระกูลเย่กรุ๊ปร่วมมือกับหยูเม่ยหยินกรุ๊ปอีกครั้ง หญิงชราได้ให้เงื่อนไขที่ดีเป็นพิเศษกับเย่สวน โดยเย่สวนสามารถเข้าร่วมกับบริษัทโดยไม่ต้องใช้เงินเลยและยังถือหุ้นในมือถึง 30% สิ่งนี้ค่อนข้างเป็นอันตรายต่อตระกูลเย่

โอหยางรั่วสุ่ยยิ่งมองก็ยิ่งประหลาดใจ ตอนนี้เย่หยุนเทาทรงอิทธิพลขนาดนี้เลยเหรอ? ยังไม่ได้เริ่มมื้ออาหารก็มีการเจรจาสัญญามูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญแล้ว

ความสามารถแบบนี้ น่ากลัวว่าแม้แต่เธอก็เทียบไม่ได้

“น่าสนใจจัง ดูเหมือนว่าหลังจากนี้ฉันจะต้องเปลี่ยนแปลงมุมมองที่มีต่อเย่หยุนเทาเสียแล้ว” โอหยางรั่วสุ่ยคิดในใจ ขณะที่มองเย่หยุนเทา ภายในดวงตาก็มีสีสันมากมาย

คิ้วของเย่สวนแทบจะบิดจนกลายเป็นเส้นตรง เย่หยุนเทาสามารถจองห้องส่วนตัวเย็นวี่เจียงหนานได้ นั่นก็เพียงพอที่จะทำให้เธอประหลาดใจแล้ว คิดไม่ถึงเลยว่าภายในเวลาไม่กี่นาทีก็จะมีการเซ็นสัญญาร่วมหุ้นมูลค่าหลายร้อยล้านเหรียญ

สิ่งนี้ได้ก่อให้เกิดภัยคุกคามต่อตำแหน่งประธานรักษาการของเธอเรียบร้อยแล้ว

หลังจากที่เย่ซวง เย่เชี่ยนและพวกเขาคนอื่นๆตกตะลึงกันไปหมดแล้ว ก็รีบพูดคำพูดดีๆกับเย่หยุนเทาอย่างต่อเนื่องเพื่อเอาใจเขา

เย่หยุนเทาหัวเราะชอบใจเสียงดัง ทันใดนั้นเขารู้สึกว่าเขาได้มาถึงจุดสุดยดของชีวิตแล้ว ยิ่งมองไปที่ลู่เสี้ยงหยางเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกขวางหูขวางตา ดังนั้นเขาจึงพูดอย่างเฉยเมยว่า : “ต่อจากนี้ พวกเราต้องการพูดคุยกันถึงเรื่องที่เป็นความลับและสำคัญของบริษัท นายเป็นคนนอกก็ขอให้หลบออกไปก่อน ถึงยังไงนายเองก็ได้เห็นห้องส่วนตัวเย็นวี่เจียงหนานระดับไฮเอนด์นี้แล้ว ดังนั้นถ้านายอยากจะเอาไปอวด ตอนนี้นายสามารถถ่ายรูปสามสี่ภาพแล้วโพสต์ลงในMoments (ของ Wechat) ได้เลย เพราะหลังจากงานเลี้ยงนี้ก็จะไม่มีโอกาสอีกแล้ว”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ