หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต นิยาย บท 13

ฮ่องเต้ทรงพยักหน้าตรัสว่า “อนุญาต”

เห็นเพียงซ่งหวานหว่านกระซิบอะไรบางอย่างอยู่ข้างหูเต๋อกงกง จากนั้นเต๋อกงกงก็รีบเข้าห้องไปอย่างรวดเร็ว หยิบแจกันดอกไม้ที่ทำมาจากเครื่องเคลือบลายครามใบหนึ่งออกมา ปากของแจกันใหญ่พอที่จะเอามือข้างหนึ่งสอดเข้าไปได้พอดี

ซ่งหวานหว่านยืนอยู่ตรงหน้าบรรดาข้าหลวงของตำหนักฉางเล่อ นางชี้ไปที่แจกันแล้วเอ่ยปากกล่าวว่า

“พวกเจ้าฟังให้ดี ข้างในนี้ข้าใส่ตัวยาสมุนไพรที่สามารถจับเท็จได้ลงไป พวกเจ้าต้องเอามือล้วงเข้าไปแตะที่ก้นแจกันไว้สักครู่ คนที่พูดเท็จ นิ้วมือจะเปลี่ยนเป็นสีดำ ตอนนี้ ให้พวกเจ้าเรียงแถวกันมาจับเท็จตามลำดับ”

ซ่งหวานหว่านเลื่อนเก้าอี้มาตัวหนึ่งแล้วนั่งลง นางถือแจกันเอาไว้เอง ทั้งยังเรียกองครักษ์สี่คนมายืนข้างหน้านาง เพื่อใช้บังสายตาข้าหลวงของตำหนักฉางเล่อที่ยืนกันอยู่

“คนแรก”

ขันทีน้อยที่อยู่ด้านซ้ายสุดของแถวแรกเดินขึ้นหน้ามา แล้วยื่นมือเข้าไปในแจกันตามเงื่อนไข

“แตะเสร็จก็เอามือออกมาให้ข้าดูหน่อย”

ขันทีน้อยทำตาม

หลังซ่งหวานหว่านตรวจดูนิ้วมือของเขาอยู่ชั่วครู่ นางก็ชี้มือไปยังจุดที่อยู่ห่างไกลออกไป “เจ้าไปยืนตรงนั้น”

ขันทีน้อยถูกคนพาออกไปอย่างไม่ทราบเหตุผล

“คนต่อไป”

...

ข้าหลวงหลายสิบคนถูกทดสอบติดๆ กัน ทั้งหมดล้วนยืนอยู่ตรงจุดที่ซ่งหวานหว่านเคยชี้

ทุกคนราวกับตกอยู่ในเมฆหมอก ต่างไม่ทราบเหตุผลว่าทำไปทำไม

เวลานี้ นางกำนัลน้อยอายุเพียงสิบสามสิบสี่ปีที่ยืนอยู่เป็นคนสุดท้ายก็เดินขึ้นหน้ามา ก้นบึ้งนัยน์ตามีแววกระวนกระวายใจวาบผ่าน จึงถูกซ่งหวานหว่านจับได้

นางจ้องไปที่นางกำนัลน้อยแล้วกล่าวว่า “ต้นยี่โถในลานตำหนักของพระสนม ใช่เจ้าเป็นคนปลูกหรือไม่”

“ไม่ใช่เพคะ บ่าวไม่ได้ปลูก!” นางกำนัลน้อยกล่าวปฏิเสธ

ซ่งหวานหว่านไม่พูดอะไรอีก ให้นางล้วงมือเข้าไปในแจกันเพื่อจับเท็จ

นางกำนัลน้อยล้วงเข้าไปอย่างระมัดระวังจากนั้นก็เอามือออกมา ขณะที่เห็นว่าปลายนิ้วไม่มีอะไรผิดปกติ ดวงตาของนางก็เต็มไปด้วยความดีใจ

ใครจะรู้ว่าซ่งหวานหว่านกลับคว้ามือข้างหนึ่งของนางไว้ “เจ้า ก็คือคนร้าย”

“ไม่... ไม่ใช่... มือของข้าไม่ได้เปลี่ยนเป็นสีดำ นี่พิสูจน์ว่าข้าไม่ได้โกหก...”

นางกำนัลน้อยทั้งตกใจทั้งหวาดกลัว แผดเสียงร้องว่า “พระนางหวางเฟย ท่านจะให้บ่าวรับโทษเพื่อไม่ให้ท่านเสียหน้าไม่ได้หรอกนะเพคะ! แม้บ่าวจะต่ำต้อย ก็เป็นชีวิตคนคนหนึ่ง ขอร้องหวางเฟยโปรดไว้ชีวิตด้วย”

การร่ำไห้ของนางในครั้งนี้ ทำให้ข้าหลวงไม่น้อยสะเทือนใจ

แม้แต่ในพระเนตรของฮ่องเต้ก็เจือแววสงสัยอยู่หลายส่วน

ทว่าเจียงอู๋วั่งกลับมองซ่งหวานหว่านอย่างสงบเยือกเย็น ราวกับมั่นใจว่านางจะต้องทำให้คนประหลาดใจแน่

ซ่งหวานหว่านกลับยิ้ม

“เจ้าคิดว่าข้าจะหาหลักฐานเพื่อพิสูจน์ว่าเจ้าเป็นคนร้ายออกมาไม่ได้ใช่หรือไม่ เช่นนั้นข้าจะทำให้เจ้าเลื่อมใสเอง”

กล่าวจบ นางก็คว้ามือของนางกำนัลน้อยขึ้นมา ชูให้ทุกคนดู

“บนมือของนาง ไม่มีอะไรเลยใช่หรือไม่”

ทุกคนไม่เข้าใจเหตุผล จึงพยักหน้า

“เช่นนั้นพวกเจ้าลองดูว่าทุกคนที่เคยถูกทดสอบก่อนหน้า บนมือของพวกเขามีลักษณะอย่างไร”

บรรดาข้าหลวงที่อยู่ตรงจุดเดิมได้ยินเสียง ต่างก็พากันเดินเข้ามา

พวกเขาชูมือขึ้น บนปลายนิ้วของแต่ละคน ต่างมีผงสีขาวติดอยู่ทั้งสิ้น

“นี่……”

ทุกคนพลันตกตะลึง แม้แต่นางกำนัลน้อยก็เริ่มเปลี่ยนเป็นลุกลี้ลุกลนแล้ว

“ที่ก้นแจกันของแจกันใบนี้ เดิมทีก็ไม่มีผงยาจับเท็จอะไรนั่นอยู่แล้ว เมื่อครู่ที่เต๋อกงกงใส่เข้าไปคือผงแป้งสีขาว” ซ่งหวานหว่านส่งเสียงอธิบาย ความมั่นใจที่แสดงออกมาพาให้คนอดไม่ได้ที่จะเลื่อมใสศรัทธา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: หวางเฟยอัปลักษณ์พลิกชีวิต