“เสิ่นเยว่ซี คุณหมายความว่ายังไง?”
ดวงตาของอู๋จิ้งหย่าเบิกกว้างด้วยความไม่อยากจะเชื่อ “ฉันมีน้ำใจให้หยุนเซินพาคุณไปส่งโรงพยาบาล คุณกลับมาไล่ฉันลงจากรถอย่างนั้นเหรอ”
“หยุนเซิน คุณดูสิ!”เธอหันหน้าไปฟ้องกู้หยุนเซินเหมือนเด็ก
เสิ่นเยว่ซีมองดูท่าทีเสแสร้งของเธอด้วยสีหน้าทนไม่ไหว “ไม่ต้องดูใครทั้งนั้นแหละ!คุณเพิ่งพูดเองไม่ใช่เหรอว่ากู้หยุนเซินทำเรื่องใหญ่ให้เป็นเรื่องเล็ก?ฉันเห็นแล้วแผลบนนิ้วของคุณไม่กี่นาทีเดี๋ยวก็หาย ดังนั้นอย่าใช้ทรัพยากรทางการแพทย์ของชาติไปอย่างเปล่าประโยชน์”
ขณะที่เธอกล่าว เธอก็พลางก้มหน้าลงคุ้ยหาของในกระเป๋าใบเล็กของเธอ แล้วโยนพลาสเตอร์พันแผลเข้าไปในอ้อมแขนของอู๋จิ้งหย่า “อันนี้ฉันให้คุณ คุณเอาไปแล้วก็ลงจากรถได้แล้ว!”
โชคดีด้วยอาชีพทางการเป็นแพทย์ของเธอ จึงพกพลาสเตอร์ติดแผลไว้ในกระเป๋าตลอด มีประโยชน์จริงๆ เชียว!
อู๋จิ้งหย่าชูพลาสเตอร์ติดแผลขึ้น เธอโกรธจนหน้าอกของเธอกระเพื่อมขึ้นลงไม่หยุด “เสิ่นเยว่ซี คุณ……”
“ทำไม จะต้องให้ฉันติดให้คุณด้วยไหม?”เสิ่นเยว่ซีเงยสายตาอันแหลมคมขึ้นมอง เธออยู่กับกู้หยุนเซินมานานขนาดนี้แล้ว เธอเลียนแบบสายตาของเขามาเหมือนมากเสียจนทำให้อู๋จิ้งหย่ารู้สึกกลัว
เสิ่นเยว่ซีไม่อยากจะยุ่งเกี่ยวกับเธอ ดังนั้นเธอจึงมองไปที่กู้หยุนเซินอย่างไร้อารมณ์ “ถ้าคุณมีใจที่อยากจะไปส่งฉันจริงๆ ก็อย่าทำเรื่องแบบนี้ให้ฉันรังเกียจ ฉันไม่มีเวลาแล้ว เสียเวลา!”
หลังจากกล่าวจบ เธอก็กำลังจะหันหลังกลับจากไป
ก่อนที่จะก้าวออกไปไกล เธอก็ถูกกู้หยุนเซินเรียกเอาไว้ “คุณรอก่อน ผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล!”
เสิ่นเยว่ซีหันหน้าไปเห็นว่าอู๋จิ้งหย่าลงจากรถด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความไม่เต็มใจ และเมื่อเห็นว่าเธอมองมา รอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าของเธอทันที
“ซีซี เมื่อกี้นี้ฉันนั่งตรงนั้นไปแล้ว ไม่รู้ว่าคุณจะรังเกียจมั้ย”
เสิ่นเยว่ซีเหลือบสายตามองท่าทีทำเป็นแอ๊บของเธอ เสิ่นเยว่ซีก็โก้งริมฝีปากขึ้นยิ้ม “มันจะเป็นอะไรไป?ผู้ชายที่ฉันเคยใช้ คุณเองก็ยังอยากได้เลยไม่ใช่เหรอ !”
“คุณ!”อู๋จิ้งหย่าอารมณ์เสีย รอยยิ้มที่เธอเพิ่งยกสูงขึ้นก็พังทลายลงอีกครั้ง
“ขึ้นมา!”กู้หยุนเซินตบที่นั่งข้างๆ เขาเบาๆ อยู่สองครั้ง การเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างสบายๆ และเป็นไปตามธรรมชาติ ราวกับว่าในตอนนี้ไม่มีแล้วความรู้สึกอึดอัดในใจ
เสิ่นเยว่ซีก็ไม่ได้เอะอะโวยวายอะไร เธอเข้าไปในรถเรียบร้อยแล้วปิดประตูเสียงดังปัง จากนั้นก็บอกคนขับให้ออกรถทันที
รถยนต์เคลื่อนออกไปจากอู๋จิ้งหย่าอย่างรวดเร็ว
เสิ่นเยว่ซีขยับเข้าใกล้ประตูรถมากที่สุดโดยทิ้งระยะห่างระหว่างทั้งสองคนไว้มาก แตกต่างจากอู๋จิ้งหย่าที่ต้องการเกาะติดกู้หยุนเซินในเมื่อครู่
กู้หยุนเซินเห็นว่าเธอกระตือรือร้นที่จะอยู่ให้ห่างจากเขา ก็ขมวดคิ้วด้วยสีหน้าไม่พอใจ
เสิ่นเยว่ซีบังเอิญไปเห็นสีหน้าของเขา เธอคิดว่าเขาไม่พอใจที่ตนเองไล่อู๋จิ้งหย่าลงจากรถ เธอรู้สึกไม่สบายใจ เม้มริมฝีปากและอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถามออกไป “นี่คุณชอบเธอขนาดนั้นเลยเหรอ?”
“หืม?”กู้หยุนเซินหันมามองด้วยแววตาเย็นชาของเขา ซึ่งทำให้เสิ่นเยว่ซียิ่งเศร้าและหวาดกลัวขึ้นมา
ทันใดนั้นเธอเองก็อยากที่จะเอ่ยถามอะไรอีก จึงเปลี่ยนเรื่องทันที “เสิ่นมู่เจียงเดาออกแน่นอนว่าเป็นคุณที่ช่วยแม่ของฉันออกมา มันจะทำให้คุณมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?ฉันรู้ว่าเขาเป็นคนโหดร้ายไร้ซึ่งความปรานี และชอบเล่นงานคนข้างหลัง”
“ไม่มีทาง!”กู้หยุนเซินนั่งในท่าสบายๆ มือขวาวางอยู่บนพนักอย่างเป็นธรรมชาติ และระยะห่างระหว่างคนทั้งสองก็แคบลงจนแทบจะมองไม่ออก
“เรื่องนี้มันเป็นเรื่องผิดกฎหมายอยู่แล้ว ยังไงเขาก็ไม่กล้าแพร่งพรายออกไป ดังนั้นคุณไม่ต้องกังวลว่าคนอื่นจะรู้ ผมเป็นคนทำลายเขา เขาต้องเพ็งเล็งเป้าหมายมาที่ผมอย่างแน่นอน แต่จากสถานการณ์ในตอนนี้ของเสิ่นซื่อ กรุ๊ปแล้ว เขาทำอะไรผมไม่ได้หรอก!”
ขณะที่เขากล่าวคำพูดนี้ออกไป สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความมั่นใจและเจือไปด้วยความเย่อหยิ่ง
วันนี้ถูกพาตัวออกมาจากบ้านพักคนชรานั้น เธอคิดว่าตัวเองแค่เปลี่ยนที่ตายเท่านั้น ไม่คาดคิดเลยว่าจะมีเรื่องที่คาดไม่ถึงเช่นนี้เกิดขึ้น
เธอได้พบกับลูกสาวของตนเอง ซีซีเติบโตขึ้นแล้ว และงดงามขึ้นมาก
“แม่คะ หนูขอโทษ หนูมันไร้ประโยชน์ ที่ทำให้แม่ต้องตกอยู่ในที่บ้าๆ นั้นเป็นเวลากว่าสิบปีเต็ม” เสิ่นเยว่ซีเอ่ยออกมาด้วยความรู้สึกผิด
เจียงหยุนยิ้มอย่างอ่อนโยน “มันไม่ใช่ความผิดของซีซี ลูกยังเด็กมากนักจะไปสู้กับไอ้สารเลวอย่างเสิ่นมู่เจียงได้อย่างไรกัน!”
เธอถูกทรมานมาเป็นเวลากว่าสิบปี เนื่องจากอาการเจ็บป่วยในระยะยาว ใบหน้าของเธอจึงซีดขาวไร้สีเลือด เธอดูต่างจากคนในวัยเดียวกัน มีเพียงใบหน้าเท่านั้นที่สามารถมองเห็นรูปลักษณ์ที่อ่อนเยาว์ในอดีตของเธอได้
เมื่อเสิ่นเยว่ซีเห็นเธอในสภาพเช่นนี้ ก็รู้สึกขมขื่นในหัวใจ มากไปกว่านั้นคือความเกลียดชังในตัวเสิ่นมู่เจียง เธออยากจะหั่นเขาออกเป็นชิ้นๆ
ไอ้สารเลวแบบนั้นเป็นพ่อของเธอได้อย่างไรกัน!
เมื่อกู้หยุนเซินเห็นแม่ลูกพูดคุยกันอย่างใกล้ชิด รู้สึกเจ็บปวดและรู้สึกไม่พอใจอย่างมาก
เสิ่นเยว่ซีไม่เคยทำตัวออดอ้อนต่อหน้าเขา และไม่เคยที่จะพึ่งพาเขาขนาดนี้เลย
เขาคิดว่าเสิ่นเยว่ซีจะเป็นคนขี้อายและเก็บตัว แต่พอเห็นเธอขณะที่อยู่กับแม่ของเธอในตอนนี้ เขากลับพบว่าเสิ่นเยว่ซีเองก็เป็นหญิงสาวที่น่าทะนุถนอม ที่ชอบทำตัวออดอ้อน เพราะเธอรู้ว่าแม่รักเธอ และจะยอมเธอ
เจียงหยุนกอดเธอเอาไว้พลางพูดคุยกับเสิ่นเยว่ซี ทันใดนั้นเธอก็เห็นชายร่างสูงที่ตามเธอมาด้วย เธอชะงักไปชั่วขณะ “คนนี้คือ?”
“เขาคือ…” เสิ่นเยว่ซีพูดถึงตรงนี้แล้วก็อดไม่ได้จะขมวดคิ้ว เธอไม่รู้ว่าจะแนะนำตัวเขาว่าอย่างไรดี
กู้หยุนเซินจัดชุดสูทให้เข้าที่ แล้วเดินก้าวไปข้างหน้า รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าเย็นชา “คุณแม่ครับ นี่เป็นครั้งแรกที่เราพบกัน ผมกู้หยุนเซิน เป็นสามีของซีซีครับ!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา