กู้หยุนเซินผลุบตาลง ทั้งๆ ที่อยู่ในลักษณะนุ่มนวล แต่ยังทำให้รู้สึกเมินเฉยและดื้อรั้น
เขามองเสิ่นเยว่ซีเหมือนมองเด็กที่อารมณ์เสียใส่ตน แล้วพูดขึ้น “เรื่องของฉันเธอไม่ต้องมาสน ถ้าเธอชอบ ฉันจะเก็บห้องสองชุดไว้ให้เธอที่จวินจิ่งโฮม ให้ใหญ่กว่าและดีกว่าห้องที่อู๋จิ้งหย่าอยู่!”
เสิ่นเยว่ซีขมวดคิ้ว “นายก็รู้ว่าฉันไม่ได้หมายความว่าแบบนี้”
“กู้หยุนเซิน ทั้งๆ ที่นายก็รู้ว่าฉันชอบนาย ถ้านายไม่ยอมรับฉันตั้งแต่แรก ฉันก็ไม่คงไม่หวังหรอก แต่นายยอมรับฉันแล้ว!” เสิ่นเยว่ซีคว้าปลายกระโปรงตัวเองแน่น นิ้วมือออกแรง “แต่พออู๋จิ้งหย่ากลับมาก็ทอดทิ้งฉัน……ฉันไม่ใช่คนใจกว้าง ไม่มีทางแบ่งนายให้กับคนอื่น”
ขณะเธอพูดก็เงยหน้ามองกู้หยุนเซิน “กู้หยุนเซิน ฉันไม่ได้ไร้ยางอายขนาดนั้น และจะไม่วอแวนาย ถ้านายอยากคบกับอู๋จิ้งหย่า ก็บอกฉันมาตรงๆ ฉันจะตกลงหย่ากับนาย!”
นิ้วมือกู้หยุนเซินกระชับ ในใจเกิดความเดือดดาลสุดจะพรรณนา
เขาโกรธที่ทำไมเธอถึงพูดคำว่าหย่าออกมาง่ายดายแบบนี้! ทำไมจะทอดทิ้งเขาง่ายดายแบบนี้!
“จิ้งหย่าเพิ่งกลับมา มีหลายคนจับตามองหล่อนอยู่ เธอยังมีประโยชน์อยู่บ้าง ฉันจะไม่หย่ากับเธอ เธอตัดใจซะเถอะ! และแม่เธอก็คงไม่อยากให้เราหย่ากันด้วย”
เกิดเสียงตู้ม เสิ่นเยว่ซีรู้สึกราวกับสมองตัวเองระเบิด ไม่แปลกใจที่หลังจากอู๋จิ้งหย่ากลับมา เขาจะอิดออดไม่ยอมหย่า ที่แท้ก็เห็นตัวเองเป็นเกราะป้องกันนี่เอง
แต่ประโยคสุดท้ายมันทิ่มแทงจุดอ่อนเสิ่นเยว่ซีโดยตรง เธออ้าปาก เสียงค่อนข้างฝืด “ฉัน……ฉันเข้าใจแล้ว การแต่งงานของเรามันก็แค่เรื่องไม่คาดคิด นายจะทำยังไงฉันเข้าใจได้!”
“รอนายจัดการคนพวกนั้นก่อน ฉันจะให้ตำแหน่งคนที่นายรัก ทำให้พวกนายสมปรารถนา ถึงตอนนั้นเราก็หายกันแล้ว ไม่มีใครติดหนี้ใคร”
หายกันแล้ว?
กู้หยุนเซินมองท่าทางดื้อรั้นไร้เยื่อใยของเธอ ก็โกรธจนกัดฟันกรอด เขาเป็นนักธุรกิจเต็มตัว ชอบสะสางบัญชีให้ชัดเจนกับทุกคน แต่เขากลับเกลียดที่เสิ่นเยว่ซีแยกแยะกับเขาอย่างชัดเจน
“เสิ่นเยว่ซี ฉันปฏิบัติดีกับเธอมากไม่ใช่หรือไง! เธอคิดว่าหย่ากับฉันไป แล้วจะทำทุกอย่างราบรื่นได้งั้นเหรอ?”
กู้หยุนเซินเป็นคนแข็งแกร่งตั้งแต่เด็ก เคยชินกับความรู้สึกของการควบคุมทุกสิ่ง ถึงเขาจะชอบเสิ่นเยว่ซี แต่เห็นเธอทำท่าทางแบบนี้ ในดวงตาลุ่มลึกน่ากลัวก็เต็มไปด้วยความกดขี่โดยไม่รู้ตัว
เสิ่นเยว่ซีเห็นกู้หยุนเซินเป็นแบบนี้ก็พลันหวาดกลัว ถอยหลังสองก้าวโดยไม่รู้ตัว
“วันนี้แม่เธอไปตรวจร่างกายขั้นพื้นฐาน สุขภาพโทรมมาก ทุกวันต้องใช้ยาและอุปกรณ์นำเข้าราคาแพงมาช่วยชีวิต เธอคิดว่าเลิกกับฉันไปแล้ว เงินเดือนอันน้อยนิดของเธอจะรับผิดชอบไหวเหรอ?”
เสิ่นเยว่ซีขมวดคิ้ว เขาเพิ่งเห็นรายงานการตรวจของแม่ อาการสาหัสจริงๆ จำนวนตัวเลขในใบชำระค่าใช้จ่ายยาวจนน่าตกใจ
“ฉัน……ฉันจะหาวิธี”
เธอมองกู้หยุนเซินอย่างแข็งกร้าว เธอครอบครองตำแหน่งของรักแรกเขา ทั้งๆ ที่รู้ว่ากู้หยุนเซินไม่ชอบเธอ แถมใช้เงินเขาอีก นอนทับดูดเลือดในตัวเขา เรื่องแบบนี้เธอทำไม่ลงหรอก
กู้หยุนเซินแค่นหัวเราะ “ค่าใช้จ่ายการรักษาเรายังไม่ต้องพูดถึง ฉันพาแม่เธอออกมาจากมือเสิ่นมู่เจียง เธอคิดว่าเขาจะยอมรามือง่ายๆ เหรอ? ถ้าฉันเดาไม่ผิด เขาจะจับตาดูการเคลื่อนไหวพวกเธอสองแม่ลูกอยู่ตลอดเวลา เพราะมีฉันอยู่ เขาเลยไม่กล้าลงมือ แต่……”
เขาพูดถึงตรงนี้ ก็เข้าประชิดตัวเสิ่นเยว่ซี พูดข้างหูเธอ “แต่ถ้าตอนนี้ฉันพูดออกไปว่าจะไม่สนใจเรื่องของเธออีก เธอเชื่อไหม ไม่ถึงพรุ่งนี้หรอก เสิ่นมู่เจียงจะบีบบังคับพาแม่เธอออกมาจากโรงพยาบาลแล้วซ่อนตัวไว้ ให้เธอหาไม่เจอตลอดกาล”
ทุกสิ่งทุกอย่างถูกเขาเตรียมการอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย กู้หยุนเซินไม่เคยทำให้ผิดหวังเลย
หัวใจเสิ่นเยว่ซีตึงเครียด พยักหน้าให้กับเขา “ฉันเข้าใจแล้ว ขอบคุณนะ!”
หลังจากกู้หยุนเซินออกไปจากโรงพยาบาล ก็ไปฉองชิ่งเพื่อทำงานนอกสถานที่ตามที่เขาว่าไว้ ไม่กลับมาหนึ่งอาทิตย์ ระหว่างนี้เจียงหยุนก็ถามถึงเขานับครั้งไม่ถ้วน ซึ่งถูกเสิ่นเยว่ซีพูดเพื่อปัดภาระ
ในวันอาทิตย์ เสิ่นเยว่ซีไปที่ห้องทำงานคุณหมอผู้รับผิดชอบของแม่ ต้องการทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรักษาของคุณแม่ในอาทิตย์นี้
ตอนผ่านโต๊ะพยาบาล ก็ได้ยินพยาบาลล้อมวงกันพูดคุย ตอนแรกเสิ่นเยว่ซีไม่สนใจ แต่เมื่อใกล้จะเดินผ่าน จู่ๆ ก็ได้ยินไม่กี่คำ
“ฉองชิ่ง” “แผ่นดินไหว”
หัวใจเธอเต้นตึกตัก จู่ๆ เกิดลางสังหรณ์ไม่ดี รีบพุ่งตัวเข้าไปถาม “พวกคุณกำลังพูดเรื่องอะไร เกิดอะไรขึ้นที่ฉองชิ่ง?”
เธอพุ่งตัวเข้ามาพูดโดยฉับพลัน ทำให้พยาบาลตกใจสะดุ้ง พูดขึ้นอย่างติดอ่าง “เมื่อกี้ในข่าวบอกว่า……ฉองชิ่งเกิดแผ่นดินไหวระดับเจ็ด ร้ายแรงเป็นพิเศษ!”
สมองเสิ่นเยว่ซีขาวโพลน มันเกิดเสียงหึ่งๆ ไปทั่ว โดยรอบไม่ได้ยินอะไรทั้งนั้น
ทั้งสมองมีแค่ความคิดเดียว
กู้หยุนเซิน เขาทำงานนอกสถานที่ที่ฉองชิ่ง ตอนนี้ยังไม่กลับมา!!!!!!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา