ฮูหยินไร้พ่าย นิยาย บท 41

ตอนที่ 10

ราชฑูต

ได้ยินจากไท่ซางหวง(บุตรชายของข้า)เคยบอกไว้ว่าราชทูตแคว้นเหลียงจะมาถึงอีก 7 วันแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะตั้งหน้าตั้งตามาที่นี่รวดเร็วทันใจอย่างยิ่งเห็นแบบนี้แล้วก็นึกปวดหัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นการต้อนรับราชทูตต่างแคว้นเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากไม่ใช่เรื่องเล็กๆน้อยๆเพราะหากต้อนรับคนเหล่านี้ไม่ดีก็อาจจะเสื่อมเสียไปยังทั่วทั้งแคว้นของตนเองได้จึงจำเป็นต้องดูแลแขกที่มาเป็นอย่างดี

"ถวายพระพรฝ่าบาทขอให้ฝ่าบาทอายุยืนหมื่นๆปีเพคะ"

"ถวายบังคมพะยะค่ะฝ่าบาทขอให้ฝ่าบาทอายุยืนหมื่นๆปีพะยะค่ะ"

"องค์หญิงและองค์ชายแคว้นเหลียงลุกขึ้นเธอในฐานะที่เป็นตัวแทนราชทูตมาเชื่อมสัมพันธไมตรีของแคว้นเราอย่าได้มากพิธีเลยถือเสียว่าที่นี่คือครอบครัวขององค์หญิงและองค์ชาย"

"ขอบพระทัยเพคะ"

"ขอบพระทัยพะยะค่ะ"

"ในระหว่างที่จะอยู่ที่นี่องค์หญิงและองค์ชายจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากอาจารย์หญิงอวิ๋นซิ่วอิง นางเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเป็นอาจารย์ที่อายุน้อยแต่มีความจริงกัดในหลายๆด้านนางจะคอยดูแลองค์หญิงและองค์ชายมีเรื่องอะไรแจ้งกับนางได้ทันที"

"สถานะของนางเป็นเพียงอาจารย์หญิงจะให้นางมาดูแลหม่อมฉันหรือเพคะ"

"แล้วองค์หญิงไม่พอใจเพียงแค่สถานะมองคนที่ภายนอกเช่นนั้นหรือขอบังอาจถามแม่นมขององค์หญิงเป็นสตรีอย่างไร"

"แม่นมของข้าเป็นบ่าวรับใช้ของเสด็จแม่แม้ว่าฐานะทางบ้านของนางจะเป็นแค่ชนชั้นกลางแต่ก็เป็นสตรีที่มีความเพียบพร้อม"

"หม่อมฉันเป็นบุตรสาวของขุนนางขั้น3 มีคุณงามความดีต่อแคว้นมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษพี่ชายออกรบห้าวหาญไม่เกรงกลัวสิ่งใดบิดาใช้ความภักดีปกป้องบ้านเมืองแม้ว่าตัวของข้าจะเป็นสตรีที่อ่อนแอแต่ก็มีความรู้ความสามารถจึงได้มาเป็นอาจารย์หญิงในวังหลวงสั่งสอนอบรมบ่มเพาะนิสัยให้กับเชื้อพระวงศ์และบุตรสาวบุตรชายขุนนางทั้งหลายที่มีความสามารถแล้วหม่อมฉันจะไม่มีค่าพอถึงขั้นได้ดูแลองค์หญิงเลยหรือเช่นนั้นองค์หญิงคงจะมองหม่อมฉันเพียงแค่ภายนอก"

"สตรีในห้องหอเช่นเจ้ามีความคิดความอ่านมากมายถึงเพียงนี้ไม่เกรงกลัวว่าจะมีบุรุษที่ใดกล้ามาสู่ขออย่างนั้นหรือ"

"หม่อมฉันทูลองค์หญิงตามตรงหม่อมฉันแต่งงานแล้วมีสามีแล้วองค์หญิงไม่ต้องห่วงว่าหม่อมฉันก็ไม่มีความสามารถในการดูแลเด็กแม้ว่าหม่อมฉันจะอายุมากกว่าองค์หญิงแค่ไม่กี่ปีแต่หม่อมฉันมีวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำอย่างยิ่งองค์หญิงไม่ต้องเป็นห่วง"

"ฝ่าบาทหม่อมฉันไม่เอาอาจารย์หญิงผู้นี้นะเพคะ ดูแล้วนางไม่มีมารยาทเหมือนไม่มีใครอบรมสั่งสอน"

ปังงงง!!!!!

"ไท่ซางหวง.."

"องค์หญิงเป็นแขกบ้านแขกเมืองควรจะให้เกียรติสถานที่บ้างนะรู้ไปถึงฮ่องเต้แคว้นขององค์หญิงจะไม่งามเอาเสียได้ คนที่ทางวังหลวงส่งมาย่อมต้องเป็นสตรีที่มีความสามารถไม่ใช่ใครที่ไหนที่จะสามารถหยิบยกมาได้องค์หญิงไม่ต้องเป็นห่วงหากเกิดเรื่องผิดพลาดประการใดเฒ่าชราอย่างตัวของข้าจะขอขมาองค์หญิงด้วยตนเอง"

"ไท่ซางหวง หม่อมฉันกล่าวเกินไปขออภัยพระองค์ด้วยเพคะหม่อมฉันน้อมรับคำสั่งสอนนี้ไม่ว่าฝ่าบาทจะมอบใครมาให้หม่อมฉันยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่งเพคะ"

"ในเมื่อองค์หญิงไม่ต่อปากต่อคำอีกแล้วก็เชิญกล่าวต่อเลยฝ่าบาท"

"ขอบพระทัยไท่ซางหวง"

บุตรชายของข้าผู้นี้ ช่างอารมณ์ร้อนเสียจริงไม่คิดไม่ฝันเลยว่าบุตรชายที่ไม่เอาไหนคนนั้นบัดนี้กลับอารมณ์ร้อนกว่าแต่ก่อนเสียอีกทำให้ข้าถึงกับอดหัวเราะไม่ได้แสดงออกมามากมายเช่นนี้คนอื่นต่างมองมาที่ข้าด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเสียเท่าไรตอนนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรมากกับคนพวกนี้อยู่แล้ววันเวลามันก็ช่างผ่านไปรวดเร็วอยู่แล้วก็เลยไม่ได้คิดอะไรมากมายสุดท้ายพวกเขาก็ขัดราชองการไม่ได้จึงมีตัวของข้านอกคอยดูแลพวกเขาอาจจะเป็นเพราะว่าในสายตาของพวกเขาข้าก็เป็นเพียงแค่สตรีผู้หนึ่งไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับราชกิจต่างๆได้ก็ใช่นั่นแหละตัวของข้าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับฐานอำนาจราชกิจใดๆในวังคานอำนาจกับใครก็ไม่เคยมีเพียงแต่ช่วยเหลือประชาชนตอนที่ออกรบเพียงเท่านั้นจึงได้ไม่มีความคิดอะไรที่เป็นความคิดโสมมเหมือนพวกขุนนางทั้งหลายราชทูตเหล่านี้ก็มองข้าเป็นตัวตลาดแตกต่างจากพวกเค้าทำสีหน้าเหยียดหยามแต่ก็ช่างเถอะคนรุ่นใหม่มักเอาลมร้อนอยู่เสมอตายไปหลายๆรอบเหมือนตัวของข้าก็คงจะหยุดห้าวเอง

"อาจารย์หญิง"

"ถวายพระพรองค์หญิงมาที่นี่มีเรื่องอันใดหรือ"

"อาจารย์หญิงไม่รู้อะไรเสด็จพ่อให้ตัวของข้านำมอบชุดเหล่านี้มาให้กับองค์หญิงและองค์ชายได้สวมใส่"

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฮูหยินไร้พ่าย