หวานใจประธานเย็นชา นิยาย บท 28

 ในงานประมูลเสนอราคา กู้หยุนเซินนั่งอยู่บนเวที เขาเอาแต่ก้มหน้ามองดูวิดีโอในโทรศัพท์อยู่ตลอด ผู้จัดการแผนกที่อยู่ข้างๆ ยังกลัวจนใจเต้นรัวและสงสัยว่าได้ทำอะไรบกพร่องตรงไหนหรือเปล่า

    ไม่เช่นนั้นเพราะเหตุใดกู้หยุนเซินถึงมีท่าทีที่ดูขมขื่นและเต็มไปด้วยความไม่พอใจแบบนี้  เขาเข้ามาในบริษัทเป็นเวลาหลายปีขนาดนี้เคยเห็นกู้หยุนเซินวางแผนกลยุทธ์ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความเย็นชา แต่กลับไม่เคยเห็นเขามีท่าทีแบบนี้มาก่อน

    “ดิ๊งด่อง”

    โทรศัพท์มือถือส่งเสียงดังขึ้น กู้หยุนเซินก้มหน้าลงดูทันที ก็เห็นกล่องสนทนาของเขากับเสิ่นเยว่ซี 

    เธอตอบกลับมาแล้ว!

    กู้หยุนเซินมองไปที่กระต่ายน้อยน่ารักที่มีดวงตาแวววับบนหน้าจอ มุมปากของเขาก็ปรากฏรอยยิ้มขึ้น มันเต็มไปด้วยความหลงใหลรักใคร่ 

    กระต่ายน้อยตัวนี้เหมือนเธอจริงๆ ความน่ารักก็เช่นกัน

    จนผู้จัดการที่อยู่ข้างๆ เอ่ยเตือนเขาเบาๆ กู้หยุนเซินจึงได้ละสายตาจากหน้าจอและวางโทรศัพท์ลง ใบหน้าของเขาเย็นชาราวกับน้ำค้างแข็ง ทั้งเคร่งขรึมทั้งน่าหวาดหวั่น

    “เริ่มกันได้เลย!”

    การประมูลเสนอราคาเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการ เสิ่นมู่เจียงนั่งอยู่ด้านล่างเวที เขามีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความมั่นใจว่าตนจะเอาชนะได้อย่างแน่นอน  

    ไม่รู้เลยแม้แต่น้อยว่าตนกำลังจะเผชิญกับอะไรขึ้นต่อไป 

    ……

    ถึงแม้ว่าเสิ่นเยว่ซีจะปวดระบมไปทั้งตัว แต่เธอก็ไม่ได้นอนเฉยๆ อยู่บนเตียง เธอกำลังเตรียมของให้แม่ของเธออย่างแข็งขัน พวกเธอสองคนแม่ลูกไม่ได้เจอกันมาเป็นสิบปีแล้ว และเธอก็ไม่รู้ว่าแม่ของเธอจะจำเธอได้หรือไม่ 

    เมื่อกำลังจะเสร็จสิ้นการประมูล เสิ่นเยว่ซีหยุดสิ่งที่เธอทำอยู่และเปิดโทรศัพท์ ในขณะที่เสียงเรียกเข้าดังขึ้นอย่างบ้าคลั่ง 

    เป็นเสิ่นมู่เจียง!

    เขามากล่าวว่าของเธอแล้ว! 

    เสิ่นเยว่ซีหัวเราะเสียงเย็น ทันทีที่กดรับสายโทรศัพท์ เสียงร้องคำรามมาจากอีกด้านหนึ่งก็ดังขึ้น จนทำให้แก้วหูของเธอแสบไปหมด

    “เสิ่นเยว่ซี แกกล้าดียังไงมาเล่นตุกติกกับฉัน ไหนแกบอกว่าแกคุยกับกู้หยุนเซินเรียบร้อยแล้วไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมเสิ่นซื่อ กรุ๊ปถึงไม่ชนะการประมูล ฉันก็ขานออกไปหมดแล้ว ทำไมสุดท้ายฝ่ายชนะการประมูลถึงเป็นตระกูลเวิน”

    เสิ่นมู่เจียงกระหืดกระหอบ  เขาโกรธจนอยากจะฆ่าเสิ่นเยว่ซีเสียขณะที่อยู่ในสาย 

    เสิ่นเยว่ซีดึงโทรศัพท์ออก หลังจากที่เขาระบายจนหมดแล้ว จึงดึงโทรศัพท์กลับอีกครั้งและกล่าวอย่างช้าๆ “พ่อ ฉันแค่บอกว่าฉันพูดถึงเรื่องนี้กับกู้หยุนเซินแล้วแค่นั้นเอง แต่ไม่ได้บอกว่ากู้หยุนเซินตอบตกลงสักหน่อย พ่อเข้าใจผิดเอง จะมาโทษฉันได้อย่างไร”

    เสิ่นมู่เจียงชะงักไปครู่หนึ่ง และเมื่อนึกย้อนกลับไปถึงสิ่งที่เธอพูดเมื่อเช้านี้ เธอไม่ได้บอกว่าเสิ่นซื่อ กรุ๊ปจะชนะการประมูลอย่างแน่นอนจริงๆ ด้วย 

    ให้ตายเถอะ เขาถูกเสิ่นเยว่ซีเล่นงานเข้าให้แล้ว!

    สีหน้าของเสิ่นมู่เจียงอึมครึม ความอ่อนโยนและการเสแสร้งทั้งหมดบนใบหน้าของเขาพลันหายไป เขาดูน่าหวาดกลัวอย่างมาก

    “เสิ่นเยว่ซี แกลืมไปแล้วหรือว่าแม่ของแกยังอยู่ในมือของฉัน ในเมื่อแกกล้าเล่นตุกติกกับฉัน หลังจากนี้ฉันจะสั่งให้คนหยุดยาของแม่แก ตอนนี้แม่ของแกป่วยร้ายแรงขนาดนั้น ถ้าหยุดยาล่ะก็ แกรู้ไหมว่าจะเกิดอะไรขึ้น?”

    กล่าวมาถึงตรงนี้ เขาก็หัวเราะออกมาอย่างชั่วร้าย “ถ้าแม่แกตาย ก็เป็นเพราะแกนั่นแหละที่ฆ่า”

    เสิ่นเยว่ซีกำโทรศัพท์พลางฟังคำพูดบ้า ๆ ของเขา ในใจรู้สึกยินดีอย่างยิ่ง โชคดีที่ตนเองเลือกไปหากู้หยุนเซินและไม่ได้เลือกที่จะทำงานให้กับเสิ่นมู่เจียง 

    คนเห็นแก่ตัว เจ้าเล่ห์เพทุบาย มืดดำและไร้ซึ่งความปรานีอย่างเขารังแต่จะทำให้คุณค่าที่เหลืออยู่ของเธอสลายไป อย่างไรเขาก็จะไม่มีวันปล่อยพวกเธอสองแม่ลูกไปง่ายๆ

    “ตามใจ เสิ่นมู่เจียง ฉันไม่ได้ติดหนี้อะไรพ่อ ตั้งแต่นี้ไปก็ถือว่าฉันไม่ได้เป็นลูกสาวคุณ และฉันก็จะถือว่าคุณไม่ได้เป็นพ่อของฉันเหมือนกัน”

    “ยัยลูกสาวตัวดี……”

    เสิ่นเยว่ซีกล่าวจบแล้วก็ไม่คิดที่จะสนใจเขาอีก  เธอวางสายทันที และบล็อกหมายเลขโทรศัพท์ของเขาเอาไว้

    คำที่เธอเรียกเขาว่าพ่อ มันทำให้เธอรู้สึกขยะแขยงเต็มทน เธอเพียงต้องการที่จะตัดสัมพันธ์กับเขาและอยู่ห่างจากเขา 

    ทางด้านของเสิ่นมู่เจียง 

    ไม่ทันที่เขาจะได้กล่าวจบ โทรศัพท์ก็ถูกเสิ่นเยว่ซีตัดสาย เขาโกรธมากจนควันออกหูที่ได้ยินเสียงวางสายจากอีกฝ่าย 

    เป็นอย่างนี้ได้อย่างไรกัน เสิ่นเยว่ซีไม่ได้สนใจแม่ของตนเองมากที่สุดอย่างนั้นหรือ?ทำไมเมื่อครู่ถึงได้มีความรู้สึกมาดมั่นขนาดนั้น?

    หลังจากความรู้สึกโกรธได้ผ่านไป ยิ่งเสิ่นมู่เจียงคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้มากเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติมากขึ้นเท่านั้น เขามีลางสังหรณ์ใจไม่ดี ดังนั้นจึงรีบขับรถไปที่บ้านพักคนชราซึ่งแม่ของเสิ่นเยว่ซีพักอยู่

    บ้านพักคนชราแห่งนี้เปิดขึ้นอย่างลับๆ โดยตระกูลเสิ่น ไม่ค่อยมีใครรู้เรื่องนี้นัก เขาขังแม่ของเสิ่นเยว่ซีไว้ที่นี่เป็นเวลากว่าสิบปีและไม่มีใครคนไหนรู้เรื่องนี้เลย 

    ปกติแล้วเขามีความมั่นใจอย่างมากว่าเสิ่นเยว่ซีจะไม่มีทางหาที่นี่เจอแน่นอน แต่ตอนนี้กลับไม่แน่ใจเสียแล้ว 

    เสิ่นเยว่ซีนิ่งสงบเกินไป นี่มันผิดปกติมาก!

    ทันทีที่เขาลงจากรถ ผู้ดูแลที่ได้ทราบข่าวล่วงหน้าแล้ว จึงไปต้อนรับเขาที่หน้าประตูบ้านพัก “ประธานเสิ่น ทำไมท่านถึงมาที่นี่ด้วยตัวเองล่ะครับ?”

    “เจียงหยุนล่ะ?เธอเป็นยังไงบ้าง!”เสิ่นมู่เจียงไม่มีเวลาจะมากล่าวทักทาย ดังนั้นเขาจึงถามออกไปอย่างตรงประเด็น 

    ผู้ดูแลตะลึงงัน “ เมื่อเช้านี้ท่านส่งคนมารับตัวเธอออกไปไม่ใช่เหรอครับ?”

    “ฉันไปสั่งตอนไหน…ให้ตายเถอะ!”เสิ่นมู่เจียงกล่าวได้เพียงครึ่งประโยค ก็นึกถึงบางสิ่งขึ้นมาได้ ทันใดนั้นความโกรธก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา เขาก็ชกไปที่ลำต้นของต้นไม้ที่อยู่ใกล้เคียงอย่างรุนแรง 

    “คุณมารอผมตรงหน้าประตูแล้วกัน ผมกำลังกลับบ้านเดี๋ยวสักพักผมจะพาคุณไปโรงพยาบาล” กู้หยุนเซินรู้สึกได้ถึงความตื่นเต้นและรอยยิ้มที่ปรากฏขึ้นในดวงตาของเธอ 

    “กู้หยุนเซิน ขอบคุณนะ” เสิ่นเยว่ซีหยุดนิ่ง เธอก้มหน้ามองลงไปที่รองเท้าหนังคู่เล็กของตน และเอ่ยขอบคุณเสียงเบา

    “ไม่เป็นไร พอดีผมผ่านทางพอดี”

    สิบนาทีหลังจากที่ทั้งสองวางสายโทรศัพท์ รถยนต์สีดำคันเรียบก็ขับเข้ามา 

    เป็นรถของกู้หยุนเซิน 

    เสิ่นเยว่ซีโบกมืออย่างตื่นเต้น เธอวิ่งเหยาะๆ ไปเปิดประตูทางด้านหลัง และพบว่ามีคนนั่งอยู่ข้างๆ กู้หยุนเซินอยู่ก่อนแล้ว

    อู๋จิ้งหย่ากำนิ้วที่บาดเจ็บของเธอ และมองเธอด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ซีซี คุณก็ไปโรงพยาบาลได้เหมือนกันเหรอ!”

    วันดีๆ ของเสิ่นเยว่ซีถูกทำลายลงในพริบตา รอยยิ้มตรงมุมปากของเธอหุบลง เธอมองไปที่กู้หยุนเซินด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยคำถาม  

    กู้หยุนเซินจ้องมองเธออยู่นานแล้ว ตั้งแต่เธอวิ่งมา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึง เขาไม่เคยเห็นเธอแต่งตัวจริงๆ จังๆ เลย โดยปกติเธอก็สวยมากอยู่แล้ว แต่วันนี้เธอตั้งใจแต่งตัวสวยเป็นพิเศษยิ่งทำให้ละสายตาไม่ได้

    คอเสื้อตุ๊กตาปิดลำคอและกระดูกไหปลาร้าของเธออย่างมิดชิด แต่ทว่ารอยที่เขาทิ้งไว้เมื่อคืนนี้ก็สามารถเห็นได้รางๆ บนผิวขาวชุ่มชื้นของเธอ

    กู้หยุนเซินมองไปที่มันด้วยสายตาที่ล้ำลึกมากยิ่งขึ้น

    ในรถค่อนข้างมืด เสิ่นเยว่ซีจึงไม่ได้สังเกตถึงสิ่งเหล่านี้ แต่อู๋จิ้งหย่าที่อยู่ข้างๆ กลับมองเห็นสีหน้าของกู้หยุนเซินได้อย่างชัดเจน 

    อู๋จิ้งหย่ากัดฟันกรอด ในใจพยายามอดกลั้นความอิจฉาเอาไว้ แสร้งมองเสิ่นเยว่ซีอย่างใจกว้าง

    “ฉันเผลอทำมีดบาดนิ้วมือน่ะ หยุนเซินก็เอาแต่ยืนกราน ทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ จะพาฉันไปทำแผลที่โรงพยาบาลให้ได้ ตอนที่กำลังเดินทางฉันได้ยินคุณคุยกันในสายเลยรู้ว่าคุณกำลังจะไปโรงพยาบาลด้วยเหมือนกัน ก็เลยบอกให้คนขับรถมารับคุณไปด้วยกัน อันที่จริงฉันไม่จำเป็นต้องไปโรงพยาบาลด้วยซ้ำ แค่บาดแผลเล็กๆ เอง”

    รถคันนี้เป็นของตระกูลกู้ แล้วกู้หยุนเซินก็เป็นสามีของเสิ่นเยว่ซี เมียน้อยอย่างอู๋จิ้งหย่ากลับพูดเหมือนกับว่าตนเองมีบุญคุณต่อเธอเสียอย่างนั้น 

    แววตาของเสิ่นเยว่ซีเปลี่ยนเป็นเย็นชาในทันที เธอดึงประตูรถจนสุดแล้วชี้ไปที่ด้านนอก 

    “ถ้าอย่างนั้น คุณก็ลงมาเถอะ!”

    “อะไรนะ?”

    อู๋จิ้งหย่าตะลึงงันอยู่ครู่หนึ่ง 

    

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา