หวานใจประธานเย็นชา นิยาย บท 27

    “ลุงหลินบอกว่าคุณมีเรื่องสำคัญจะคุยกับผม มีเรื่องอะไรเหรอ?”

    กู้หยุนเซินมองเห็นอาหารที่ยังไม่ถูกแตะวางอยู่บนโต๊ะ พอมองก็เห็นว่าอาหารยังไม่พร่องเลย เธอรอเขากลับมาจนตอนนี้เธอก็ยังไม่ได้ทานข้าวเย็นเลยเหรอ?

    เขามองไปที่เสิ่นเยว่ซี พลางขมวดคิ้วแน่น บาดแผลของเธอยังไม่หายดีเลย ทำไมถึงไม่ยอมทานข้าว

    เสิ่นเยว่ซีเห็นสีหน้าของเขาก็คิดว่าเขากำลังตำหนิโทษตนเองที่รบกวนเวลาของเขากับอู๋จิ้งหย่า 

    เล็บนิ้วมือจิกลงบนฝ่ามืออย่างแรง และทุกครั้งที่เธอหายใจ เธอรู้สึกว่าหัวใจของเธอเจ็บปวดราวกับว่ากำลังฉีกขาดเสียอย่างนั้น

    “ใช่ ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ!”

    กู้หยุนเซินวางเสื้อผ้าของเขาไว้บนโซฟาแล้วจึงนั่งลง กลิ่นอายของเธอที่หลงเหลืออยู่บนโซฟา ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลาย เขาถูกจมูกด้วยนิ้วมือเรียว “นั่งลงแล้วคุยกันเถอะ!”

    เสิ่นเยว่ซีนั่งลงตรงข้ามตามที่เขาบอกของเขา ในตำแหน่งที่สงวนท่าทีและทิ้งระยะห่างมาก 

    “คุณเองก็รู้ว่าฉันเป็นลูกสาวนอกสมรสของตระกูลตระกูลเสิ่น อันที่จริงแม่ของฉันยังมีชีวิตอยู่ และตอนนี้ก็ป่วยอยู่ ตลอดเวลาเธอถูกเสิ่นมู่เจียงควบคุมเอาไว้!”

    การเคลื่อนไหวของกู้หยุนเซินหยุดชะงัก เรื่องนี้เขากลับไม่รู้ 

    “งานประมูลเสนอราคาในวันพรุ่งนี้เสิ่นซื่อ กรุ๊ปเองก็จะเข้าร่วมด้วย วันนี้เข้าโทรมาหาฉัน ให้ฉันคุยกับคุณ……” เสิ่นเยว่ซีกล่าวมาถึงตรงนี้ก็รู้สึกอึดอัด เธอเม้มปาก “เขาเอาแม่มาขู่ฉัน และฉันก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรดี ”

    กู้หยุนเซินหรี่ตา สายตาที่เฉียบคมของเขาทำให้เส้นประสาทเธอแกร่งแน่นขึ้นมา

    “คุณเลยมาหาผม ก็เพื่อที่จะให้ผมอ่อนข้อ แล้วให้ เสิ่นซื่อ กรุ๊ปชนะการประมูล?”

    “ไม่ใช่!”เสิ่นเยว่ซีกลัวว่าเขาจะเข้าใจผิด เธอเอาแต่ส่ายหน้าไม่หยุด “ฉันไม่ได้หมายความอย่างนั้น และฉันรู้... ฉันไม่บังอาจขนาดนั้นหรอก!”

    เธอยิ้มอย่างขมขื่น “ฉันแค่อยากให้คุณช่วยแม่ของฉันออกมา”

    เทียบกับเสิ่นมู่เจียงและเสิ่นเยว่ซีแล้ว เธอเชื่อมั่นในกู้หยุนเซินมากกว่า แม้ว่าเขาจะไม่ได้รักเธอและปฏิบัติกับเธอในฐานะตัวแทนของอู๋จิ้งหย่าก็ตาม แต่ในช่วงเดือนก่อน เขาก็ดีกับเธอมากจริงๆ 

    วิธีการของกู้หยุนเซินนั้นโหดเหี้ยม แต่เปิดเผยจริงใจ ในขณะที่เสิ่นมู่เจียงเป็นคนหน้าซื่อใจคด เล่นสกปรกและทำเรื่องเลวทรามในที่ลับ 

    ครั้งนี้เขาใช้แม่มาข่มขู่เธอ ครั้งต่อไปก็อาจจะใช้วิธีการที่ยิ่งรุนแรงมากขึ้น ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่มีที่สิ้นสุด 

    และเสิ่นเยว่ซีก็เชื่อมั่นว่า หากให้เสิ่นมู่เจียงเป็นคนจัดการ เขาก็จะไม่มีทางปฏิบัติกับแม่ของเธออย่างดีแน่นอน  ไม่สู้ขอความช่วยเหลือจากกู้หยุนเซินที่ชัดเจนและจริงใจ 

    กู้หยุนเซินออกโรงเอง จะต้องช่วยแม่ออกมาได้อย่างแน่นอน 

    หลังจากที่เธอกล่าวจบ เธอก็มองไปที่กู้หยุนเซินอย่างมีความหวัง 

    ดวงตาของเธอชุ่มชื้นและเป็นประกายสดใส แม้ว่าเธอจะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อปกปิดมัน แต่ก็ยังคงมีความรักที่ลึกซึ้งซ่อนอยู่ในดวงตาของเธอ หัวใจของกู้หยุนเซินร้อนเป็นไฟ เมื่อได้เห็น เขากระแอมไอเบา ๆ แล้วจึงหันหน้าหลบเล็กน้อย ไม่กล้ามองเธอไปพักหนึ่ง 

    “เอาล่ะ ผม……”

    ในขณะที่กู้หยุนเซินกำลังจะตอบตกลงออกไป จู่ๆ เสิ่นเยว่ซีก็ขัดจังหวะเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว “ฉันรู้ว่าต้องการแลกเปลี่ยนสิ่งที่มีมูลค่าเท่าเทียมกัน ฉันไม่มีอะไรจะให้คุณ เอาอย่างนี้แล้วกัน ถ้าคุณช่วยฉันช่วยแม่ของฉันออกมาได้ ฉัน... ฉันจะยอมหย่าและหลีกทางให้อู๋จิ้งหย่า”

    เธอต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการพูดประโยคนี้ออกมา เธอรู้สึกว่าเลือดในหัวใจของตัวเองกำลังหลั่งไหล

    สีหน้าของกู้หยุนเซินพลันอึมครึมขึ้นมาทันที เขามองไปที่ใบหน้างดงามของเธอ และกัดฟันกรอดด้วยความโกรธ“เสิ่นเยว่ซี คุณนี่มันจริงๆ เลยนะ !”

    ใจกว้างขนาดที่ยกสามีของตัวเองให้กับผู้หญิงคนอื่น ช่างมีน้ำใจเสียจริง

    กู้หยุนเซินรู้สึกโกรธสุดขีด อดไม่ได้ที่จะคว้าเธอเข้ามา และตีไปที่บั้นท้ายของเธออย่างแรงเพื่อให้เธอหลาบจำ 

    เสิ่นเยว่ซีบิดนิ้วมือของเธอแน่น เธอฟังออกว่าเขาโกรธ แต่เธอไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงได้โกรธ เธอเป็นคนที่จะออกไปเอง เพื่อหลีกทางให้ผู้หญิงที่เขารัก เขาควรจะดีใจมากกว่าสิ

    “ตำแหน่งคุณนายน้อยกู้นี้ ฉันอยากจะให้ใครมันเป็นเรื่องปลายเล็บ เสิ่นเยว่ซี จำเป็นต้องให้เธอมาสละมันเหรอ?”

    กู้หยุนเซินหัวเราะเสียงเย็น เสียงต่ำและแหบแห้งเอ่ย “นี่มันไม่ใช่การแลกเปลี่ยนที่เท่าเทียมกัน”

    หัวใจของเสิ่นเยว่ซีหนักอึ้ง “แล้วคุณต้องการอะไร?”

    เธอไม่รู้ว่าต้องทำอย่างไรดี เพื่อที่เขาจะช่วยเหลือแม่ของเธอ เธอจะให้เขาอะไรได้

    กู้หยุนเซินมองเธอด้วยสายตาลึกซึ้ง ทันใดนั้น จู่ๆ เขาก็ลุกขึ้นและเดินไปข้างกายของเธอ ใช้มือใหญ่จับคางของเธอเอาไว้ บังคับให้เธอเงยหน้าขึ้นมองเขา “ก่อนนี้คุณใช้ตัวเองเป็นการแลกเปลี่ยนเพื่อมาอยู่ที่ตระกูลกู้ ครั้งนี้ผมเองก็ไม่ได้ต้องการอะไร แค่คุณอยู่กับผมคืนนี้  ผมก็จะช่วยแม่ของคุณออกมาเอง”

    เขาเคลื่อนไหวอย่างเนิบนาบ ลูบไล้บนผิวบอบบางของเธออย่างมีเลศนัย เสิ่นเยว่ซีกลับรู้สึกหนาวเย็นไปทั้งร่าง  นิ้วมือของเธอสั่นไหวอย่างกลั้นไม่อยู่ 

    “กู้หยุนเซิน คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณกำลังพูดอะไรอยู่?”

    กู้หยุนเซินชักมือออกและยืดตัวตรงอย่างเย็นชา “ผมมีหมดทุกอย่างแล้ว แล้วก็ไม่มีอะไรที่อยากได้ และในตอนนี้ก็สนใจแค่ร่างกายของคุณเท่านั้น”

    เสิ่นเยว่ซีสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ลมหายใจสั่นสะท้าน “อู๋จิ้งหย่าล่ะ คุณกับเธอหลับนอนด้วยกัน ไม่กลัวเธอจะรู้เข้าเหรอ?”

    เมื่อเอ่ยถึงอู๋จิ้งหย่า สายตาของกู้หยุนเซินก็พลันเปลี่ยนเป็นความรังเกียจ เสิ่นเยว่ซีติดอยู่ในห้วงอารมณ์ของตนเอง จึงไม่ได้สังเกตเห็น 

    ล้วนเป็นสายของเสิ่นมู่เจียง

    เธอยิ้มเย็น แล้วโทรหาเสิ่นมู่เจียงกลับ

    พอเสียงดังขึ้น สายโทรศัพท์ก็โทรติด 

    “ซีซี งานประมูลกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว แกได้พูดกับกู้หยุนเซินไปแล้วหรือยัง?”

    น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความหวาดวิตก 

    มุมปากของเสิ่นเยว่ซีโก้งโค้งขึ้น “แน่นอนอยู่แล้ว คุณพ่อวางใจเถอะ!”

    “งั้นก็ดีเลย !”

    น้ำเสียงของเสิ่นมู่เจียงผ่อนคลายลง “ซีซี แกเยี่ยมมาก หลังจากจบเรื่องแล้ว พ่อจะให้แกเจอหน้าแม่ของแก”

    ขณะที่เขากล่าวเช่นนี้ น้ำเสียงของเขาเจือความใจดี ราวกับว่าการที่เขาให้เธอเจอหน้าแม่นั้นเป็นบุญคุณต่อเธอ

    เสิ่นเยว่ซีตอบรับอย่างว่าง่าย

    หลังจากที่วางสาย เธอก็หันหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง ด้านนอกมีแดดสว่างเจิดจ้า ทุกอย่างดูเงียบสงบ 

    เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เสิ่นเยว่ซีก้มลงเปิดดู ก็เห็นว่าเป็นข้อความของกู้หยุนเซินที่ส่งมา

    “ผมรู้แล้วว่าแม่ของคุณอยู่ที่ไหน เมื่อครู่เพิ่งสั่งให้คนไปรับเธอแล้ว อย่างช้าที่สุดเธอจะกลับมาถึงในช่วงบ่ายนี้”

    เสิ่นเยว่ซีลุกยืนขึ้นจากเตียง สองขาของเธอสั่นด้วยความตื่นเต้น เธออ่านข้อความนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก เพียงเพื่อให้แน่ใจว่านี่คือความจริง

    กู้หยุนเซินไม่ได้ผิดสัญญาจริงๆ ตามคาด เขาไปรับแม่เร็วขนาดนี้เลยเชียว

    ใบหน้าของเสิ่นเยว่ซีเต็มไปด้วยความยินดี เธอก้มศีรษะลงตอบกลับข้อความนี้อย่างช้าๆ เธอเลือกใช้คำพูดของเธออย่างระมัดระวังและเต็มไปด้วยความรู้สึกขอบคุณ 

    หลังจากส่งไปแล้วเรียบร้อย เธอคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วจึงกดอีโมจิกระต่ายทำท่าน่ารักส่งไปให้กู้หยุนเซิน

    เรื่องของแม่คลี่คลายได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้แล้ว เธอก็ผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก เมื่อนึกถึงสิ่งที่เสิ่นมู่เจียงกล่าวเมื่อครู่ รอยยิ้มเย้ยหยันตรงมุมปากก็ปรากฏขึ้น 

    เรื่องสนุกเพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น 

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา