วันนี้หลินหวีมีเคสผ่าตัด ดังนั้นเธอจึงไม่มีเวลาไปลา ทำได้เพียงฝากให้พยาบาลไปบอกเธอ โดยบอกว่าให้เธอรักษาอาการบาดเจ็บให้หายเร็วๆ และกลับมาทำงานในโรงพยาบาลโดยไวที่สุด
สุดท้ายก็เป็นลุงหลินที่จัดรถไปรับเสิ่นเยว่ซีกลับตระกูลกู้ และตลอดเวลากู้หยุนเซินก็ไม่ได้ปรากฏตัวให้เห็นเลย
ความหวังในใจของเสิ่นเยว่ซีกลับค่อยๆ หายไป ตลอดเวลาเธอไม่ได้กล่าวอะไรเลย และไม่ค่อยสนใจอะไรมากนัก
ไม่นานก็มาถึงตระกูลกู้ ลุงหลินสั่งให้คนรับใช้มายกกระเป๋า แล้วเสิ่นเยว่ซีก็เดินเข้าไปในห้องนั่งเล่นช้าๆ
วันนี้โจวหลันไม่ได้ออกไปช้อปปิ้งและเล่นไพ่อย่างเคยๆ เธอกำลังนั่งดื่มชาดำอยู่ในห้องนั่งเล่น เมื่อเธอเห็นเสิ่นเยว่ซีเดินเข้ามาลำพังเพียงคนเดียว รอยยิ้มเย้ยหยันก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของเธอ
“อ้าว ฉันนึกว่าใคร เสิ่นเยว่ซีนี่เอง เธอยังมีหน้ากลับมาที่ตระกูลกู้อีกเหรอ”
เสิ่นเยว่ซีกำลังเตรียมจะขึ้นไปข้างบน ทว่าเมื่อเธอได้ยินคำพูดเหล่านี้จึงชะงัก “ทำไมฉันถึงต้องอายด้วยคะ ทั้งที่ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ทำไมฉันถึงจะไม่กล้ากลับมาล่ะ!”
โจวหลันฟึดฟัดเสียงเย็น เธอวางถ้วยในมือลงอย่างแรงจนเกิดเสียงดังปัง และกล่าวด้วยโทนเสียงแปลกๆ “ตอนนี้ใครบ้างที่ไม่รู้ว่าเธอถูกลักพาตัว ข่าวลือแพร่สะพัดไปถึงข้างนอก เธอรู้ไหมว่ามันเป็นเพราะเธอคนเดียว ตระกูลกู้ของเราถึงได้ขายขี้หน้าไปหมด”
ข่าวลือ?
เสิ่นเยว่ซีผงะเล็กน้อย เธออยู่ในโรงพยาบาลมาตั้งหลายวัน ลุงหลินตั้งใจที่จะกุมเอาไว้ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเรื่องนี้แพร่กระจายออกไปข้างนอกแล้ว
เมื่อเห็นท่าทีของเธอเช่นนี้ โจวหลันก็ยังคงเติมเชื้อไฟต่อ “ไม่เพียงแค่นั้น แต่ทุกคนต่างก็รู้แล้วว่าหยุนเซินเลือกผู้หญิงคนไหน ยิงเธอด้วยมือของเขาเอง ในฐานะภรรยาของเขา เธอไม่รู้สึกว่าชีวิตตัวเองล้มเหลวเหรอ ฉันแนะนำให้เธอยอมรับความจริงเสียเถอะ และหย่ากับหยุนเซินโดยเร็วที่สุดเพื่อเลี่ยงไม่ให้ตัวเธอเองต้องอับอาย เธอไม่ต้องกังวลนะ หลังจากที่หย่า ตระกูลกู้จะไม่มีทางเอาเปรียบเธอแน่นอน”
ใบหน้าของเสิ่นเยว่ซีไร้ซึ่งสีเลือด ฟันขาวของเธอกัดริมฝีปากล่างเอาไว้ เพื่อควบคุมอารมณ์ของตนเอง
“แม่ เห็นแก่หน้าของหยุนเซิน ฉันจึงเรียกคุณว่าแม่นะ คนอื่นไม่รู้ว่าเหตุผลที่ทำให้ฉันถูกลักพาตัวคืออะไร คุณเองก็ยังไม่รู้ด้วยอย่างนั้นเหรอ?ถึงอย่างไร ตอนนี้ฉันก็เป็นคนของตระกูลกู้ ไม่เป็นอะไรเลยที่คุณไม่ช่วยจัดการกับข่าวลือพวกนั้น แต่คุณก็ยังจะมาเหน็บแนมฉัน บีบบังคับให้ฉันหย่า มันไม่มากเกินไปเหรอคะ”
โจวหลันหัวเราะเยาะ หลังจากที่ได้ยิน “เธอเป็นคนตระกูลกู้แบบไหนย่ะ ตอนที่หยุนเซินอยู่ในอาการโคม่า ฉันยอมตกลงให้เธอแต่งงานเข้าตระกูลกู้แทนพี่สาวของเธอ เพียงต้องการหาคนรับใช้ฟรีๆ ให้แก่หยุนเซินสักคนก็เท่านั้น ในตอนนี้หยุนเซินก็ฟื้นแล้ว คนรับใช้อย่างเธอก็ไม่จำเป็นอีกต่อไปแล้ว และสถานะลูกสาวนอกสมรสของเธอ เธอคิดเหรอว่าตัวเองมีค่าคู่ควรกับหยุนเซินของเรา?”
ที่แท้ในสายตาของโจวหลัน เธอก็เป็นแค่เพียงคนรับใช้คนหนึ่งเท่านั้น
สมองของเสิ่นเยว่ซีงุนงงและหัวใจของเธอก็รู้สึกเหมือนโรงน้ำแข็งที่ถล่ม ชั่วขณะเธอไม่รู้ว่าจะตอบโต้ออกไปอย่างไร
เธอคิดแบบนี้ แล้วกู้หยุนเซินล่ะ?
เขาปฏิบัติกับเธอเพียงแค่คนรับใช้หรือเปล่า เมื่อเขาต้องการ เขาก็ปฏิบัติต่อเธอราวกับว่าเธอเป็นดั่งอัญมณี ตอนนี้ขาของเขาหายเป็นปกติแล้ว และรักแรกสุดดวงใจของเขาอย่างอู๋จิ้งหย่าก็กลับมาแล้ว เธอก็หมดประโยชน์และสมควรที่จะถูกทอดทิ้ง
“คุณนายน้อย สัมภาระของคุณได้เก็บเรียบร้อยแล้ว คุณขึ้นไปพักผ่อนข้างบนเถอะครับ”
ขณะนั้นเอง การปรากฏตัวของลุงหลินก็เข้ามาขัดขวางความคิดฟุ้งซ่านของเธอเอาไว้
เสิ่นเยว่ซีรีบขึ้นบันไดราวกับจะหนี ขณะที่เดินไปได้เพียงสองก้าว เธอกัดฟันและหันหน้าไปมองโจวหลัน
“ตราบใดที่เขาไม่ไล่ฉันออกไปเอง ให้ตายฉันก็จะไม่หย่า ต่อให้คุณข่มขู่ฉันยังไง ฉันก็จะไม่ยอมหย่า”
หลังจากที่เธอกล่าวจบโดยไม่รอให้อีกฝ่ายตอบโต้ เธอก็ขึ้นไปชั้นบนและวิ่งเข้าไปในห้อง
โจวหลันลุกยืนขึ้นด้วยความโกรธและตะโกนไล่ตามหลังเธอไป “หยุนเซินแค่รักเธอเพียงวันสองวัน เธอก็คิดว่าตัวเองสำคัญแล้วอย่างนั้นเหรอ?ฉันจะบอกอะไรเธอให้นะ เสิ่นเยว่ซี ตอนนี้ผู้หญิงคนนั้นกลับมาแล้ว ฉันจะคอยดูว่าเธอจะอยู่ในตระกูลกู้ได้อีกนานแค่ไหน”
เมื่อลุงหลินได้ยินดังนั้น ก็ขมวดคิ้วแน่น
คุณนายเพิ่มภาระให้คุณชายจริงๆ เลยเชียว แบบนี้ก็ยิ่งทำให้คุณนายน้อยเข้าใจคุณชายผิดเข้าไปใหญ่น่ะสิ
“คุณนายครับ ถ้าคุณชายมาได้ยินล่ะก็ เกรงว่าจะไม่พอใจเอาได้นะครับ”
ลุงหลินกล่าวเตือน โจวหลันหันหน้ามามองอย่างไม่พอใจ “ทำไม อยากจะมาสั่งสอนฉันอีกคนหรือไง?”
“ไม่บังอาจครับ” ลุงหลินก้มหัวลง แต่ท่าทีก็ไม่ได้ยี่หร่า “ครั้งก่อนคุณชายก็อารมณ์เสียไปแล้วครั้งหนึ่งแล้ว บางอย่างควรพูด บางอย่างไม่ควรพูด ผมคิดว่าคุณนายน่าจะทราบ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา