หลังจากร้องไห้สักพัก ระบายอารมณ์ออกมาหมดแล้ว เสิ่นเยว่ซีก็สะอึกสะอื้นเด้งตัวออกมาจากอ้อมแขนเขา มองเขาด้วยดวงตาแดงก่ำ นึกถึงความสัมพันธ์ของทั้งคู่ในตอนนี้ ก็รู้สึกกระอักกระอ่วนมาก
“นายบาดเจ็บหรือเปล่า!”
นัยน์ตากู้หยุนเซินอ่อนโยน ส่ายหน้า “ฉันไม่เป็นไร ตอนแผ่นดินไหว ฉันไม่อยู่ในตึกพอดี ระหว่างที่วิ่งออกมาโทรศัพท์เผลอหล่น เลยไม่ได้รับสายเธอ”
ขณะที่ทั้งสองกำลังพูด ทันใดนั้นเสียงอันสดใสมีชีวิตชีวาก็ดังลอยขึ้นมาจากด้านหลัง
“พี่เซิน นี่พี่สะใภ้สินะ!”
เสิ่นเยว่ซีมองไปตามเสียง คนที่มาคือชายวัยยี่สิบห้ากว่าๆ คนหนึ่ง หน้าตาเหมือนกับเสียง คิ้วหนาตาโต ดูสุขภาพดีและสดใส ยิ้มขึ้นมาเห็นฟันขาว แก้มมีลักยิ้มบุ๋มสองข้าง ทำให้รู้สึกดีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว
“ผมเวินจือหลี่ ยินดีที่ได้รู้จัก ตอนพี่เซินพูดถึง ผมยังไม่เชื่อเลย ไม่คิดว่าพี่สะใภ้จะสวยขนาดนี้”
เขาเคยพูดถึงเธอกับเวินจือหลี่จริงเหรอ?
เสิ่นเยว่ซีตกตะลึง หันไปมองกู้หยุนเซิน อย่างไม่อยากจะเชื่อ
กู้หยุนเซินกระแอมไอสองครั้งอย่างอึดอัด แล้วกล่าวแนะนำ “นี่ทายาทตระกูลเวิน”
ก่อนหน้านี้ที่กู้ซื่อ กรุ๊ปประมูล ผู้ชนะประมูลคือตระกูลเวิน กู้หยุนเซินมาทำงานนอกสถานที่ที่ฉองชิ่งครั้งนี้ ก็เพื่อมาตรวจสอบโครงการฉองชิ่งด้วยกันกับเวินจือหลี่ ไม่คิดว่าจะเจอเหตุการณ์แบบนี้
เวินจือหลี่เป็นคนอัธยาศัยดีมาก ทันทีที่มาถึงก็คุยกับเสิ่นเยว่ซีอย่างออกรส
เขาพูดจามีอารมณ์ขัน ถึงแม้เสิ่นเยว่ซียังขอบตาแดงอยู่ ก็ยังถูกเขายั่วให้เม้มปากยิ้ม
เห็นเธออารมณ์ผ่อนคลายมากขึ้น ในใจกู้หยุนเซินก็โล่งอก แต่เห็นท่าทางสองคนคุยกันอย่างมีความสุข คิ้วก็ขมวดแน่น ดวงตาลุ่มลึกน่ากลัวจ้องเขม็งเวินจือหลี่ ในใจอึดอัดอย่างมาก
เธอยิ้มให้ผู้ชายคนอื่นดูดีแบบนั้นได้ยังไง!
ขณะที่เวินจือหลี่พูด ทันใดนั้นก็ตัวสั่น ราวกับโดนสัตว์ดุร้ายอะไรบางอย่างกำลังจ้องมอง
“คุณชาย เตรียมเครื่องบินเรียบร้อยแล้ว กลับเมืองจิ้นได้” ในเวลานี้ลุงหลินพาคนวิ่งมา ถึงแม้แผ่นดินไหวไปแล้ว แต่ที่ฉองชิ่งยังมีอันตรายของอาฟเตอร์ช็อกอยู่ พวกเขาไม่กล้าโอ้เอ้แม้นาทีเดียว
กลับถึงเมืองจิ้นเป็นเวลาสามทุ่มกว่า กู้หยุนเซินเพิ่งลงจากเครื่องบิน เตรียมหันศีรษะไปประคองเสิ่นเยว่ซี ทันใดนั้นก็มีร่างหนึ่งโผเข้าสู่อ้อมกอดเขา
อู๋จิ้งหย่าซบอกกู้หยุนเซิน กอดเอวเขา น้ำเสียงสะอึกสะอื้น “ในที่สุดคุณก็กลับมา หยุนเซิน ฉันเป็นห่วงคุณมากเลยนะ ดีจังเลยที่คุณไม่ได้รับบาดเจ็บ”
เสิ่นเยว่ซีแค่นหัวเราะ ก้าวเท้าไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ดึงเธอออกมาจากอ้อมกอดกู้หยุนเซิน “ในเมื่อเธอเข้าใจสถานะและหน้าที่ตัวเอง ก็ควรรู้ว่าผู้ช่วยจำเป็นต้องช่วยเจ้านายทำเรื่องธุรกิจเท่านั้น ซบอกเจ้านายร้องหาความปลอบโยน นี่คือสิ่งที่ผู้ช่วยอย่างเธอควรทำงั้นเหรอ?”
อู๋จิ้งหย่าจับปลายกระโปรงตัวเองเหมือนทำอะไรไม่ถูก ใบหน้าแสดงสีหน้าน่าสงสารออกมา คนที่ไม่รู้เมื่อเห็นภาพนี้จะนึกว่าเหมือนเสิ่นเยว่ซีรังแกเธอ
“หยุนเซิน ฉันคิดว่าคุณหนูเสิ่นคงเข้าใจฉันผิด ฉันแค่เป็นห่วงคุณมาก ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้ ขอโทษนะคะ คราวหน้าฉันจะไม่หุนหันพลันแล่นอีก”
เสิ่นเยว่ซีลืมไปเลยว่าหนึ่งวันแล้ว ที่ไม่ค่อยได้กินข้าวและพักผ่อน
กู้หยุนเซินไม่อยากเสียเวลามากมายกับอู๋จิ้งหย่า เพราะคนของลุงกู้เอ้อด้านหลังเธอ เขาจึงกลั้นอารมณ์ร้อนของตัวเองเอาไว้ หันไปพูดกับเสิ่นเยว่ซีว่า “เสิ่นเยว่ซี เธอกลับบ้านไปพักผ่อนก่อน ฉันจะไปบริษัทกับหล่อนหน่อย จะจัดการธุระบางอย่าง”
ตอนอยู่ฉองชิ่งยังกอดเธอเรียก “ซีซี” อยู่เลย พอเห็นอู๋จิ้งหย่าแล้วกลับเรียกเธออย่างเฉยเมยห่างเหินว่า “เสิ่นเยว่ซี”
เสิ่นเยว่ซีเม้มปาก มองเขากับอู๋จิ้งหย่ายืนด้วยกัน ชายหล่อหญิงสวย บรรยากาศโดยรอบดีราวกับไม่มีที่สำหรับคนอื่นอีกต่อไป ในใจก็ถูกทิ่มแทงอย่างรุนแรง
เหมือนถูกผีอำ เธออยากจะเอ่ยปากสู้เพื่อตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย
“กู้หยุนเซิน……” เสิ่นเยว่ซีมองเขา น้ำเสียงคลุมเครือ “วันนี้ฉันกลัวนิดหน่อย ฉันอยากให้นายอยู่กับฉัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา