เสิ่นเยว่ซีกลับมาทำงานยุ่งหัวหมุนทุกวัน เมื่อมีเวลาก็ไปดูแลแม่ ไม่แม้แต่จะนึกถึงเรื่องอื่นได้
ตอนกู้หยุนเซินมาถึง เธอยังคงสวมชุดกาวน์อยู่ ใบหน้าของเขานิ่งอึ้งอยู่กับที่
เขาสวมชุดสูทสั่งตัดเข้ารูป รูปร่างสูงใหญ่ที่ดูสง่าอย่างมาก ใบหน้าเย็นชาดึงดูดคน ดวงตาลุ่มลึกที่ทำให้คนตะลึง
มองดูเธอที่ช็อกไร้สติ กู้หยุนเซินพูดอย่างหมดหนทาง : “คงไม่ใช่ว่าเธอลืมงานวันเกิดของผู้กรรมการเฉินแล้วใช่ไหม!”
เสิ่นเยว่ซีถึงมีสติกลับมา รู้สึกใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว : “ขอโทษจริงๆ ฉัน………ฉันยุ่งมาก เผลอลืมไปแล้ว”
“งานเลี้ยงเริ่มตอนหนึ่งทุ่มตรง พวกเรายังพอมีเวลาเตรียมตัวอีกสามชั่วโมง ฉันนัดสตูดิโอไว้แล้ว ให้เธอไปแต่งหน้าทำผมก่อน”
กู้หยุนเซินเงยหน้ามามองนาฬิกาข้อมือ และลากข้อมือของเสิ่นเยว่ซีมุ่งตรงไปข้างนอก
“เดี๋ยว ฉันยังไม่เปลี่ยนชุดเลย………” เสิ่นเยว่ซีตกใจ
กู้หยุนเซินไม่ได้หยุดฝีเท้าลง : “ไปเปลี่ยนชุดที่นั้น”
ยี่สิบนาทีผ่านไป ทั้งสองมาถึงสตูดิโอของKevin
เสิ่นเยว่ซีมองดูการตกแต่งที่อลังการของสตูดิโอจนอ้าปากค้าง สตูดิโอนี้เธอเคยเห็นแค่ในทีวีเท่านั้น เป็นสตูดิโอที่พวกดาราชอบมากัน
อาจารย์Kevinเป็นสไตลิสต์อันดับต้นๆของโลก เหล่าดาราบ้านรวยต่างอยากให้เขาออกแบบชุดให้ตัวเอง แต่แม้แต่หน้าพวกเขายังไม่เคยเห็น
กู้หยุนเซินพาเธอเข้ามาในทางที่คุ้นเคยลากเธอเข้าไป เหมือนว่าเคยมานับครั้งไม่ถ้วน
เพิ่งเข้ามาก็มีร่างสูงผอมเดินเข้ามาต้อนรับด้วยชุดแฟชั่น น้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความโกรธ : “กู้หยุนเซิน ทำไมนายเพิ่มมาเอาตอนนี้ ฉันรอนายที่นี้เกือบจะครึ่งชั่วโมงเต็ม นายรู้หรือเปล่าเวลาฉันนั้นมีค่าแค่ไหน”
ครึ่งตัวของเสิ่นเยว่ซีที่แอบอยู่หลังกู้หยุนเซินชะโงกหัวออกมา
KEVINรูปร่างสูงผอม ใบหน้าบอบบาง ยากจะแยกออกว่าเป็นบุรุษหรือสตรี มองแว็บแรกก็เป็นแฟชั่นนิสต้ามืออาชีพ
เพียงแต่ตอนนี้ใบหน้าของเขามีแต่ความโกรธ สายตาคมมองจ้องแรงมาที่ทั้งสองครั้งหนึ่ง
เสิ่นเยว่ซีค่อยๆก้มหัวขอโทษ : “ขอโทษ เป็นเพราะฉันถึงทำให้ล่าช้า ขอโทษด้วย!”
เธอยังคงสวมชุดกาวน์อยู่ บนตัวมีกลิ่นน้ำยาฆ่าเชื้อของโรงพยาบาล ไม่ได้เข้ากับสตูดิโอที่ดูอลังการสักนิด
KEVINปิดจมูกมองไปทางเธอ มือเชยคางของเธอขึ้นมาดู ร่างสูงใหญ่ของกู้หยุนเซินกันหน้าเสิ่นเยว่ซี “เพี้ยะ”เสียงดังเอามือของเขาออกไป
น้ำเสียงเย็นชาต่ำพูด : “ยังยื่นมาอีกฉันจะตัดแขนนายทิ้ง!”
KEVINมองภาพที่เขาปกป้องเสิ่นเยว่ซีไว้ข้างกายอย่างผู้รับใช้ที่ซื่อสัตย์ ลูบมือของตัวเองที่มีรอยแดงเม้มปากพูด : “เงยหน้าขึ้นมา ฉันจะดูหน้าตาเป็นยังไง”
เสิ่นเยว่ซีได้ยินก็เงยคางหยกเล็กขึ้นมา
ใบหน้าเล็กของเธอใหญ่เท่าฝ่ามือเขา ใบหน้าที่ดูงดงาม ดวงตาอัลมอนด์ชุ่มชื่นเป็นประกาย จมูกเล็กตรงได้รูป ริมฝีปากอมชมพู ใบหน้าไม่มีร่องรอยการแต่งหน้า ดูบริสุทธิ์แท้จริง
แว็บแรกที่Kevinเห็นก็รู้สึกตื่นเต้น เหมือนกับพบของล้ำค่าเมื่อร้อยปีก่อน เดินวนรอบตัวเธอจากนั่นรีบสั่งพนักงานให้เตรียมเครื่องสำอางให้พร้อม
“ซีซีนะ มากับฉัน ฉันให้คนพาเธอไปบำรุงผิวก่อน หลังจากนั้นค่อยมาแต่งหน้าทำผม!”
น้ำเสียงต่างจากที่โมโหเมื่อกี้อย่างมาก ตอนนี้น้ำเสียงของเขาหวานเยิ้มเหมือนน้ำผึ้ง เมื่อเสิ่นเยว่ซีได้ยินก็ขนลุกไปทั้งตัว
บำรุงผิวตั้งแต่หัวจรดเท้า ความเหนื่อยล้าจากการทำงานทั้งวันทลายหายไป ดูมีชีวิตชีวา ผิวขาวเป็นประกายมากกว่าก่อนหน้านี้
เสิ่นเยว่ซีนั่งบนเก้าอี้ Kevinมองหน้าเธออยู่นานถึงจะเริ่มแต่งแต้มใบหน้าของเธอ
หากเป็นแค่รอยเล็กยังพอได้ แต่ชุดม่วงอมแดงที่งดงามชุดนี้ ถูกกรีดจากแขนฝั่งขวาลากยาวถึงซ้าย ชุดที่งดงามเพียงพริบตาการเป็นเพียงชุดแย่ๆชุดหนึ่ง
“ชุดนี้ถูกทำลายหนักไป ไม่สามารถแก้ไข้ได้” Kevinรีบหันกลับมาสีหน้ารู้สึกผิด
ใจของเสิ่นเยว่ซีเต้นแรง เธอรู้ว่าวันนี้ต้องเผชิญกับความยากลำบากมากมาย คิดไม่ถึงว่าแค่เริ่มต้นก็ไม่เป็นใจแล้ว มีคนจงใจต่อกรกับเธอ
กู้หยุนเซินได้ยินก็รีบมา มองดูชุดที่ถูกทำลาย ทั้งตัวของเขามีไอเย็นชาแผ่ออกมา ยืนอยู่ที่เดิมไร้อารมณ์ใบหน้ามืดลงดูน่ากลัว ราวกับว่ามีพายุกำลังก่อตัวขึ้น มองดูจากไกลๆทำให้คนตื่นกลัว
“ไม่เป็นไร กู้หยุนเซินนายอย่าโมโหไป แค่ชุดๆเดียวเท่านั้นเอง ฉันใส่ชุดอื่นก็ได้” เสิ่นเยว่ซีรีบลุกขึ้น ตบไปที่แขนของเขา กลัวอารมณ์เขาจะแปรปรวน
สายตาของกู้หยุนเซินอบอุ่นขึ้นมาก แต่หมัดในมือยังคงกำแน่น
ไม่ผิด แค่ชุดๆเดียวเท่านั้น แต่ว่าเขาอยากมอบสิ่งที่ดีที่สุดกับเธอ
เขาหันไปหาKevin : “เอาชุดที่นายเก็บไว้มา ฉันซื้อมัน”
“นั่น นั่นไม่ได้………” ใบหน้าของKevinบอกไม่ถูก รีบโบกมือ : “ชุดนั้นแพงมาก แพงสุดๆ”
“ชุดมันมีปัญหาในที่ของนาย ไม่ว่ายังไงนายก็ต้องมีส่วนในการรับผิดชอบ” สายตาเย็นชาของกู้หยุนเซินไล่ต้อน
ใบหน้าของKevinก้มต่ำลง ในที่สุดก็ยอมตกลง หยิบชุดออกมาจากกระเป๋านิรภัยอย่างระมัดระวัง ปากพูดพึมพำ : “ชุดมูลค่านับสิบล้าน ในงานเลี้ยงแบบนี้มันแพงเกินไปนะ”
สีหน้าของกู้หยุนเซินไม่เปลี่ยน นั่งลงบนโซฟารอเสิ่นเยว่ซีเปลี่ยนชุด
ผ่านไปสิบนาที เสียงเล็กของเธอพูดผ่านหลังม่าน : “ฉันเปลี่ยนเสร็จแล้ว!”
เสียงพูดเสร็จ ม่านถูกเปิดออก กู้หยุนเซินเห็นร่างด้านหลังม่าน ทั้งตัวนิ่งอึ้ง อดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย สายตาร้อนขึ้นมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวานใจประธานเย็นชา