หนุ่มเศรษฐีลึกลับ นิยาย บท 406

บทที่ 406 การไล่ล่าอย่างดุเดือด

ในตอนนี้ นายสี่ถูกฆ่า นายคนโตพาหานหยุน และเย่สวนหนีไป เหลือเพียงนายสองและนายสามที่ต่อสู้อยู่กับลู่เสี้ยงหยาง

ลู่เสี้ยงหยางเหลือบมองรถกระบะที่เคลื่อนตัวออกไปด้วยความเร็วแสง ความอาฆานในสายตาขาดสะบั้น คืนนี้ทุกคนในตระกูลหานต้องตาย ต่อให้ติดปีกก็อย่าหวังว่าจะหนีออกจากเงื้อมมือของเขาได้

นายสองและนายสามไร้ความเชื่อมั่นเพียงพอ แต่ก็ไร้หนทาง ได้แต่กัดฟันสู้กับลู่เสี้ยงหยางต่อไป

“ไอ้พวกสวะ ตายไปให้หมด” ลู่เสี้ยงหยางเอ่ยอย่างเย็นชา

จบคำ มีดที่ถือเอาไว้ในมือขวายื่นออกไป กวาดผ่านลำคอของนายสอง

ฉึก!

สมองของนายสองหลุดออกจากลำคอในพริบตา หล่นลงกับพื้น

ตามมาติดๆ ด้วย ลู่เสี้ยงหยางไม่ล่าช้า ปลายมีดเคลื่อนไปข้างหน้า ท้ายที่สุดแทงเข้าที่กลางอกของนายสาม

ปลายมีดแทงทะลุหัวใจ

“ไม่!” นายสามร้องอย่างอนาถ กระอักเลือดไม่หยุด ท้ายที่สุดร่างของเขาร่วงหล่นกระแทกกับพื้น

ในตอนนี้ นายสองและนายสามถูกลู่เสี้ยงหยางดับชีพทั้งคู่

“เหอะ ต่อไปก็ถึงคิวของพวกแก” ลู่เสี้ยงหยางหันไปทางหน้าประตูใหญ่ของโรงงาน ในทิศทางที่รถกระบะเพิ่งแล่นออกไป

สถานการณ์ตรงหน้า เขาไร้ความลังเล รวบรวมพละกำลังทั้งหมดที่มีไปไว้ที่ขาทั้งสองข้าง ขยับฝีเท้า ไล่ตามไปทางรถกระบะ

มีพลังของปราณอยู่ ความเร็วของลู่เสี้ยงหยางไร้เทียมทาน ไม่ว่าจะเป็นเหาะเหินเดินบนหลังคาเป็นเรื่องเล็กน้อยทั้งนั้น

ชั่วพริบตา ภายใต้ความมืดมิด มีแต่เงาร่างหนึ่งแล่นผ่านไม้ป่า หินทรายปลิวว่อน เร็วปานสายฟ้า

…..

ในเวลาเดียวกันนั้น นายพี่คนโตหัวใจเต้นตุ้มต่อมบังรถเครื่องยนต์ด้วยความเร็วสูง ที่เร็วกว่าธนูที่ถูกยิงออกไป

รถกระบะคันนี้ถูกดัดแปลงมาก่อน ใช้เครื่องยนต์ของรถสปอร์ต แรงบิดและแรงม้าจัดอยู่ในขั้นสุดยอด

บนรถ หานหยุนคว้าประตูเอาไว้แน่น กลัวว่าตนเองจะถูกสลัดออกไปข้างนอก สายตาจับจ้องที่รถคันหลังเอาไว้อยู่อย่างนั้น เพื่อที่จะดูว่าลู่เสี้ยงหยางจะตามมาด้วยได้หรือไม่

เย่สวนใบหน้าขาวซีด เต็มไปด้วยความกังวล ไม่รู้ว่าทางด้านลู่เสี้ยงหยางเป็นอย่างไรบ้าง

เย่สวนเกรงกลัวหวาดหวั่น ทั้งมือและเท้าชุ่มไปด้วยเหงื่อ แต่ทันใดนั้น เกิดไอควันเขม่าสีดำออกมาจากหว่างคิ้ว จับตัวกันเป็นคำว่ามาร

หานหยุนไม่ทันได้สังเกต ชายหนุ่มอ่อนตัวเบาอยู่บนรถ กำลังที่จำหยิบบุหรี่ขึ้นสูบเพื่อคลายเครียด

เอ๋?!

ในตอนนี้ ใต้ฟ้าที่อยู่ไม่ไกล จุดดำเล็กๆ ถูกขยายออกอย่างรวดเร็ว เมื่อตั้งใจสังเกต ก็ได้พบว่าเป็นลู่เสี้ยงหยางที่ไล่ตามมา

บัดซบ!

นี่…..เป็นไปได้ยังไง? เขาวิ่งเร็วขนาดนี้เชียวหรือ?

หานหยุนแทบบ้า ไม่อยากจะเชื่อ

“ให้ตาย! เขาไล่ตามมาแล้ว” หานหยุนหันไปคำรามใส่นายคนโต ด้วยความตื่นตูมหวาดผวา

นายคนโตเหลือบมองลู่เสี้ยงหยางด้วยกระจกหลัง ในกระจก เสมือนกับว่ามีสายลมออกจากฝ่าเท้าของลู่เสี้ยงหยาง พลันคืบคลานเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ ช่วงเวลาสั้นๆ ชายหนุ่มหัวใจแทบวาย

“แม่งเอ๊ย นี่มันเป็นไปได้ยังไง?” ชายหนุ่มตกตะลึงไป เหงื่อแตกชุ่มไปทั่วกาย

ลู่เสี้ยงหยางจะวิ่งเร็วกว่ารถกระบะที่ถูกดัดแปลงได้อย่างไร?

ให้ตาย!

ชายหนุ่มกำพวงมาลัยรถแน่น เหยียบคันเร่งจนมิด

หมายเลขบนหน้าปัดความเร็วยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่องไม่หยุดจาก 300 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เป็น 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง รู้สึกทนรับไม่ไหวอีกต่อไป เสมือนกับนักแข่งรถมือใหม่ที่พุ่งไป120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

หัวใจของชายหนุ่มตุ้มต่อมอย่างวิตก หากแข่งรถแบบนี้ต่อไป ไม่แน่อาจจะเกิดอุบัติเหตุขึ้นก็เป็นได้ แต่หากว่าตกอยู่ในเงื้อมมือของลู่เสี้ยงหยางมีแต่จะต้องตายเท่านั้น เอาวะสู้สักตั้ง

ในตอนนี้ ความเร็วรถกระบะพุ่งไป400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เทียบเท่ากับรถไฟฟ้าได้เลย ลู่เสี้ยงหยางและรถกระบะอยู่ห่างไกลกันออกไป

ยังไงซะ ลู่เสี้ยงหยางเพิ่งปราณในการเร่งความเร็ว หากใช้พละกำลังทั้งหมด ความเร็วของเขาอย่างมากราวๆ 400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

แต่ยังไงก็ตาม รถกระบะเป็นเครื่องยนต์ เป็นไปไม่ได้ที่จะรักษาความเร็วไว้ที่400 กิโลเมตรต่อชั่วโมง อยู่ตลอด หางมีทางคดเคี้ยวหรือสิ่งกีดขวาง เขาจำเป็นที่จะต้องลดความเร็วลง

ส่วนลู่เสี่ยงหยางนั้นสามารถรักษาความเร็วเอาไว้ที่400กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างต่อเนื่อง

เช่นนี้ ลู่เสี้ยงหยางเป็นฝ่ายได้เปรียบอย่างชัดเจน

หากแต่ ข้อได้เปรียบนี้ช่างเล็กน้อยเสียเหลือเกิน ลู่เสี้ยงหยางไม่มีทางตามรถกระบะได้ทันในระยะเวลาอันสั้น

ห้านาทีผ่านไป รถกระบะมุ่งเข้าสู่ตัวเมืองปินเหอ

ตอนนี้ใกล้เวลาเที่ยงคืนเข้าไปแล้ว เครื่องยนต์บนท้องถนนค่อนข้างน้อย เพียงแค่บางช่วงเท่านั้นที่จะได้พบกับเครื่องยนต์แล่นผ่าน

และในภายใต้เสียงคำรามอย่างบ้าคลั่ง รถกระบะแล่นผ่านเครื่องยนต์เหล่านั้นด้วยความเร็วแสง

“บัดซบ ไอ้เด็กเวรที่ไหนขับรถแบบนี้กัน เร็วขนาดนี้ ตกใจแทบแย่” เหล่าโชเฟอร์ตกอกตกใจ เหยียบคันเบรกมิด เครื่องยนต์หยุดจอดกะทันหัน

ซวบ!

ไม่ทันที่พวกเขาได้ไหวตัวทัน ภายนอกหน้าต่างแล่นผ่านด้วยเสียงสายลม

เพียงแค่มองออกไปด้านนอกแวบเดียว ทันใดนั้น ทุกคนต่างเบิกตากว้าง สั่นเทาไปทั่วร่าง

“อะไร ยอดมนุษย์!” หลายคนต่างพากันขยี้ตา ความตกใจไม่สามารถบรรยายออกมาเป็นคำพูดได้เลย

…..

ในเวลาเดียวกัน ปินเหอ ห้องบัญชาการตำรวจจราจร

คืนนี้อยู่เวร มีเพียงแค่สองคนเท่านั้นที่สังเกตการณ์อยู่ที่หน้าจอ ตำรวจสาวอายุน้อยคนหนึ่งหวางเช่น และตำหนุ่มชราที่ใกล้เกษียณส้งหย่อง

หวางเช่นมีหน้าตาที่สวยงาม รูปร่างตัวเล็กกะทัดรัด เป็นคนร่าเริง เป็นที่รักใครของทุกคนในสถานีตำรวจ

ในเวลานี้ส้งหย่องเบื่อหน่าย นั่งเล่นเกมอยู่กับที่ พลางคุยเล่นกับหวางเช่นไปด้วย

หวางเช่นเบื่อกับเรื่องเดิมที่ชราเล่าเต็มที เพราะนั่นเป็นคำพูดที่ซ้ำซากน่าเบื่อ ในตอนนี้เธอจับจ้องที่หน้าจออย่างตั้งใจ ไม่นาน เธอก็ได้พบกับความผิดปกติบนหน้าจอ

บนหน้าจอ ตัวอักษรที่ชัดเจนปรากฏขึ้น “ถนนหยิงปิน A50Y00 ความเร็ว380กิโลเมตรต่อชั่วโมง”

อะไรกัน

380กิโลเมตรต่อชั่วโมง!

หวางเช่นตกอกตกใจ ขับรถไฟเหอะหรือยังไง? ทำไมถึงได้วิ่งแข่งกับรถไฟฟ้าซะได้

“พระเจ้า พี่หย่อง เกิดเรื่องใหญ่แล้ว มีคนกำลังแข่งรถ ความเร็วพุ่งไปที่380กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้ว มาดูเร็วเข้า” หวางเช่ตะโกนร้องอย่างตกใจ

ส้งหย่องนิ่งไป ก่อนที่จะยกบกขึ้นโบก อย่างไม่อยากเชื่อ “อย่าขัดสิ เธอดูผิดหรือเปล่า? ต่อให้เป็นรถสปอร์ตก็ไม่กล้าวิ่ง380กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรอก เธอฟังต่อ ฉันจะเล่าเรื่องของคุณท่านกวนให้แกฟัง…..”

หวางเช่นมีกะจิตกะใจฟังเสียที่ไหนกัน นิ้วมือของเธอวางบนแป้นพิมพ์พร้อมกดเสียงดัง ไม่นาน หน้าจอปรากฏภาพวงจรปิดเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง หวางเช่นเด้งลุกขึ้นจากเก้าอี้ ยื่นนิ้วชี้ไปยังหน้าจอ ตะโกนร้องอย่างไม่อยากจะเชื่อ “พี่หย่อง ผีหรอกแน่ๆ ความเร็วอยู่ที่380 กิโลเมตรต่อชั่วโมง จริงๆ แถมยังมีคนวิ่งอยู่ข้างหลังด้วย เร็วกว่าอีก”

อะไรนะ?

บ้าไปแล้ว!

ตุ่บ!

ส้งหย่องตกอกตกใจจนตกจากเก้าอี้

ให้ตายน่ากลัวชะมัด!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หนุ่มเศรษฐีลึกลับ