ห้องวีไอพีในโรงพยาบาลในตัวเมือง
แสงแดดส่องเข้ามาทางหน้าต่าง ห้องทั้งห้องเต็มไปด้วยความอบอุ่น แต่คนที่อยู่ในห้องผู้ป่วยกลับกลัวจนไม่กล้าพูด ไม้กล้าแม้แต่จะหายใจแรง ทุกคนล้วนก้มหน้าลง ไม่กล้ามองชายที่นั่งเศร้าอยู่หน้าเตียง
“สองวันสองคืนแล้ว เธอทำไมยังไม่ฟื้นอีก?”
กู้หยุนเซินตาคล้ำ นัยน์ตาล้วนเต็มไปด้วยเส้นเลือดฝอย เขาจ้องมองผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงคนไข้อย่างขมับเขม่น
กู้หยุนเซินที่เป็นโรคบ้าความสะอาด เสื้อผ้าของเขาต้องสะอาดอยู่เสมอ ลุงหลินไม่เคยเห็นคุณชายของตัวเองสภาพเละเทะขนาดนี้มาก่อน
มีตอหนวดงอกขึ้นที่คางของเขา เพราะเขาเฝ้าอยู่หน้าเตียงคนไข้ โดยไม่ได้สนใจเรื่องอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เสื้อผ้าบนร่างกายของเขาก็ยับยู่ยี่ และเปื้อนไปด้วยเลือด
“ก่อนหน้านี้หมอได้ตรวจแล้ว คุณผู้หญิงแค่บาดเจ็บภายนอก กระสุนไม่ได้ทำร้ายอวัยวะภายใน ตามหลักแล้วไม่ถึงหนึ่งวันก็ต้องตื่นแล้ว……” ลุงหลินมองดูข้อมูลบนเครื่องวัดด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “หมอบอกว่ามันเป็นเรื่องทางจิต จิตใจเธอได้รับความกระทบกระเทือนอย่างใหญ่หลวง เธอจึงปิดกั้นตัวเอง เกรงว่าเธอไม่มีความปรารถนาที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ เพราะตัวเธอไม่อยากจะตื่นขึ้นมา
“คุณชายครับ พวกเราต้องคิดหาวิธีแล้ว ถ้าหากคุณผู้หญิงเป็นแบบนี้ไปตลอด สถานการณ์ก็ไม่ค่อยจะดีแล้ว!”
กู้หยุนเซินตกตะลึงพร้อมกับกำหมัดแน่น จนเส้นเอ็นบนหลังมือนูนขึ้นมา ดูแล้ววิธีของเขา ทำร้ายจิตใจเธอจริงๆ
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็เดินไปที่เตียง นั่งลงแล้วจับมือที่ขาวนวลและเล็กของเสิ่นเยว่ซีอย่างเบามือ เห็นได้ชัดว่าการแสดงออกของเขาอ่อนโยนมาก แต่น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเย็นชา
“เสิ่นเยว่ซี หากคุณยังไม่ยอมตื่น ผมจะให้ลุงหลินส่งคุณกลับไปที่บ้านตระกูลเสิ่นโดยตรง จากนั้นก็จะแต่งงานกับพี่สาวของคุณ คุณได้ยินมั้ย!”
เมื่อก่อนทุกครั้งที่เธอพูดแบบนี้ เสิ่นเยว่ซีก็จะยอมทุกครั้ง จากนั้นก็จะคิดหาวิธีเพื่อให้ได้อยู่ที่บ้านตระกูลต่อ
แต่ครั้งนี้คำพูดนี้กลับไม่มีประโยชน์อีกแล้ว
กู้หยุนเซินพูดทีละคำไปสองรอบ เสิ่นเยว๋ซีก็ไม่มีวี่แววที่จะตื่นขึ้นมาเลย
ลุงหลินที่ยืนอยู่ด้านข้างสีหน้าเคร่งเครียด “คุณชาย ผมคิดว่าเวลาแบบนี้น่าจะพูดอะไรที่น่าฟังกว่านี้……….”
พูดยังไม่ทันจบ ทันใดนั้นขนตาของผู้หญิงที่นอนอยู่บนเตียงก็สั่นไปหนึ่งครั้ง พยาบาลเห็นมันพอดี ก็พูดอย่างเสียงดัง “ฟื้นแล้ว ฟื้นแล้ว เมื่อกี้ตาของคุณหนูเสิ่นขยับตัวแล้ว!”
กู้หยุนเซินที่ตกตะลึง รีบให้คนไปตามหมอ
พวกคุณหมอก็สแตนบายอยู่ตลอดเวลา เมื่อทราบข่าวก็มาปิดล้อมเตียงคนไข้ในทันที
หลังจากการตรวจร่างกาย หมอเจ้าของไข้ได้ถอนหายใจด้วยความโล่งอก ยิ้มและพูดกับกู้หยุนเซิน “สติสัมปชัญญะของผู้ป่วยฟื้นแล้ว เธอจะตื่นขึ้นในเร็วๆนี้ เมื่อกี้คุณทำอะไรเหรอ จู่ๆคุณหนูเสิ่นก็มีความปรารถนาอันแรงกล้าที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ?”
ลุงหลิน ??!!
คำข่มขู่ของคุณชายใช้ได้ผลดีจริงๆด้วย
กู้หยุนเซินเอามือของเธอเข้าไปในผ้าห่มอย่างระมัดระวัง ความตึงเครียดในสองสามวันนี้ได้ผ่อนคลายไปแล้ว รู้สึกง่วงขึ้นมาเลย
ลุงหลินเห็นสภาพของเขาแล้ว สงสารอย่างมาก ขึ้นไปพูดกล่อม “คุณชาย คุณกลับไปอาบน้ำพักผ่อนก่อนมั้ย ถ้าคุณหนูเสิ่นตื่นแล้ว คุณเองก็คงไม่อยากให้เธอเห็นคุณในสภาพนี้มั้ง”
กู้หยุนเซินก้มหน้าลง ถึงพบว่าเสื้อเชิ้ตสีขาวของตัวเองเปื้อนเลือดจำนวนมาก และโรคบ้าความสะอาดของเขาก็กำเริบอีกแล้ว“ได้ งั้นผมกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน เธอตื่นแล้ว ลุงต้องแจ้งผมในทันที”
ลุงหลินพยักหน้า กู้หยุนเซินกำลังจะออกจากห้องผู้ป่วย ทันใดนั้นก็เห็นใครคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างเร่งรีบ
เป็นนางพยาบาลที่ตระกูลกู้จ้างมาดูแลอู๋จิ้งหย่า
พยาบาลเห็นหน้ากู้หยุนเซินแล้วดีใจมาก “คุณชายกู้ คุณหนูอู๋อยากจะพบคุณ!”
“มีเรื่องอะไร?”
กู้หยุนเซินที่ง่วงนอน แววตาเต็มไปด้วยความเอือมระอา
พยาบาลไม่ทันสังเกต มัวแต่พูดเองเออเอง “คุณหนูอู๋บอกว่าเธอเจ็บแผล……….”
ยังไม่ทันพูดจบ ก็ถูกเขาขัดจังหวะ
“เจ็บแผลแล้วมันเกี่ยวอะไรกับผม เธอน่าจะไปหาหมอ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา