เสิ่นเยว่ซีตกตะลึงกับการแนะนำตัวเองของเขา
กู้หยุนเซินเรียกแม่ และยอมรับว่าเขาเป็นสามีของเธออย่างไม่คาดคิด
“ซีซี ลูกแต่งงานแล้วเหรอ?!” สีหน้าของเจียงหยุนรู้สึกทั้งประหลาดใจและรู้สึกผิด “แม่ไม่ได้ไปร่วมงานแต่งของลูกด้วยซ้ำ”
เสิ่นเยว่ซีนิ่งเงียบ ที่จริงแล้วเธอกับกู้หยุนเซินไม่มีพิธีแต่งงานใด ๆ เลยด้วยซ้ำ เธอเป็นเจ้าสาวกำมะลอที่น่าอายและเป็นตัวสำรองที่น่าสมเพช
“รอให้คุณแม่หายป่วยแล้ว ผมกับซีซีจะจัดพิธีแต่งงานอีกครั้งครับ” กู้หยุนเซินกล่าวอย่างเป็นกันเอง ประโยคสั้นๆ ประโยคเดียวทำให้เจียงหยุนรู้สึกดีขึ้นมาก
หากกู้หยุนเซินอยากจะทำให้ใครพึงพอใจแล้วล่ะก็ มันง่ายมากที่เขาจะได้รับความโปรดปรานจากผู้อื่น
เขารู้จักพูดจา กิริยาท่าทีมีความโดดเด่นแถมหน้าตายังหล่อเหลาอีกด้วย
เจียงหยุนถูกใจลูกเขยคนนี้มาก ทั้งสองพูดคุยกันอย่างออกรส จนกู้หยุนเซินออกจากห้องผู้ป่วยเพื่อไปคุยโทรศัพท์ เจียงหยุนก็ยังคุยไม่หนำใจเลย
“แม่ แม่ดูจะดีกับเขามากกว่าหนูอีก หนูอิจฉาแล้วนะ ”เสิ่นเยว่ซีหน้ามุ่ย แกล้งทำเป็นไม่พอใจ
เจียงหยุนจิ้มไปที่จมูกของเธอ “เด็กโง่ แม่ดีกับเขาก็แค่หวังว่าเขาจะดีกับลูก เด็กคนนี้หน้าตาไม่เลวจริงๆ ดวงตาสุกใส แข็งแกร่งแต่สุภาพ เหมาะสมกับลูกสาวของแม่มาก เขาจะดูแลลูกเป็นอย่างดีแน่นอน”
เมื่อเสิ่นเยว่ซีได้ยินเข้าก็รู้สึกเจ็บปวดหัวใจ กู้หยุนเซินดีมากจริงๆ น่าเสียดายที่ท้ายที่สุดแล้วเขาก็ไม่ใช่ของเธอ
ด้วยความกลัวว่าแม่ของเธอจะเห็นอะไรบางอย่าง เธอจึงเปลี่ยนเรื่องอย่างทันควัน “แม่ ทำไมในตอนแรกแม่คบหากับเสิ่นมู่เจียงล่ะคะ?”
คำถามนี้ถูกเก็บไว้ในใจของเธอมานานหลายปี และในที่สุดเธอก็สามารถถามมันออกไปได้
เมื่อเจียงหยุนได้ยินเธอเอ่ยถึงเรื่องนี้ เธอก็บอกไปตามตรงโดยที่ไม่ได้ปิดบัง
ในตอนนั้น เพื่อเลี่ยงสัญญาการแต่งงานที่ครอบครัวของเธอจัดขึ้น เจียงหยุนจึงหนีออกจากบ้านและมาที่เมืองจิ้นเพียงลำพัง ทันทีที่ลงจากรถไฟ เงินและโทรศัพท์มือถือของเธอทั้งหมดที่ติดตัวมาก็ถูกขโมยไป เธอเป็นเพียงหญิงสาวตัวเล็ก ๆ อ่อนแอและช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ที่เพิ่งเข้าสู่วัยผู้ใหญ่ เธอถูกตัดขาดจากครอบครัวและไร้ที่พึ่ง
ในช่วงเวลานี้เสิ่นมู่เจียงก็ปรากฏตัวขึ้น เขาในตอนเยาว์วัยน้องเป็นคนสุภาพและรูปงาม พูดจาดีมีการศึกษา เขารักเจียงหยุนตั้งแต่แรกเห็น หลังจากนั้นทั้งสองก็ตกสู่ห้วงแห่งรักกันอย่างรวดเร็ว
เจียงหยุนรู้สึกมาโดยตลอดว่าตนเองช่างโชคดีที่ได้พบกับคู่ชีวิตที่สมบูรณ์แบบเช่นนี้
แต่เมื่อเธอตั้งครรภ์ได้สี่เดือน กวนฉิงก็พาเขามาพบเธอ เธอจึงได้รู้ความจริงว่าเสิ่นมู่เจียงแต่งงานและมีลูกแล้วด้วย และตัวเธอเองก็เป็นเมียน้อย
กวนฉิงไม่ฟังคำอธิบายของเธอ และลากเธอออกมาประจานอย่างไม่เลือกหน้า
เจียงหยุนเป็นคนหยิ่งทะนง เธอไม่อยากถูกใครเหยียดหยามจึงออกจากชีวิตของเสิ่นมู่เจียง แล้วหลบซ่อนตัวอยู่ในชนบทและให้กำเนิดลูกโดยลำพังอย่างลับๆ
เธอมีนิสัยดื้อรั้น ในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุดเธอก็ทนกัดฟันแบกรับและเลี้ยงดูเสิ่นเยว่ซีด้วยตัวคนเดียว
ก่อนที่เธอจะมีอายุ 12 ปี เสิ่นเยว่ซีคิดมาโดยตลอดว่าเธอไม่มีพ่อ จนกระทั่งวันเกิดปีที่ 12 ของเธอ เสิ่นมู่เจียงตามหาทั้งสองคนจนเจอ และยืนยันที่จะพาเสิ่นเยว่ซีกลับตระกูลเสิ่นไปให้ได้
“ลุงหลิน สองสามวันมานี้อู๋จิ้งหย่าพักอยู่ที่โรงแรม คุณไปจัดการให้เธอไปพักที่บ้านพักจวินจิ่งโฮมเขตเฉิงตงก่อน”
เสิ่นเยว่ซีเดินเข้ามาใกล้ยิ่งขึ้น ก็ได้ยินประโยคนี้เข้า ฝีเท้าของเธอหยุดชะงัก รอยยิ้มแดกดันปรากฏขึ้นตรงมุมปาก
จวินจิ่งโฮมอย่างนั้นเหรอ!
แถบบ้านพักที่ร่ำรวยที่มีชื่อเสียงของเมืองจิ้น ราคาของบ้านพักหนึ่งชุดสูงถึงร้อยล้าน หากไม่มีเส้นสายและอำนาจ แม้ว่าจะมีเงิน ก็ไม่สามารถซื้อมันได้
หึ กู้หยุนเซินใจกว้างกับเธอเสียจริง!
เธอรู้สึกโกรธอย่างอธิบายไม่ถูก จึงจงใจก้าวฝีเท้าของเธอให้หนักขึ้นจนเกิดเสียงดัง รองเท้าส้นเข็มเหยียบลงบนพื้น ส่งเสียงดังกึกก้อง
กู้หยุนเซินได้ยินเสียงเข้า ก็หันไปเห็นเสิ่นเยว่ซี เขาชะงักอยู่ครู่หนึ่ง สีหน้าของเขากับไร้ซึ่งความตื่นตระหนก เขาฝากฝังกับลุงหลินอีกสองสามประโยคอย่างสงบนิ่งแล้วจึงวางสาย
“คุณคุยกับแม่เรียบร้อยแล้วเหรอ?”เขาเอ่ยถาม
เสิ่นเยว่ซียืนอยู่เบื้องหน้าเขานิ่ง ไม่ได้ตอบกลับ เพียงเอ่ยปากบอกว่า “ขอโทษนะเมื่อกี้ฉันบังเอิญไปได้ยินเรื่องที่คุณคุยในสายเข้า”
เธอหัวเราะออกมาอย่างแผ่วเบา รอยยิ้มของเธอไม่ตรงกับสิ่งที่อยู่ในใจ
“ประธานกู้ นี่จะสร้างเรือนทองไว้เฝ้าเมียน้อยเหรอ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา