ผู้กรรมการเฉินให้ความสำคัญกับงานเลี้ยงนี้ และเหมาโรงแรมที่ใหญ่ที่สุดในเมืองเทียนจิ้น ห้องรับแขกทั้งชั้นถูกทำเป็นงานเลี้ยง ชั้นบนหลายชั้นต่างกลายเป็นที่พักของแขก ต้องใช้เงินจำนวนมาก
ตอนที่งานเลี้ยงยังไม่เริ่ม หน้าโรงแรมต่างมีรถหรูจอดเป็นจำนวนมาก
กู้หยุนเจ๋อและลุงรองจากตระกูลกู้มาถึงงานเลี้ยงนานแล้ว ลุงกู้เอ้อมาถึงงานก็สังสรรค์กับเพื่อนที่ร่วมทำธุรกิจ
กู้หยุนเจ๋อถือไวน์แดงหลบอยู่ในมุมมืด คนในตระกูลกู้หน้าตาไม่เลว วันนี้ชุดที่เขาใส่ก็ดูเป็นทางการ หากไม่ใช่เพราะชื่อเสียงไม่ดี และสีหน้าตอนนี้ที่แสดงอารมณ์เคร่งขรึม ต้องมีคนไม่น้อยที่เข้ามาคุย
เขามองกวาดในงานเลี้ยงรอบหนึ่ง ไม่พบร่างของกู้หยุนเซินและเสิ่นเยว่ซี รอยยิ้มมุมปากยกขึ้น
ผู้กรรมการเฉินเป็นคนหัวโบราณ เกลียดการมาสายที่สุด หากว่ากู้หยุนเซินกล้ามาเลทในงานเลี้ยงครบรอบนี้ แน่นอนว่าต้องทำให้ผู้กรรมการเฉินไม่พอใจอย่างมาก ของเพียงให้ผู้กรรมการเฉินเกลียดเขาได้มากที่สุด การเอากู้ซื่อ กรุ๊ปของพวกเขาถึงจะยิ่งง่ายขึ้น
งานเลี้ยงเริ่มขึ้นได้ห้านาที โถงรับแขกในงานยิ่งนานยิ่งมีคนเยอะ กู้หยุนเซินกับเสิ่นเยว่ซียังคงไม่ปรากฏตัวมา
กู้หยุนเจ๋อถึงได้ยิ้มอย่างพอใจ เขาเห็นตอนนี้ผู้กรรมการเฉินยืนอยู่ที่บันไดชั้นสอง เตรียมพร้อมเดินลงมาเปิดงานเลี้ยง
ถือเบียร์กำลังจะเดินลงมา ทันใดนั้นก็ได้ยินเสียงตกใจจากหน้าประตูดังขึ้นมา
กู้หยุนเจ๋อหันกลับไปมอง มองเห็นหน้าประตูมีคนเข้ามาสองคน เขาโกรธจนเกือบจะบีบแก้วในมือจนแตก
หน้าประตูเป็นกู้หยุนเซินและเสิ่นเยว่ซี!
ท่าทางสง่าของกู้หยุนเซิน ใบหน้าหล่อเหลาดึงดูดคน ง่ายต่อการเป็นจุดสนใจในงานทั้งหมด แถมผู้หญิงที่ควงมายิ่งทำให้คนตกตะลึง
หากไม่พูดถึงใบหน้างดงามหาที่เปรียบไม่ได้ สิ่งที่ดึงดูดสายตาคนคือชุดสีม่วงชุดนั้น
ครั้งนี้ชุดม่วงไม่ได้เป็นเพียงแค่ผ้า ทั้งนอกในห้าชั้นใช้เนื้อผ้าที่ไม่เหมือนกัน ทุกๆชั้นใช้สีม่วงที่แตกต่างกัน แต่ละชั้นรวมกันเกิดเป็นสีม่วงเหมือนภาพในฝันแบบนั้น
ชายกระโปรงประดับไปด้วยคริสทัลสวารอฟสกี้ทำด้วยมือ รวมกันถึงหนึ่งพันเม็ด
เวลาเดินเหมือนดังดอกไม้สีม่วงลอยไปมามีสีสัน บวกกับใบหน้างดงามไม่มีใครเทียบ ราวกับว่าคนทั้งคนเดินออกมาจากในภาพวาด
พริบตาเมื่อทั้งสองปรากฏตัวดึงดูดสายตาของคนในงานทั้งหมด ผู้กรรมการเฉินเห็นแบบนั้นใบหน้าโบราณเผยรอยยิ้มเล็กๆ
คนภายนอกเข้าใจว่าเขาไม่สนิทกับกู้หยุนเซิน แต่ที่จริงพ่อของกู้หยุนเซินและเขาเป็นเพื่อนสนิทกัน กู้หยุนเซินยิ่งเป็นคนที่เขาเห็นมาแต่เด็กจนโต
ครั้งนี้ตั้งใจให้กู้หยุนเซินพาเสิ่นเยว่ซีมาให้ตัวเองดู
ทั้งสองปรากฏตัวเด่นในงาน นอกจากผู้กรรมการเฉินจะไม่โกรธที่พวกเขามาแย่งความสนใจไป แต่กลับมีความรู้สึกพอใจบางอย่างเหมือนกับลูกชายพาลูกสะใภ้กลับมา
ครั้งแรกที่เสิ่นเยว่ซีถูกคนจำนวนมากมอง กำมือของกู้หยุนเซินและค่อยๆสั่น ทันใดนั้นมือใหญ่ค่อยพลิกกลับจับมือเล็กของเธอกุมไว้ในฝ่ามือหนาแน่น
เสิ่นเยว่ซีใจเต้น เงยหน้ามองกู้หยุนเซิน กลับพบว่าเขามองตรงไปด้านหน้าไม่หันมา
อุณหภูมิของเขาต่ำลง มือใหญ่เย็นเล็กน้อย แต่กลับให้ความอบอุ่นกับเธอไม่รู้จบ
ใจของเสิ่นเยว่ซีค่อยๆสงบลงมา ความรู้สึกตื่นตระหนกหายไปหมดแล้ว มุมปากเผยรอยยิ้มบางพอเหมาะเดินตามเขาไปข้างหน้า
เวลานั่นเองผู้กรรมการเฉินเดินมาต้อนรับ มองไปที่กู้หยุนเซินอย่างดีใจ : “ทำไมเพิ่งจะมา?”
“ระหว่างทางมีเรื่องนิดหน่อย” มุมปากของกู้หยุนเซินยกขึ้น พูดเย็นชาอย่างนอบน้อม : “โชคดีที่พวกเรามาทันเวลา”
มุมห้อง ลุงกู้เอ้อใบหน้าโกรธเดินไปใกล้กู้หยุนเจ๋อ พูดเสียงต่ำ : ”นายไม่ได้บอกว่านายมีวิธีทำให้ล่าช้า ทำให้พวกเขามาสายหรือไง?”
กู้หยุนเจ๋อไม่ตอบ มองไปที่สองคนพูดคุยอารมณ์ดีแบบนั้น โกรธจนลูกตาแดงก่ำ
เขาโทรหาอู๋จิ้งหย่าทันที เมื่ออีกฝั่งรับสาย เขาก็ตวาดใส่ไปทันที เสียงอู๋จิ้งหย่าในโทรศัพท์ดูตื่นตระหนก
“ผู้จัดการกู้ ฉันสาบาน ฉันทำลายชุดของเสิ่นเยว่ซีไปแล้วจริงๆ ทำลายจนไม่เหลือชิ้นดี ฉันคิดไม่ถึงพวกเขาจะเตรียมสำรองไว้ อีกอย่างเพื่อป้องกันเหตุคาดไม่ถึง ฉันยังให้คนไปจัดการกับรถของกู้หยุนเซิน รถขับได้ครึ่งทางจะเกิดไฟไหม้แน่นอน พวกเขาจะมาทันเวลาได้ยังไง”
เมื่อกู้หยุนเจ๋อได้ยินก็เงยหน้าขึ้น ผู้ชายข้างหน้ากำลังเดินมาทางนี้พอดี สายตาโหดเหี้ยมสบตาจ้องมาที่เขา กู้หยุนเจ๋อสั่นขึ้นมาอัตโนมัติ รีบวางสายลงทันที
ฉากนี้ถูกกู้หยุนเซินเห็นเข้า เขาหัวเราะครั้งหนึ่งก่อนจะเก็บสายตากลับมา
ตอนชุดของเสิ่นเยว่ซีถูกทำลาย เขาเดาว่าหลังจากนี้ต้องมีบางอย่างที่ไม่เป็นใจ ถึงได้ให้Kevinเปลี่ยนรถมา ทำให้เดินทางมาที่นี่ได้อย่างราบรื่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา