สรุปเนื้อหา ภาค 3 ตอนที่ 10 ราชฑูต – ฮูหยินไร้พ่าย โดย เสาเย่า
บท ภาค 3 ตอนที่ 10 ราชฑูต ของ ฮูหยินไร้พ่าย ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย เสาเย่า อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
ตอนที่ 10
ราชฑูต
ได้ยินจากไท่ซางหวง(บุตรชายของข้า)เคยบอกไว้ว่าราชทูตแคว้นเหลียงจะมาถึงอีก 7 วันแต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะตั้งหน้าตั้งตามาที่นี่รวดเร็วทันใจอย่างยิ่งเห็นแบบนี้แล้วก็นึกปวดหัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นการต้อนรับราชทูตต่างแคว้นเป็นเรื่องที่ยิ่งใหญ่มากไม่ใช่เรื่องเล็กๆน้อยๆเพราะหากต้อนรับคนเหล่านี้ไม่ดีก็อาจจะเสื่อมเสียไปยังทั่วทั้งแคว้นของตนเองได้จึงจำเป็นต้องดูแลแขกที่มาเป็นอย่างดี
"ถวายพระพรฝ่าบาทขอให้ฝ่าบาทอายุยืนหมื่นๆปีเพคะ"
"ถวายบังคมพะยะค่ะฝ่าบาทขอให้ฝ่าบาทอายุยืนหมื่นๆปีพะยะค่ะ"
"องค์หญิงและองค์ชายแคว้นเหลียงลุกขึ้นเธอในฐานะที่เป็นตัวแทนราชทูตมาเชื่อมสัมพันธไมตรีของแคว้นเราอย่าได้มากพิธีเลยถือเสียว่าที่นี่คือครอบครัวขององค์หญิงและองค์ชาย"
"ขอบพระทัยเพคะ"
"ขอบพระทัยพะยะค่ะ"
"ในระหว่างที่จะอยู่ที่นี่องค์หญิงและองค์ชายจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดีจากอาจารย์หญิงอวิ๋นซิ่วอิง นางเป็นผู้ที่มีความรู้ความสามารถเป็นอาจารย์ที่อายุน้อยแต่มีความจริงกัดในหลายๆด้านนางจะคอยดูแลองค์หญิงและองค์ชายมีเรื่องอะไรแจ้งกับนางได้ทันที"
"สถานะของนางเป็นเพียงอาจารย์หญิงจะให้นางมาดูแลหม่อมฉันหรือเพคะ"
"แล้วองค์หญิงไม่พอใจเพียงแค่สถานะมองคนที่ภายนอกเช่นนั้นหรือขอบังอาจถามแม่นมขององค์หญิงเป็นสตรีอย่างไร"
"แม่นมของข้าเป็นบ่าวรับใช้ของเสด็จแม่แม้ว่าฐานะทางบ้านของนางจะเป็นแค่ชนชั้นกลางแต่ก็เป็นสตรีที่มีความเพียบพร้อม"
"หม่อมฉันเป็นบุตรสาวของขุนนางขั้น3 มีคุณงามความดีต่อแคว้นมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษพี่ชายออกรบห้าวหาญไม่เกรงกลัวสิ่งใดบิดาใช้ความภักดีปกป้องบ้านเมืองแม้ว่าตัวของข้าจะเป็นสตรีที่อ่อนแอแต่ก็มีความรู้ความสามารถจึงได้มาเป็นอาจารย์หญิงในวังหลวงสั่งสอนอบรมบ่มเพาะนิสัยให้กับเชื้อพระวงศ์และบุตรสาวบุตรชายขุนนางทั้งหลายที่มีความสามารถแล้วหม่อมฉันจะไม่มีค่าพอถึงขั้นได้ดูแลองค์หญิงเลยหรือเช่นนั้นองค์หญิงคงจะมองหม่อมฉันเพียงแค่ภายนอก"
"สตรีในห้องหอเช่นเจ้ามีความคิดความอ่านมากมายถึงเพียงนี้ไม่เกรงกลัวว่าจะมีบุรุษที่ใดกล้ามาสู่ขออย่างนั้นหรือ"
"หม่อมฉันทูลองค์หญิงตามตรงหม่อมฉันแต่งงานแล้วมีสามีแล้วองค์หญิงไม่ต้องห่วงว่าหม่อมฉันก็ไม่มีความสามารถในการดูแลเด็กแม้ว่าหม่อมฉันจะอายุมากกว่าองค์หญิงแค่ไม่กี่ปีแต่หม่อมฉันมีวุฒิภาวะในการเป็นผู้นำอย่างยิ่งองค์หญิงไม่ต้องเป็นห่วง"
"ฝ่าบาทหม่อมฉันไม่เอาอาจารย์หญิงผู้นี้นะเพคะ ดูแล้วนางไม่มีมารยาทเหมือนไม่มีใครอบรมสั่งสอน"
ปังงงง!!!!!
"ไท่ซางหวง.."
"องค์หญิงเป็นแขกบ้านแขกเมืองควรจะให้เกียรติสถานที่บ้างนะรู้ไปถึงฮ่องเต้แคว้นขององค์หญิงจะไม่งามเอาเสียได้ คนที่ทางวังหลวงส่งมาย่อมต้องเป็นสตรีที่มีความสามารถไม่ใช่ใครที่ไหนที่จะสามารถหยิบยกมาได้องค์หญิงไม่ต้องเป็นห่วงหากเกิดเรื่องผิดพลาดประการใดเฒ่าชราอย่างตัวของข้าจะขอขมาองค์หญิงด้วยตนเอง"
"ไท่ซางหวง หม่อมฉันกล่าวเกินไปขออภัยพระองค์ด้วยเพคะหม่อมฉันน้อมรับคำสั่งสอนนี้ไม่ว่าฝ่าบาทจะมอบใครมาให้หม่อมฉันยินดีต้อนรับเป็นอย่างยิ่งเพคะ"
"ในเมื่อองค์หญิงไม่ต่อปากต่อคำอีกแล้วก็เชิญกล่าวต่อเลยฝ่าบาท"
"ขอบพระทัยไท่ซางหวง"
บุตรชายของข้าผู้นี้ ช่างอารมณ์ร้อนเสียจริงไม่คิดไม่ฝันเลยว่าบุตรชายที่ไม่เอาไหนคนนั้นบัดนี้กลับอารมณ์ร้อนกว่าแต่ก่อนเสียอีกทำให้ข้าถึงกับอดหัวเราะไม่ได้แสดงออกมามากมายเช่นนี้คนอื่นต่างมองมาที่ข้าด้วยสายตาไม่เป็นมิตรเสียเท่าไรตอนนี้ก็ไม่ได้คิดอะไรมากกับคนพวกนี้อยู่แล้ววันเวลามันก็ช่างผ่านไปรวดเร็วอยู่แล้วก็เลยไม่ได้คิดอะไรมากมายสุดท้ายพวกเขาก็ขัดราชองการไม่ได้จึงมีตัวของข้านอกคอยดูแลพวกเขาอาจจะเป็นเพราะว่าในสายตาของพวกเขาข้าก็เป็นเพียงแค่สตรีผู้หนึ่งไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับราชกิจต่างๆได้ก็ใช่นั่นแหละตัวของข้าไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับฐานอำนาจราชกิจใดๆในวังคานอำนาจกับใครก็ไม่เคยมีเพียงแต่ช่วยเหลือประชาชนตอนที่ออกรบเพียงเท่านั้นจึงได้ไม่มีความคิดอะไรที่เป็นความคิดโสมมเหมือนพวกขุนนางทั้งหลายราชทูตเหล่านี้ก็มองข้าเป็นตัวตลาดแตกต่างจากพวกเค้าทำสีหน้าเหยียดหยามแต่ก็ช่างเถอะคนรุ่นใหม่มักเอาลมร้อนอยู่เสมอตายไปหลายๆรอบเหมือนตัวของข้าก็คงจะหยุดห้าวเอง
"อาจารย์หญิง"
"ถวายพระพรองค์หญิงมาที่นี่มีเรื่องอันใดหรือ"
"อาจารย์หญิงไม่รู้อะไรเสด็จพ่อให้ตัวของข้านำมอบชุดเหล่านี้มาให้กับองค์หญิงและองค์ชายได้สวมใส่"
"เจ้าเนี่ยนะคิดถึงข้าเราสองคนไม่ได้รักกันเสียหน่อย"
"แต่ตอนนี้ข้ากับท่านแต่งงานกันแล้ว"
"จริงด้วย ข้าชิงตัวเจ้ามาที่นี้เจ้าอยากกลับบ้านไปหาครอบครัวหรือไม่"
"ข้าผิดต่อเจ้า"
"อย่างไร เจ้าผิดตรงไหนผิดอะไรกับข้าไม่เห็นเกี่ยวกันเลยเจ้าตามข้ามาก็ถือว่าเป็นข้อตกลงของกันและกันไม่จำเป็นต้องมีเรื่องที่ผิดต่อกันเจ้าอยากกลับบ้านก็กลับไปเถอะ"
"ท่านมาอาศัยอยู่ในร่างของนางเช่นนั้นนางก็..."
"นางตายไปแล้ว ตายไปก่อนที่เราสองคนจะแต่งงานกันเสียอีกนางปักใจรักเศร้าจนตัวตาย ตายเพราะพี่น้องของตนเองเป็นคนฆ่า"
"ตัวของข้าผิดต่อนางอย่างยิ่งใครอยากจะชดใช้"
"ด้วยอะไรล่ะ"
"ด้วยตัวและหัวใจ"
"มองดูแล้วเจ้าก็มีใบหน้าที่งดงามหล่อเหลามากเสียจริง"
ข้าใช้มือช้อนที่คางมนสวยของปั๋วเหิงหรานก่อนจะยิ้มร้ายๆออกมาเขามีสีหน้าที่เขินอายก่อนที่ตัวของข้าจะบอกปัดกับเขาบ่ต้องเข้าไปดูแลองค์หญิงและองค์ชายต่างแคว้นในเมื่อเขาอยากจะใช้ร่างกายชดใช้ให้กับร่างกายของข้าตัวของข้าเองก็ไม่ได้มีพันธะการใดๆต่อใครก็แล้วแต่ตัวของคนผู้นั้นในเมื่อได้เกิดมาใหม่ก็ได้ลิ้มลองคนใหม่ๆเสียบ้างกินของเก่าดักดานไม่อร่อยแล้วล่ะหนุ่มคบเพราะวัยนี้น่ากินยิ่งกว่าแต่แก่หนังเหี่ยวเสียอีกไม่ได้การถ้าจะกินหนุ่มน้อยหน้ามนผู้นี้ก็คงดีกว่าคนแก่เป็นนัยๆ
ราชทูตล้วนแล้วแต่เอาแต่ใจทั้งสิ้นไม่ว่าใครหน้าไหนก็รู้แล้วแต่น่าเบื่อตัวของข้าตื่นมารับใช้ดูแลงานต่างๆทั้งๆที่ไม่ได้เป็นนางกำนัลหรือฮองเฮาสนมนางอื่นเลยสักนิดเป็นแค่อาจารย์หญิงกลับต้องทำงานหนักถึงเพียงนี้ต้องได้เงินเดือนเพิ่มไปหลายๆเท่าไหร่นะไม่เช่นนั้นคงจะเจ็บปวดน่าดูเมื่อสิ้นเดือนแล้วได้เงินเพียงน้อยนิดไม่เจอครอบครัวต่อให้ตัวของฆ่าตายไปหลายรอบก็งกเงินอยู่เช่นเดิมอยู่ดี
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ฮูหยินไร้พ่าย
เปลี่ยนชื่อเรื่องเป็น่ฮูหยิน กระบือเถอะ...